พิพากษาจำคุกตลอดชีวิต ‘ไซซะนะ’ ไฮโซลาวค้ายาบ้า 1 ล้านเม็ด

จำคุกไซซะนะตลอดชีวิต สมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด 1 ล้านเม็ด

26 ก.ย. 61 เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัวนายไซซะนะ แก้วพิมพา / นายชุมพร พนมไพร / และนายรัชพล หรือกิมเล้ง รัฐสพลพกรณ์ จำเลยที่ 1-3 จากทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ไปฟังคำพิพากษาศาลอาญา ในความผิดฐานสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด / ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 หรือเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต / และรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากผู้กระทำความผิดเพื่อประโยชน์แก่การกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด

จากกรณีเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2558 – 30 ธันวาคม 2559 จำเลยทั้ง 3 คนกับพวกอีกหลายคนที่ยังหลบหนี ร่วมกันมียาบ้ากว่า 3.3 ล้านเม็ด ไว้ในครอบครองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และแบ่งหน้าที่กันทำในรูปขบวนการเครือข่ายยาเสพติด เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน โดยแบ่งฟ้องยาเสพติดเป็น 2 ส่วน คือ ยาบ้าจำนวน 1 ล้านเม็ด และยาบ้าจำนวน 2.3 ล้านเม็ด

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานข้อมูลการใช้โทรศัพท์ติดต่อกันให้จัดหารถกระบะมือสองซุกซ่อนยาบ้าจำนวน 1 ล้านเม็ด เพื่อขนลำเลียงจาก สปป.ลาวไปส่ง เพื่อนำไปส่งมอบให้กับเครือข่ายยาเสพติดทางภาคใต้ของประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย รับฟังได้ว่านายไซซะนะ จำเลยที่ 1 เป็นผู้สั่งการว่าจ้างให้มีการลำเลียงยาบ้า โดยมีนายชุมพร จำเลยที่ 2 เป็นผู้นำยาบ้าไปซุกซ่อนในรถกระบะ ที่จะใช้ลำเลียงยาเสพติด ดังนั้นนายไซซะนะจึงมีความผิดฐานสมคบกันเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และนายชุมพลมีความผิดฐานร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาติ และสมคบกันเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พิพากษาให้ประหารชีวิตจำเลยทั้ง 2 คน แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงเหลือจำคุกตลอดชีวิต และให้นับโทษนายไซซะนะต่อจากยาบ้าคดีแรกจำนวน 1.2 ล้านเม็ดที่ศาลตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิตไปแล้วด้วย

ส่วนนายรัชพล จำเลยที่ 3 ที่ถูกกล่าวหาว่ารับโอนเงินจากการค้ายาเสพติด พยานหลักฐานโจทก์ยังไม่สามารถนำสืบได้ว่าเงินดังกล่าวมาจากการค้ายาเสพติดจำนวนนี้จริงหรือไม่ จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย พิพากษายกฟ้อง

ส่วนสำนวนยาบ้าจำนวน 2.3 ล้านเม็ด พยานของโจทก์ยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอ จึงยกประโยชน์ให้ความสงสัยให้จำเลยทั้ง 3 คน พิพากษายกฟ้อง