พรรคกูมี”เรื่องยุบพรรค”อยู่ โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

สถานีคิดเลขที่ 12/สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

——————

พรรคกูมี”เรื่องยุบพรรค”อยู่

——————-

ทษช. อันมีความหมายถึง “พรรคไทยรักษาชาติ

ที่อาจโยงถึง ทักษิณ ชินวัตร

ซึ่งเป็น ศัตรูสำคัญของ คสช.

ดังที่ มติชนสุดสัปดาห์ นำขึ้นปก คสช.VS ทษช. นั้น–น่าสนใจ

ทษช. ณ นาทีนี้ เริ่มชัดเจนขึ้นตามลำดับ

เมื่อมีข่าวระบุว่า “ไทยรวมพลัง” พรรคเก่าที่จดจัดตั้งมาประมาณ 7 ปี ได้ดำเนินการ เปลี่ยนชื่อ เป็น พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) แล้ว

และ ทษช.ได้มีการจัดประชุมใหญ่เพื่อรับรองข้อบังคับพรรคเป็นที่เรียบร้อยเช่นกัน และกำลังดำเนินการจัดตั้งสาขาพรรคนัดแรกที่ จ.เลย

ข่าว แจ้งว่า การขับเคลื่อนครั้งนี้ นำโดยนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด อดีตส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ

แม้บทบาทภายนอกจะมีไม่มากนัก แต่ในบรรดาส.ส.อีสาน เป็นกลุ่มต่อเชื่อมถึง “ชินวัตร”อย่างใกล้ชิด

จึงไม่น่าแปลกใจที่จะถูกวางเป็นตัวหลัก ในการดำเนินการ ทษช.

ที่อาจเป็นกิ่งก้านสาขาของเพื่อไทย ในภาคอีสาน

ต้องไม่ลืม พรรคเพื่อไทย ที่ตอนนี้ได้วางยุทธศาสตร์ แยกกันเดิน ร่วมกันตี

มี1.พรรคเพื่อไทย เป็นพรรคหลัก เคลื่อนไหวในส่วนภาคกลางและกทม.

2.พรรคเพื่อธรรม ที่มีนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เป็นหัวหน้าพรรค เคลื่อนไหวในภาคเหนือ

3)พรรคเพื่อชาติ ที่มีนายยงยุทธ ติยะไพรัช และจตุพร พรหมพันธ์ เป้นแกนนำเคลื่อนไหว ดูแลมวลชนคนเสื้อแดง

4)พรรคประชาชาติ มีนายวันมูหะมัด นอร์ มะทาเป็ นหัวหน้า ดูแลพื้นที่ภาคใต้

และ 5)พรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งเมื่อดูแกนนำที่เคลื่อนไหว แล้ว เป็นไปได้ ที่จะมุ่งดูแล ภาคอีสาน

นั่นเท่ากับ ว่า ตอนนี้ เครือข่าย”ทษช” ตรึงทุกพื้นที่แล้ว

แต่ว่า ในแต่ละกลุ่มใช่จะราบรื่น

เรากลับพบร่องรอย แห่งการช่วงชิงการนำ โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นแกนหลัก การจัดสรรบุคลากรยังไม่ลงตัวนัก

เพราะมีเงื่อนไขต่างๆเข้ามาเกี่ยวข้องมาก

ทั้ง ใครจะเป็นผู้นำพรรคตัวจริง ซึ่งหมายถึงผู้ที่ชูธงชองเก้าอี้ นายกรัฐมนตรี ซึ่งยังมีการช่วงชิงและต่อรองกันอยู่อย่างเข้มข้น

อีกเงื่อนไข หนึ่ง ก็เป็นกรณี ที่เกริ่นไว้ตอนต้น นั่นคือ ความขัดแย้งจากภายนอก

โดยเฉพาะกับ “คสช.”ที่ไม่ได้คลี่คลายลง

ยิ่งเมื่่อ นายทักษิณ ชินวัตร ประกาศพรรคเครือข่าย จะกวาด 300 เก้าอี้ เพื่อจัดตั้งรัฐบาล “ดับฝัน” การสืบทอดอำนาจของคสช.

ทำให้ บิ๊กเนม”ของคสช.อย่างพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ออกมาตอบโต้ด้วยตนเอง

พร้อมทั้ง เรียกร้องให้ คณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.)จัดการพรรคเพื่อไทย ฐาน ปล่อยให้บุคคลภายนอกมาครอบงำ

ขณะเดียวกันก็ฟื้นถึงคดีเก่าๆ ที่ต้องไม่ลืม

แน่นอนว่า ย่อมเกี่ยวข้องทั้งคดีในส่วนครอบครัว”ชินวัตร” และในส่วนพรรคเพื่อไทย

ที่มีปมใหญ่ กรณี กรรมการบริหารถูกกล่าวฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.แถลงโจมตีผลงาน 4 ปี คสช. ที่อาจถูกลากไปสู่ประเด็นยุบพรรค ในช่วง”สุกดิบ”

ที่อาจทำให้ พรรคเพื่อไทย แพ้ฟาวล์ คาเวที

ภาวะที่คนเพื่อไทย รู้ “พรรคกูมีเรื่องยุบพรรค”อยู่

นี่เอง ที่ทำให้อยู่ในภาวะละล้าละลัง มีข่าวว่า สมาชิกบางส่วนจะแยกวงไปยังพรรคสาขา เพื่อไม่ต้องเผชิญภาวะไม่แน่นอนดังกล่าว

ทำให้ เกิดภาพเสียขบวน

สะท้อนว่า แรงกดดันของ คสช.มีไม่น้อย

และนี่อาจเป็นยุทธวิธีหนึ่งที่หยิบมาใช้เตะตัดขากลุ่มพรรคเคือข่ายทักษิณ อย่างต่อเนื่อง

ศึก คสช.VS ทษช. อันหมายถึง ทักษิณ ชินวัตร จึงทวีความดุเดือดขึ้นตามลำดับ

—————