เป็นช่วงเวลาที่ ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กลับมางดให้สัมภาษณ์สื่ออีกครั้งหลายวันติด ด้วยเหตุผลจะไม่ตอบคำถามการเมืองที่ไม่เกี่ยวกับตน งดโต้ตอบทางการเมือง เกรงเกิดความขัดแย้ง หากตอบไปโดยไม่ได้ตั้งใจตอบหรือหงุดหงิดเมื่อตอบไป เป็นการเปิดประเด็นตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เพราะล่าสุด ‘นคร มาฉิม’ คนประชาธิปัตย์ ออกมาแฉเบื้องหลังรัฐประหาร ที่มีกองทัพอยู่เบื้องหลัง เข้าทฤษฎีสมคบคิด ทำเอาสะเทือนำทั้ง ‘ค่ายพระราม6’ ต้องออกมาปกป้อง ‘ศักดิ์ศรี’ ของพรรคทันที
.
“ผมไม่อยากจะตอบเพราะไม่เกี่ยวอะไรกับรัฐบาล ฉะนั้นใครพูดใครโพสต์อะไรก็ไปว่ากันเอง ไม่ใช่คนของรัฐบาล เขาจะพูดอะไรก็ไปฟังกันเอง” พล.อ.ประยุทธ์ แจง
.
ด้าน ‘บิ๊กเจี๊ยบ’พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ในฐานะผู้นำ ทบ.1 ก็ตอบคำถามในลักษณะเดียวกับ ‘บิ๊กตู่’ ถึงกรณี ‘นคร’ ที่ออกมาพาดพิง ‘กองทัพ’ อยู่เบื้องหลังการรัฐประหาร ว่า ตนทราบเท่าที่สื่อทราบ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ช่วงนี้การเมืองมีการเคลื่อนไหวในกรอบ ทุกคนมีวิธีคิดและการเสนอที่แตกต่างกันออกไป สังคมจะเป็นผู้พิจารณาเอง
.
แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ให้สัมภาษณ์ แต่สิ่งที่พูดเปิดงานต่างๆ เป็นเรื่องการของ ‘อำนาจ-การใช้อำนาจ’ และการพาดพิงถึงคนในครัวครัว ‘บิ๊กตู่’ ท่ามกลางกระแสข่าวโจมตีคนในรัฐบาลผ่านโครงการต่างๆ โดยเฉพาะ ‘พี่เลิฟ’ อย่าง ‘บิ๊กป๊อก’พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่ถูกเป็นเป้าใหญ่ตอนนี้ สวนทางกับ ‘พี่ใหญ่’ อย่าง ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ที่อยู่ระหว่างการพักฟื้นอาการอาหารเป็นพิษ ที่ร่างกายยังอ่อนเพลียอยู่ ซึ่งทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.อนุพงษ์ ก็ห่วงไม่น้อย

“หลายคนอ้างผู้มีอิทธิพลในรัฐบาล สั่งโน้นสั่งนี้ ผมถาม จะสั่งได้อย่างไร ผมเป็นนายกฯ ยังไม่สั่งให้กระทรวงไหนเก็บเงินมาให้ มันสั่งได้เหรอ มันสั่งไม่ได้ อย่าไปเชื่อ ใครจะอ้างอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น จะเพื่อนผม จะสนิทสนม จะใครก็ไม่รู้หรือ แม้แต่คนในครอบครัวผม ก็ไม่ได้ มาขออะไรพิเศษไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
.
“ทำงานไม่เหนื่อย ตอบคำถามสื่อตอบได้ทั้งวัน สื่อถามให้ดี ลงให้ดี ผมตอบได้หมดทุกเรื่อง ขอให้ถาม ยิ่งเรื่องใครมาโจมตีผม ขอให้ถาม ผมจะตอบ ไม่ว่าอะไรทั้งสิ้น ผมอยากตอบ ถามมาเถอะ หนักแค่ไหนผมก็จะตอบ ผมไม่เคยมีอะไรที่ทำบกพร่อง ไม่คอรัปชั่น ไม่ต้องกลัว สื่อถามมาเลย ผมตอบได้หมด เพียงแต่ลงให้ตรงเท่านั้น” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
.
ซึ่งสะท้อนมาตลอดว่าทั้ง 3ป.บูรพาพยัคฆ์ ตกเป็นเป้าอยู่ตลอด เพราะก่อนหน้านี้ ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักในเรื่องนาฬิกาหรูที่ยังไม่สิ้นสุด จนทำให้ ‘บิ๊กป้อม’ เขวไปไม่น้อย

