การ์ตูนที่รัก/นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ / เทพลานโบว์โทกิวะ เล่ม 1-2

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

การ์ตูนที่รัก/นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

 

เทพลานโบว์โทกิวะ เล่ม 1-2

 

เทพลานโบว์โทกิวะ (The Goddess in Tokiwa Bowl) โดยฮิโรกิ ยางามิ ลิขสิทธิ์วิบูลย์กิจ

เปิดมาหน้าแรกก็หวามแล้ว นักเรียนหญิงในชุดมัธยมกระโปรงสั้นยืนตรง ภาพช้อนขึ้นจากด้านหลัง หน้าถัดมาเป็นภาพด้านข้างและด้านหน้า ชายกระโปรงเลิกขึ้นวับๆ แวมๆ

“เข้าพ็อกเก็ต” แปลว่าไม่ตกเลน-มั้ง ขออภัยไม่เคยเล่นโบว์ลิ่ง

“แท็ป 10” แปลว่าเหลือพินหมายเลข 10 บนเลน-มั้ง

“ฉัน โทกิวะ คาเอเดะ อยู่ปี 2 โรงเรียนคิตาซาว่าค่ะ” นางเอกของเราหันมาแนะนำตัวกับคนอ่าน พร้อมบอกวันเกิด ส่วนสูงน้ำหนัก กรุ๊ปเลือด และเบอร์รองเท้า วันนี้เธอแต่งชุดนักเรียนมาเล่นโบว์ลิ่งโชว์เพื่อหวังแก้ไขสถานการณ์ที่ชมรมโบว์ลิ่งจะถูกยุบเพราะมีสมาชิกเหลือเพียง 2 คน แต่บังเอิญเป็นวันอาทิตย์ที่ไม่มีใครโผล่มาเลย

มีอยู่คนหนึ่ง เป็นเด็กหนุ่มเงียบเหงา คาเอเดะเดินเข้าไปทักทาย เด็กหนุ่มนั้นพูดขึ้นว่า “เสียงสแปร์” เขาอยากได้ยินเสียงสแปร์เก็บพินที่เหลืออยู่บนเลนเพียงพินเดียวนั้น

เด็กหนุ่มเล่าต่อไปว่า เขาเคยตามพ่อมาโรงโบว์ลิ่งบ่อยๆ สมัยเด็กๆ แล้ววันหนึ่งพ่อก็จากไป หลังจากนั้นตัวเองไม่ได้เล่นอีกเลย “เวลาก็ผ่านมา 8 ปีแล้ว”

ที่แท้เด็กหนุ่มคนนั้นอยู่ปี 1 โรงเรียนเดียวกัน สักครู่เพื่อนของเขาก็ตามมาหา

 

เช้าวันรุ่งขึ้นที่โรงเรียน “ดีครับ รุ่นพี่โทกิวะ” เพื่อนของเด็กหนุ่มทักทาย

“ที่แท้พวกนายเป็นนักเรียนที่นี่” คาเอเดะพูด

“ถ้าอย่างนั้นหรือว่า พวกนายจะรู้เรื่องที่โทกิวะ อิทสึกิ กัปตันชมรมโบว์ลิ่งและเจิดจรัสอยู่ในอันดับ 1 ของการจัดอันดับรุ่นพี่ที่น่าเสียดายทั้งๆ ที่เป็นหนุ่มหล่อของโรงเรียนคิตาซาว่าอย่างสง่างาม” ช่างชื่อการจัดอันดับยาวจริงๆ “ซึ่งจัดอันดับโดยเด็กผู้หญิงในโรงเรียนเป็นพี่ชายของฉันกับเรื่องที่เขาเป็นแบบนี้ด้วยหรือ” ว่าแล้วชี้ไปที่พี่ชายอิทสึกิ “ถ้างั้นรู้เรื่องนี้ด้วยมั้ยล่ะ เรื่องที่พวกฉันสองพี่น้องเป็นลูกชายและลูกสาวของผู้บริหารรุ่นที่สองของโทกิวะโบว์ลที่ใกล้จะเจ๊งซึ่งตั้งอยู่ที่ประตูทางออกทางทิศเหนือของสถานีรถไฟที่เงียบสงัดเหมือนกับชมรมโบว์ลิ่งน่ะ”

คุณเธอโพนทะนาเรื่องส่วนตัวเสียเกลี้ยงในรอบเดียว

“พี่น้องโทกิวะโบว์ลที่น่าเสียดาย” คือฉายาที่ใครๆ ให้แก่คาเอเดะและพี่ชาย คาเอเดะเดินเข้าประจันหน้าเด็กหนุ่มปีหนึ่งลึกลับที่พบเมื่อวานนี้แล้วพูดว่า “ตอนเลิกเรียน เราไปที่โทกิวะโบว์ลด้วยกันมั้ย มาสานต่อจากเมื่อ 8 ปีก่อนกันเถอะนะ”

“หา! นี่พวกนายมีความสัมพันธ์ที่น่าสงสัยมาก่อนหน้านั้นแล้วหรือ!”

