เผยแพร่ |
---|
เมื่อวานนี้ (11 ตุลาคม 2561) สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ทางการมาเลเซีย ได้ปล่อยตัวชาวมุสลิมอุยกูร์จำนวน 11 คนให้เป็นอิสระ โดยหลบหนีเข้ามาเลเซียหลังแหกหนีจากห้องขังของตำรวจคนเข้าเมืองในประเทศไทยเมื่อปีที่แล้ว และส่งพวกเขาทั้งหมดไปยังตุรกี นับเป็นความท้าทายของรัฐบาลมาเลเซียที่ไม่สนใจคำร้องขอของรัฐบาลจีนที่ให้ส่งตัวชาวอุยกูร์กลับไปยังจีน
โดยการเปิดเผยครั้งนี้ มีขึ้นเมื่อ นายฟามี โมอิน ทนายความส่วนตัวของกลุ่ม 11 ชาวอุยกูร์กล่าวว่า อัยการมาเลเซียได้ถอนข้อหาต่อชาวอุยกูร์ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรมและพวกเขาเดินทางไปถึงตุรกีแล้ว หลังขึ้นเครื่องบินออกจากกัวลาลัมเปอร์ไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
“ข้อหาได้ถูกถอนออกเพราะคณะอัยการสูงสุดมาเลเซียเห็นชอบคำอุทธรณ์ของฝ่ายเรา” ทนายความ กล่าว
ด้านทางการมาเลเซีย ไม่ว่า กรมตรวจคนเข้าเมือง,กระทรวงมหาดไทย,สำนักอัยการสูงสุด หรือแม้แต่กระทรวงต่างประเทศจีนไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นต่อเรื่องนี้
รายงานระบุว่า ชาวอุยกูร์ทั้ง 11 คนนี้ แหกห้องขังแล้วหนีเข้ามาเลเซียเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว โดยพวกเขาชกกำแพงห้องขังจนเป็นรูและใช้ผ้าห่มเป็นเชือกโรยตัวออกมา
ก่อนหน้านี้ แหล่งข่าวระบุว่า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มาเลเซียเจอแรงกดดันจากจีนที่เรียกร้องให้ขับไล่ชาวอุยกูร์ออกจากประเทศ แม้หน่วยงานชาติตะวันตกต่างพยายามไม่ให้ส่งตัวพวกเขากลับจีน เพราะเสี่ยงถูกรัฐบาลจีนกดขี่ข่มเหง ละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งเกิดขึ้นอยู่ ณ ขณะนี้
สำหรับชาวอุยกูร์ หลายปีที่ผ่านมา ถูกปฏิบัติจากรัฐบาลจีนในฐานะกลุ่มชนส่วนน้อย โดยกล่าวหาว่าความคิดแบ่งแยกดินแดนและมีแนวคิดสุดโต่งต่อต้านรัฐบาลจีน ทำให้มีหลายร้อยหรือเกือบพันคนหลบหนีจากจีน ลอบเดินทางเข้ามายังประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก่อนเดินทางต่อไปยังตุรกี โดยชาวอุยกูร์ที่อยู่ในมาเลเซียเป็นส่วนหนึ่งจากทั้งหมดอีกกว่า 200 คนที่ถูกขังอยู่ในประเทศไทยในช่วงปี 2557 แม้ข้อมูลระบุชัดว่าพวกเขาเป็นพลเมืองตุรกีและขอให้ส่งไปยังประเทศตุรกี แต่ได้มีชาวอุยกูร์กว่า 100 คนถูกบังคับและส่งกลับไปยังจีน จนนานาชาติได้ออกมารุมประณาม