การแปรเปลี่ยนของ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ อย่างชนิด 160 องศาในทางการเมืองเป็นเหตุการณ์ 1 ซึ่งกระตุก “ต่อม” ความคิดได้เป็นอย่างมาก

หากย้อนไปศึกษา”ประวัติศาสตร์”ก็จะตระหนักว่า อาการผัน เปลี่ยนลักษณะนี้เป็นเรื่องธรรมดา

ต้องมองอย่างเข้าใจก็จะร้อง”อ๋อ”

อย่าว่าแต่ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ เลย แม้กระทั่งคนอีกหลาย คนก็ไม่แตกต่างไปจาก นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์

หากตำหนิ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์

แล้วกรณีของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กรณีของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน จะประเมินอย่างไร

ไม่ 160 องศายิ่งกว่า นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรอกหรือ

 

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ด้วยซ้ำ

แสดงว่าได้รับความไว้วางใจเป็นอย่างสูง

ยิ่ง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่เพียงแต่จะนั่งอยู่ในตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีบทบาทเป็นอย่างสูงในเครื่อง ตรวจจับวัตถุระเบิด CXT อันอื้ฉาว

หากแต่ยังได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งเป็น”เลขาธิการ”ของพรรคไทยรักไทย

เป็นตำแหน่งใหญ่จะเป็นรองก็แต่”หัวหน้าพรรค”

หากนิ้วที่ชี้ประณามการตัดสินใจของ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ว่าเลวร้าย แล้วจะประเมินบทบาทของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรื่องกิจ และ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อย่างไร

หรือมองว่า การตัดสินใจของ 2 คนหลังชาญฉลาด ขณะที่กรณีของ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ กลับเป็นเรื่องเลวร้าย

สร้างความเสื่อมเสียให้กับแวดวงการเมือง

 

ในยุคที่การเมืองแยกแตกขั้วอย่างชนิดคนละทีปนับแต่ก่อนรัฐประ หารเมื่อเดือนกันยายน 2549 เป็นต้นมา

มุมมองต่อกรณีของ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ก็ต่างกัน

มองจากทางด้านคสช.ย่อมเห็นว่าเป็นการตัดสินใจอันยอด เยี่ยม เทียมเทียบได้กับการตัดสินใจของ”องคุลีมาล”พอวางดาบก็กลายเป็นอรหันต์

มองจากพรรคเพื่อไทย นปช.ก็อ่อนเพลียละเหี่ยใจยิ่ง