ประสบกับลีลาอันพลิ้วไหวของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ผ่านกระบวนการ “กลุ่มสามมิตร”

อย่าว่าแต่พรรคเพื่อไทยจะต้องอึ้งกิมกี่

แม้กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งสะสมความจัดเจนมาตั้งแต่ เดือนเมษายน 2489 ก็ต้องเอามือกุมขมับ ไปไม่ถูกอยู่เหมือนกัน

นึกไม่ถึงว่าวิทยายุทธ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน จะเฉียบระดับนี้

เพราะหากมองประสบการณ์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ก็เริ่มต้น ชีวิตการเมืองจากพรรคกิจสังคม ผ่านการเคี่ยวกรำฝึกปรือมาจาก

นายมนตรี พงษ์พานิช

แต่กระบวนท่าอันประสานเข้ากับ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กลับล้ำลึกเหนือความคาดหมาย

เด่นชัดว่ายิ่งกว่า”เหยียบหิมะ ไร้ร่องรอย”

 

ถามว่าการเดินสายแผ่”พลังดูด”ไม่ว่าที่จังหวัดเลย ไม่ว่าที่จังหวัดอุบลราชธานีเป็นเรื่องการเมืองหรือไม่

ตอบได้เลยว่า เป็น

ถามว่าการป่าวหมู่เทวฤทธิ์เรียกอดีตส.ส.อดีตส.ว.กว่า 100 คนไปสังสรรค์ ณ กอล์ฟเฮาส์ จังหวัดปทุมธานี เป็นการเมืองหรือไม่

ตอบได้เลยว่า เป็น

ขัดกับประกาศคสช.ฉบับที่ 57/2557 ขัดกับคำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 3/2558 หรือไม่

หัวหน้าคสช.ตอบเองว่า ไม่ขัด

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตอบเองว่า ไม่ขัด

เพียงแค่นี้ “กลุ่มสามมิตร”ก็เหมือน”พยัคฆ์เสียบปีก”

สามารถจัด”สามมิตรสัญจร”เดินสายรับฟังปัญหาประชาชน ได้เหมือนๆกับ “ครม.สัญจร”

 

วิทยายุทธ์อัน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน กับ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ร่วมกันขับเคลื่อนผ่าน”กลุ่มสามมิตร”นี้

มาจากการคิดประดิษฐ์สร้างระดับ”ปรมาจารย์”

ถือได้ว่าเป็น”ภูษาไร้ตะเข็บ” มองไม่เห็นความสัมพันธ์ระหว่าง “กลุ่มสามมิตร” กับ “คสช.” หรือสามารถโยงสายยาวไปยัง”พรรคพลังประชารัฐ”ได้

หากถือเป็น”แผนสมคบคิด”ก็อย่างชนิดมาเหนือเมฆ