‘สมศักดิ์’ย้อนพวกว่าสามมิตรดูดส.ส. แค่คำพูดคนเฒ่าชรา ถกกลุ่มชาวนาดันราคาข้าวไม่ต่ำ 8 พัน/ตัน

เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่ร้านกินเส้น ย่านสนามบินน้ำ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน พร้อมด้วยนายอนุชา นาคาศัย แกนนำกลุ่มสามมิตร และนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกกลุ่มสามมิตร ได้ประชุมร่วมกับตัวแทนจากกลุ่มส่งเสริมเกษตรกรชาวนาอีสาน สมาคมชาวนาข้าวไทย สมาคมส่งเสริมชาวนาไทย เครือข่ายชาวนา และสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านถึงการแก้ปัญหาราคาผลผลิตตกตํ่า โดยเฉพาะข้าวให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว

นายสมศักดิ์กล่าวภายหลังการหารือว่า พวกเราได้แลกเปลี่ยนความเห็นกัน ในฐานะที่เราทำงานการเมืองมานาน และพร้อมที่จะรับฟังเสียงจากผู้คนอย่างหลากหลาย ถึงแม้เวลานี้บ้านเมืองเราจะมีความเห็นต่าง แต่ก็ยังมีทิศทางในการเติบโตให้เห็นอยู่ ในขณะที่ความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้งก็เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น ทั้งนี้ เราพร้อมที่จะแสวงหาจุดร่วม รับฟังความเห็น และแลกเปลี่ยนความคิดกัน ซึ่งย่อมจะมีเสียงวิจารณ์ทั้งบวกและลบ แต่เราก็พร้อมรับฟังเพื่อให้เกิดการแก้ไขและทำให้บ้านเมืองของเราน่าอยู่ อย่างไรก็ตาม วันนี้เรามีความเห็นเรื่องการแก้ปัญหาราคาผลผลิต โดยเฉพาะเรื่องข้าวจากพี่น้องเกษตรกรทั้งภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคเหนือ โดยส่วนใหญ่อยากให้ราคาข้าวนาปรังที่ขณะนี้ราคาอยู่ที่ 6,000 บาท/ตันนั้น ขยับขึ้นเป็นไม่ตํ่ากว่า 8,000 บาท/ตัน จึงจะคุ้มกับการลงทุนและพอมีกำไรเพื่อให้ครอบครัวอยู่ได้ จึงอยากให้รัฐบาลเข้ามาดูแล

นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่า เราได้พูดคุยกับตัวแทนรัฐบาลเพื่อหาทางช่วยเหลือจนได้ผลใกล้เคียงกับที่เกษตรกรอยากได้ แต่การลงทะเบียนต่างๆ นั้นจะต้องทำที่ไหน อย่างไร ต้องมีการสื่อสารให้เร็ว และทำให้เกษตรกรเข้าใจได้ง่ายขึ้นด้วย โดยเฉพาะค่าเก็บฝากข้าวกับยุ้งฉาง 1,500 บาท/ตัน และค่าเก็บเกี่ยว 1,500 บาท/ไร่นั้น ควรมีการปรับเปลี่ยนใน 2 ส่วนนี้ให้เหมาะสม เพราะชาวนาบางคนไม่มียุ้งฉาง รัฐบาลไม่ได้จ่ายตรงส่วนนี้ ดังนั้น รัฐบาลก็นำเงินส่วนนี้ไปดูแลชาวนาที่ไม่มียุ้งฉางบ้างก็น่าจะเหมาะสมและมีรายได้ถึง 8,000 บาท/ตัน ตามตัวเลขที่เกษตรกรต้องการ ซึ่งหลังจากนี้จะประสานและส่งเรื่องการหารือนี้ให้กับกระทรวงพาณิชย์ต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามถึงความชัดเจนในการเข้าร่วมกับกลุ่มสามมิตร นายสมศักดิ์กล่าวว่า อยู่กลุ่มสามมิตรอยู่แล้ว แต่ขณะนี้บ้านเมืองกำลังมีความเห็นต่าง อีกทั้งวันเลือกตั้งก็ยังไม่ชัดเจน จึงแสวงหาจุดร่วมเรื่องแนวคิดที่เห็นต่างของประชาชน ให้พรรคที่เราจะไปร่วมงานในอนาคต จะได้รับไปเป็นนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกร สร้างเกษตรกรให้เข้มแข็ง พึ่งพาตนเองให้ได้มากที่สุด

นายสมศักดิ์กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการดูดอดีต ส.ส.ว่า คำว่าดูดนั้นคำนิยามหรือความหมายเป็นมุมมองที่ไม่ค่อยสวยงามนัก เพราะข้อเท็จจริงแล้วเป็นการระดมสมอง หรือแสวงหาจุดร่วม ไม่ใช่การดูด และพรรคการเมืองที่ดีก็ต้องมองที่นโยบายเพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชน การไปว่าคนนี้คนนั้นดูด ถือเป็นความแก่ชราเฒ่าของผู้ที่เอามาพูด ควรเอาเวลาไปทำนโยบายที่ดีเพื่อเดินไปข้างหน้าจะดีกว่า เรื่องการแก้ไขปัญหาความยากจนเป็นประเด็นนำที่เราคิดว่าต้องเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนในการจับจ่ายใช้สอยในฐานล่าง จะทำอย่างไรให้สังคมเมืองกับสังคมชนบทไปด้วยกันได้

“ผมหยุดการเมืองมาเป็น 10 ปี เพราะถูกตัดสิทธิทางการเมือง พึ่งจะมีโอกาสกลับเข้ามา จึงคิดว่านโยบายในอดีตที่ผมเคยคิดว่าจะทำ แต่ยังไม่ได้ทำ ก็จะเอากลับมาทำ จะได้เอาความสุขมาคืนให้กับประชาชน ซึ่งเราเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ข้อสังเกตกับรัฐบาล เพราะเรายังไม่มีอำนาจอะไรในตอนนี้ เราได้แค่ช่วยแนะนำ ซึ่งเราจะทำต่อไปหลังจากนี้ด้วย” นายสมศักดิ์กล่าว

นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่า ส่วนในอนาคตกลุ่มสามมิตรจะไปร่วมงานกับพรรคการเมืองไหนนั้น วันนี้เรื่องพรรคการเมืองยังพูดไม่ได้ เพราะทุกอย่างยังไม่สะเด็ดน้ำ ต้องรอดูความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้งก่อน เวลานี้สิ่งที่กลุ่มสามมิตรเดินหน้าทำ คือ การรวบรวมแนวทางแก้ปัญหาความยากจนในภาคเกษตร รวมถึงหาช่องทางให้เกษตรกรมีอาชีพเสริม เพราะทุกวันนี้ผลผลิตทางการเกษตรหลายอย่างล้นตลาด ดังนั้นต้องสร้างความเข้มแข็งในภาคเกษตร รวมทั้งธุรกิจเอสเอ็มอี เช่น ร้านค้าชุมชนที่เกษตรกรทุกคนมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของ ดูเหมือนเป็นเรื่องที่ง่าย แต่เมื่อเข้าไปปฏิบัติจริงแล้วไม่ง่าย ดังนั้นภาครัฐจะต้องออกมานำร่อง หรือสร้างกลไกเพื่อให้สามารถเดินไปได้