กาละแมร์ พัชรศรี : ข้ามเขา เด็กขี้ ฝึกวิชาที่เมืองจีน

การเดินทางไปจีนถือเป็นการฝึกวิทยายุทธ์อย่างหนึ่งค่ะ!

จุดหมายปลายทางงดงามคุ้มค่า แต่ระหว่างทางกว่าจะไปถึงต้องพิสูจน์จิตใจ จะท้อแท้ไปก่อนไหม จะล้มเลิก งอแง ตบตีกันก่อนไปถึงไหม

จีนทำให้เราได้ฝึกฝน ขัดเกลาใจระหว่างเดินทางเสมอ

เหมือนหนังจีนที่เราดูตอนเด็กๆ น่ะค่ะ กว่าพระเอกจะได้คัมภีร์ต้องผ่านภูเขาหลายลูก เส้นทางที่จะไปไม่ใช่ง่ายๆ ไหนจะเจออุปสรรคระหว่างทาง

แต่เราต้องผ่านไปให้ได้!!

ฉันเดินทางไปจีนก็เพราะด้วยเหตุผลนี้ด้วยส่วนหนึ่งค่ะ เพราะประเทศเจริญมากๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวก มีระเบียบวินัย เราก็ไปมาแล้ว เราก็ได้เรียนรู้ในแบบหนึ่ง

แต่กับจีนเราก็จะได้เรียนรู้ชีวิตในอีกรูปแบบหนึ่งค่ะ

สำหรับฉันแล้วไม่จำเป็นต้องไปประเทศที่มีแต่ความสะดวกสบาย สวยงาม ทุกอย่างถูกจัดวางให้แล้วเท่านั้น

ฉันต้องการเจอสิ่งที่ดิบ ธรรมชาติ จริง และจับต้องได้ เพราะเราจะได้กลับมาอยู่กับชีวิตที่จริงในบ้านเรา ในชีวิตประจำวันของเรา ขัดเกลาใจให้ดีขึ้นไปอีกขั้น

ลงเครื่องแอร์เอเชียที่ฉางชา เราต้องนั่งรถไปอีก 6-7 ช.ม. เพื่อไปหมู่บ้านโบราณอย่างเฟิ่งหวง จีนจำกัดความเร็วของรถด้วยค่ะ ถ้ารถเก๋งธรรมดาก็วิ่งได้เร็วกว่ารถบัสเล็กที่เรานั่ง ขับไปแวะระหว่างทางเพื่อเข้าห้องน้ำไป หลับแล้วหลับอีก ตื่นมากินขนม เล่นโทรศัพท์ คุยเล่นกับชาวคณะ แล้วก็หลับไปอีก ทำวนไปวนมาอยู่หลายรอบ ตื่นขึ้นมาก็ยังไม่ถึงสักที

IMG_5811

สำหรับบางคนอาจจะเบื่อ แต่สำหรับฉันมันได้ฝึกการได้อยู่นิ่งๆ ได้อยู่กับตัวเองบ้าง นั่งสมาธิบ้าง ถ้าเมื่อยล้าก็ลุกขึ้นมายืด

 

ระยะทางไกลแล้ว เบื้องบนยังส่งทดสอบลงมาอีก เกิดอุบัติเหตุบนทางด่วนค่ะ ทางที่วิ่งตรงอย่างเดียวนั่นแหละค่ะ ยังเกิดอุบัติเหตุได้ แต่ระหว่างทางฝนตกลงมาเป็นระยะค่ะ รถเราติดอยู่ในอุโมงค์ รถข้างหน้าติดยาวมาเป็น 10 กิโลเลยค่ะ คันหน้าๆ บอก ด้านหน้ามีรถชนกัน

คราวนี้คนขับดับเครื่องเลยค่ะเพราะรู้ว่าติดนาน แล้วเขาก็ลงไปยืนข้างรถ เราก็เลยอยากจะลงบ้างไปเดินเล่น ยืดเส้นยืดสาย แต่ไกด์สาวบอกพวกเราว่าอย่าลงเลยเกรงจะมีอันตรายและไม่รู้ว่ารถจะเคลื่อนไปตอนไหน พวกเราจึงอยู่บนรถตามเดิม

ฉันใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ด้วยการทำโยคะบนรถ ช่วยคลายอาการปวดเมื่อยได้เยอะ จิตใจก็ไม่ร้อนรนฟุ้งซ่าน เพื่อนอีกคนถ่ายคลิปเรื่องราวที่เกิดขึ้น เอามาตัดต่อเป็นที่สนุกสนาน

คราวนี้พอรถไม่มีอากาศหายใจเราเลยเปิดหน้าต่าง ปรากฏว่าด้านหลังรถเรามีรถหมู เป็ด ไก่ ที่เขาขนมาพอดี มันก็ร้องกันระงม เสียงไม่แรงเท่ากลิ่นค่ะ!

สเมลเวลคัมมาก!!!! แต่เราก็ขำขันกับเรื่องที่เกิดขึ้น ชีวิตหนอชีวิต นั่งเครื่อง นั่งรถมายาวนาน ไหนจะมาเจออุบัติเหตุ ฝนตก ลงรถไม่ได้ เปิดกระจกก็เหม็น รวมเวลาได้สิบกว่าชั่วโมงแล้ว แต่เรายังมานั่งขำและหัวเราะให้กับมันได้

นี่เป็นอีกครั้งที่ทำให้ฉันเรียนรู้ว่า ความตลกขบขันจะทำให้เราผ่านสถานการณ์อันคับขันได้ในชีวิต