ส่วนความสัมพันธ์กับ ‘หมอธี’นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ที่เคยกล่าวพาดพิงเรื่องนาฬิกาหรู จน ‘บิ๊กตู่’ ต้องออกมาทำหน้าที่ ‘กาวใจ’ ในการ ‘เคลียร์ใจ’ กับทั้ง 2 คนมาแล้ว ทำให้ ‘หมอธี’ ต้องกล่าวขอโทษที่ ‘ผิดมารยาท’ แม้ ‘บิ๊กป้อม’ จะไม่เคยกล่าวให้อภัยหรือไม่ แต่หากดูจากภาษากายและการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่าง ‘บิ๊กป้อม-หมอธี’ ที่เกิดขึ้น ก็ยังคงทำงานร่วมกันได้ใน ‘ครม.ประยุทธ์’ ตามปกติ
.
แต่ครั้งนี้ ‘บิ๊กตู่’ ออกตัวสู้พอสมควร เพราะมีการพาดพิงถึง ‘คนในครอบครัว’ ด้วยว่ามีธุรกิจในการไปรับผลประโยชน์ นับตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ใน ทบ. จนขึ้นเป็น ผบ.ทบ. 4 ปี ก็จะมีช่องว่างความเป็นส่วนตัวเรื่องครอบครัวเป็นอย่างมาก จะไม่เปิดเผยเรื่องราวของลูกสาวฝาแฝดมากนัก ทั้ง ‘พลอย’ธัญญา จันทร์โอชา และ ‘เพลิน’นิฏฐา จันทร์โอชา
.
ยิ่งมาเป็นนายกฯและหัวหน้าคสช. ยิ่งทำให้ ‘บิ๊กตู่’ ต้องรักษาความเป็นส่วนตัวให้คนในครอบครัว ที่เห็นชัดเจน คือ แทบไม่มีใครได้เห็นภาพถ่ายลูกสาวฝาแฝดของ ‘บิ๊กตู่’ มากนัก และ มีเพียงคำบอกเล่าต่างๆที่ นายกฯ เล่าให้ฟังผ่านการร่วมทานอาหารในงานต่างๆกับสื่อเท่านั้น ซึ่งทุกๆคนจะรู้จักลูกสาว ‘บิ๊กตู่’ ผ่านวง “BADZ” ที่มีเพลงฮิต “ไม่ขอเป็นคนสุดท้าย” นั่นเอง
.
ส่วน ‘อ.น้อง’รศ.นราพร จันทร์โอชา ภริยา ก็ออกงานกับ ‘บิ๊กตู่’ ในงานสำคัญต่างๆ ซึ่ง ‘อ.น้อง’ ก็ไม่ต้องการเป็นข่าวมากนัก มักจะไม่ให้สัมภาษณ์สื่อเท่าใด ยกเว้นแต่งานที่ดูแลอยู่ คือ การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ที่ ‘อ.น้อง’ เป็นรองปธ.คณะกรรมการมูลนิธิด้านการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม อีกทั้ง ‘อ.น้อง’ จะระมัดระวังตนเองอยู่ตลอด เพราะเป็นภริยานายกฯ ย่อมถูกจับตามองเสมอ หนึ่งในนั่น คือ การใช่เครื่องประดับและกระเป๋าต่างๆที่ ‘อ.น้อง’ ให้ความสำคัญอย่างมากในเรื่อง ‘ความเหมาะสม’ ต่างๆ
.
“ยืนยันไม่ต้องการประโยชน์อะไรทั้งสิ้น ไม่เคยมีธุรกิจบริษัท เมียผมลูกผมก็ไม่มี ใครจะเอาตนไปอ้าง ไม่มี ส่งข่าวให้ผมด้วยว่าใครไปพบว่าผมสั่งไป เพิ่งเจอเหมือนกันมีบอก นายกฯ เมตตากับครอบครัวผมเสมอมา นายกฯให้ผมมาพบรัฐมนตรี แล้วถ้ารัฐมนตรีไหนให้พบรัฐมนตรีนั้นจะต้องถูกปลดทันที แบบนี้ไม่ได้ อ้างกันเยอะแยะไปหมด แล้วก็เชื่อไปสิ รองนายกฯก็โดนเละกันหมด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

สถานการณ์ทางการเมืองยิ่งใกล้เลือกตั้งเท่าใด ก็จะยิ่งร้อนแรงมากขึ้น เพราะหากนับระยะเวลาตามโรดแมปที่คาดการว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นช่วงก.พ.-พ.ค.62แล้วนั้น เหลือระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี มาพร้อมกับการคุมเข้มกับ ‘กลุ่มต้านคสช.’ มากขึ้นในช่วงนี้ ทั้งกรณีของ ‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ หน.พรรคอนาคตใหม่ และ ‘พิชัย นริพทะพันธุ์’ ที่ถูกจับตามองว่าจะเป็น หน.พรรคเพื่อไทย คนใหม่ แต่จะไม่ได้เป็นแคนดิเดทนายกฯ ซึ่ง ‘แม่ทัพเพื่อไทย’ ชิงเก้าอี้นายกฯ ในเวลานี้ยังคงเป็นชื่อเดิม คือ ‘หญิงหน่อย’คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่เริ่มมีการปูทางบางอย่างเกิดขึ้นในเครือข่ายเพื่อไทยบางแล้ว
.
จับตา คสช. จะรับมือยาวๆ อย่างไร ?
.
00000