 

หลังเลิกเรียน คาเอเดะและพี่ชาย เด็กหนุ่มและเพื่อน ไปพบกันที่ลานโบว์ลิ่ง คาเอเดะโยนคนแรกแล้วก็แท็ปอีก ในขณะที่เด็กหนุ่มใช้มือซ้ายโยนลูกโบว์ลิ่งออกไปด้วยความสงบแล้วเก็บสไตรก์ในทันที เขาพูดว่าเลียนแบบพ่อเท่านั้นเองและไม่เคยโยนมาแปดปีแล้ว

“คือว่านะ ถ้าทิศทางที่โยนลูกโบว์ลิ่งออกไปกับทิศทางการหมุนของลูกโบว์ลิ่งไม่ตรงกันละก็ ลูกโบว์ลิ่งมันจะเลี้ยวอย่างคาดไม่ถึงเลยนะ” เป็นคำสั่งสอนเรื่องที่หนึ่ง

“โบว์ลิ่งน่ะ เขาไม่เล็งที่พิน” เป็นอิทสึกะสอนต่อ “แต่จะมองไปที่จุดสังเกตที่เรียกว่าสปอตซึ่งเป็นสัญลักษณ์รูปสามเหลี่ยมชี้ไปข้างหน้าแล้วค่อยโยน” ว่าแล้วจึงท้าเด็กหนุ่มโยนสามครั้งแล้วสาธิตการโยนแบบลูกโค้งให้ดูพร้อมเก็บสไตรก์ไปด้วย

ทุกครั้งที่พี่ชายได้สไตรก์จะออกท่าทางโอเวอร์แอ๊กติ้งในขณะที่เด็กหนุ่ม “โน รีแอ๊กชั่น” อยู่ตลอดเวลา เขาทดลองโยนด้วยการเล็งสปอตแทนการเล็งที่พินแล้วเก็บสไตรก์สามครั้งอย่างง่ายดาย

อ่านการ์ตูนญี่ปุ่นแล้วได้ความรู้หลากหลายวงการ

 

“อาซาฮินะ โทคิโอะ” เด็กหนุ่มเพิ่งแนะนำชื่อตัวเองเป็นครั้งแรกเมื่อจบบทที่สอง

“ส่วนนายชื่อทิบุชานิใช่มั้ย” พี่ชายอิทสึกิหันไปทางเพื่อนของอาซาฮินะ “ขอบอกไว้ก่อนนะ ถ้านายมีเป้าหมายเพื่อจีบคาเอเดะละก็ ฉันจะให้นายออกจากชมรมทันที” ที่แท้ชมรมเหลือแค่สองพี่น้องเพราะพี่ชายไล่ออกไปหมดแล้วนี่เอง

“ต่อให้ผมรู้สึกสนใจสิ่งที่อยู่ใต้กระโปรงของรุ่นพี่คาเอเดะ” ทิบุชานิผู้ร่าเริงตอบ “ผมก็ไม่กล้าพูดมันออกมาหรอกครับ”

วันรุ่งขึ้นหลังเลิกเรียน สองพี่น้องที่น่าเสียดาย อิทสึกิและคาเอเดะ กับสองสมาชิกใหม่ของชมรมโบว์ลิ่ง อาซาฮินะและทิบุชานิ พบนักเลงโบว์ลิ่งจากโรงเรียนพาณิชย์ใกล้ๆ คือ รุ่นพี่เซ็นจุ ปี 3 และนายหุ่นล่ำคุมะไก ปี 2 รอท้าแข่งอยู่แล้ว นายหุ่นล่ำคุมะไกโยนเป็นคนแรก