จริงๆ นะคะ ในวันที่ชีวิตมันเล่นตลกกับเรา เราก็ขำมันออกมาเลย ขำแบบแกล้งๆ ก่อน สุดท้ายมันจะนำมาสู่การขำจริงๆ อันนี้เทคนิคสำหรับตอนอยู่คนเดียว แต่ถ้าอยู่กับเพื่อนฝูงที่เป็นคนที่ยืดหยุ่นกับชีวิต มองโลกคล้ายๆ กัน

เรื่องขำมันจะมาเองเลยค่ะ

IMG_5813

และสุดท้ายเราก็มาถึงเมืองเฟิ่งหวงจนได้ แม้จะมาถึงดึกมากก็ตาม เพื่อนร่วมทางคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมาว่า “ระยะเวลาทั้งหมดตั้งแต่ออกจากไทยมาถึงที่นี่เหมือนเราไปไอซ์แลนด์เลย”

แต่ไม่ว่าที่ใดก็ไม่สามารถทดแทนที่นั้นๆ ได้ ทุกๆ ที่มีเอกลักษณ์และเรื่องราวของมันที่ใครหรืออะไรจะมาเทียบเทียมกันได้จริงๆ

เฟิ่งหวงยังเป็นเมืองที่อนุรักษ์ความเก่าแก่ของตัวเองไว้ ยามค่ำคืนไฟที่ติดไว้ตามตึกรามบ้านช่องจัดได้งดงามมาก ต้องชมเชยคนจัดวางไฟจริงๆ เพราะมันช่วยส่งเสริมให้เมืองมีเสน่ห์มากขึ้น ถึงเป็นเมืองโบราณก็มีผับ เธคนะคะ แต่พอเที่ยงคืนปุ๊บเขาจะปิดเพลงทันที มีแต่แสงไฟสีๆ วนไปมา และอีกสักพักร้านก็ปิดค่ะ

เรารีบกลับไปนอนเพื่อที่จะตื่นเช้ามาดูความงดงามของเมือง และก็ไม่ผิดหวังค่ะ เราเห็นรายละเอียดชัดขึ้น เฟิ่งหวงมีแม่น้ำกั้นระหว่างสองฝั่ง อารมณ์คล้ายกรุงเทพฯ สมัยก่อนที่มีเรือพายสัญจรไปมา มีคนแก่มานั่งซักผ้าริมตลิ่ง มีคุณลุงใช้แหจับปลา มีคนพายเรือเก็บขยะ

ซึ่งอย่างหลังนี้ทางเมืองเฟิ่งหวงว่าจ้างเลยทีเดียว

และการเดินทางจีนคราวนี้ ทำให้ฉันรับรู้วัฒนธรรมอย่างหนึ่งของจีนอย่างแจ่มชัด นั่นคือการอึของลูกของเขา ฉันเห็นแม่อุ้มลูกไปอึในถังขยะ ฉันเห็นกางเกงของเด็กเล็กที่ไม่มีส่วนก้น คือมันเว้าหายไปเลย ถ้าออกนอกบ้านก็ใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปไว้ พอลูกจะอึก็เปิดอึได้เลย นั่นหมายถึงว่าเขาให้ลูกอึทุกที่!!

และแม้แต่ในเครื่องบินก็ไม่มีเว้น ขากลับฉันนั่งหน้าสุด เห็นพ่อคนหนึ่งอุ้มลูกสาวมายืนรอหน้าห้องน้ำ เขาคิดว่าห้องน้ำไม่ว่าง ลูกเริ่มร้องงอแง พ่อหันซ้ายขวาและจับไปที่กางเกงลูก ในใจฉันคิดว่า “อย่านะ อย่าทำอย่างนั้นนะ!!” แล้วเขาก็ทำจริงดังใจนึก

พ่อดึงกางเกงลูกลงมา พาไปที่ถุงขยะใบใหญ่ที่แอร์วางไว้ที่มุมเครื่อง แล้วหย่อนก้นลูกลงไป ฉันร้องเสียงหลงพูดทุกภาษาที่นึกได้ จนน้องคนไทยนั่งด้านหลังพูดจีนได้ลุกไปดูแล้วบอกเขาว่าทำไมไม่เข้าห้องน้ำ พ่อเขาบอกว่าเขาอ่านไม่ออกว่าห้องน้ำว่างหรือไม่ว่าง พอน้องคนนั้นลองเปิดดู ห้องน้ำก็ว่างอยู่!!

พ่อดึงลูกออกมาจากถุงขยะ ฉี่หยดเป็นทาง แล้วหายเข้าไปนาน นั่นหมายความว่า ลูกต้องเขาไปอึอย่างแน่นอน ฉันคิดไม่ออกถ้าฉันไม่หันไปเห็นก่อนมันจะเกิดอะไรขึ้น ทั้งไฟลต์นั้นจะต้องสเมลเวลคัมขนาดไหน

สงสารและเห็นใจน้องแอร์โฮสเตสเหลือเกิน แต่จากคำบอกเล่าไฟลต์จีนมักมีเรื่องราวเสมอ

การเดินทางไปที่ที่เราไม่คุ้นเคย ทำให้เรารับรู้ เปิดใจ และยอมรับในความต่าง ไม่มีใครถูกผิดในแง่วัฒนธรรม เราแค่รู้จักการผ่อนหนักผ่อนเบา เข้าใจในความไม่เหมือนกันของเขาและเรา เพื่อให้เราได้อยู่บนโลกนี้อย่างมีความสุข สนุกที่ได้เรียนรู้ความต่างที่ไม่เหมือนกับเรา และกลับมาเข้าใจโลกที่เราอยู่ ว่าบางครั้งมันก็มีเรื่องไม่ได้ดั่งใจ ไม่ตรงกับใจเรา

แต่ขอให้เราเข้าใจมัน ยอมรับมัน และผ่านมันไปให้ได้ก็เท่านั้นเอง…

IMG_5812
IMG_5814