“อะไรกันเนี่ย!” ทิบุชานิร้องลั่นด้วยความตื่นตะลึง “เสียงนี่มัน! ลูกโบว์ลิ่งกำลังคำรามงั้นเหรอ!” มันคือการโยนลูกแบบเงื้อแขนสูงอันหนักหน่วง ส่งเสียงครืนดังสนั่นเมื่อลูกโบว์ลิ่งกลิ้งไปตามเลน แล้วสไตรก์แบบ “พินปลิวไปเลย”

จบเล่ม 1

 

เล่ม 2 เป็นการแข่งขันระหว่างสองทีมตลอดทั้งเล่ม ให้ความรู้เรื่องโบว์ลิ่งเป็นระยะๆ ทั้งวิธีการแข่งขันและการนับแต้มซึ่งอ่านไม่ค่อยเข้าใจ แต่ส่วนที่ว่าด้วยเทคนิคการเล่น อ่านง่ายสนุกดี

อิทสึกิ โทกิวะ ทำสไตรก์ได้ตลอดเวลาด้วยลูกโค้งอัศจรรย์ สมกับที่เป็นทายาทของตระกูล ในขณะที่อาซาฮินะ โทคิโอะ ในวันนี้กลับทำสไตรก์ไม่ได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว เขาทำแท็ป 7 ทุกรอบด้วยมือซ้ายที่เขาถนัด นั่น คือเหลือพินหมายเลข 7 ไว้หนึ่งพิน และเก็บสแปร์ไม่ได้แม้แต่ครั้งเดียวอีกด้วย

เหมือนอาซาฮินะจะยังมีความหลังฝังใจตั้งแต่แปดปีก่อน อิทสึกิสอนอาซาฮินะเก็บสแปร์ด้วยการเปลี่ยนระนาบการเดินเข้าหาเลนและการเล็งพร้อมวาดรูปประกอบ ดีต่อคนอ่านจริงๆ

ด้านทีมโรงเรียนพาณิชย์ รุ่นพี่เซ็นจุสุขุมลุ่มลึกเท่าๆ กับพี่ชายอิทสึกิ เขาเป็นถึงหนึ่งในจตุรเทพของวงการโบว์ลิ่งมัธยมปลาย เขาจึงทำสไตรก์ได้เป็นว่าเล่นยกเว้นเกมสุดท้าย ในขณะที่ลูกทีมคือคุมะไกมีฝีมือเก็บสแปร์ได้ทุกครั้งคงเส้นคงวา ให้ความรู้เรื่องวิธีโยนโบว์ลิ่งเพื่อเก็บสแปร์ในรูปแบบต่างๆ กัน ขึ้นอยู่กับว่าพินที่เหลือสองพินวางทำมุมกันอย่างไร และอยู่ห่างกันเท่าไร

ไม่เคยรู้ว่าโบว์ลิ่งมีอะไรลึกซึ้งเช่นนี้

 

สองเล่มแรกนี้นักเขียนมีของแถมท้ายบทซึ่งน่าอ่านมาก

ของแถมเล่มแรกเป็นบทสนทนาระหว่างคาเอเดะกับทิบุชานิเรื่องวิธีเล็ง ในตัวเรื่องได้พูดถึงวิธีเล็งแบบเล็งที่พินและเล็งที่สปอตแล้ว ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่นักโบว์ลิ่งอาชีพชอบใช้คือเล็งที่ช่องว่างระหว่างสปอตกับสปอตที่เรียกว่าไลน์ โดยนักโบว์ลิ่งที่มีฝีมือสามารถเล็งได้อย่างแม่นยำถึงเศษส่วนของไลน์อีกด้วย

นอกจากนี้ สองคนยังคุยกันเรื่องน้ำหนักของลูกโบว์ลิ่งซึ่งมีผลต่อการวิ่งตรงไปของลูก

ของแถมเล่มสองก็น่าสนใจ ผู้แต่งเรื่องนี้คือผู้แต่งหนังสือการ์ตูนบาสเกตบอล Dear Boys มาแล้ว ในตอนแรกเขาเสนอเนื้อเรื่องดาร์กๆ เกี่ยวกับนักโบว์ลิ่งแต่บรรณาธิการขอให้แก้เป็นเรื่องของวัยใสซึ่งเขาไม่เต็มใจเท่าไรนัก แต่ก็ยินยอมเพื่อให้เรื่องได้ออกตีพิมพ์

จะเห็นว่าแม้เป็นนักเขียนที่มีผลงานมาแล้วก็ยังต้องเป็นส่วนหนึ่งของทีม และเดาว่าจำเป็นต้องลดอีโก้ลงเพื่อให้ทีมและผลงานออกสู่ตลาดได้