การ์ตูนที่รัก / นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

 

Tad the Lost Explorer 1-2

 

คงยากที่จะลากอินเดียน่า โจนส์ จาก Raiders of the Lost Ark และลารา ครอฟต์ จาก Tomb Raider มาพบกัน แต่การ์ตูนทำได้

เป็นการ์ตูนสนุก ดูเพลิน ทำรายได้ดีจนมีภาค 2 ซึ่งดูสนุก ดูเพลินและทำรายได้ดีอีก แต่ไม่มีคนพูดถึงมากนัก อีกทั้งนักวิจารณ์ไม่ชอบ แล้วจะเป็นอะไรไป ทำเงินเสียอย่าง

การ์ตูนเล่าเรื่องกรรมกรก่อสร้าง แทดดิโอ โจนส์ ผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นนักโบราณคดีมีชื่อเสียง กับซาร่า ลาฟรอฟ นักโบราณคดีผจญภัยสาวสวยผู้โด่งดัง ใช่แล้ว ดูจากชื่อนี่เป็นหนังการ์ตูนสเปน โดยผู้กำกับฯ ชาวสเปน Enrique Gato

เขาสร้างตัวการ์ตูน Tadeo Jones ตั้งแต่ครั้งเป็นหนังสั้นปี 2004 Tadeo Jones และ 2007 Tadeo Jones and the Basement of Doom ก่อนที่จะพัฒนามาเป็นหนังยาวภาคแรกปี 2012 และเป็นหนังภาค 2 ในปี 2017

เขาคว้ารางวัลโกย่าจากตัวการ์ตูนนี้ด้วย เฉพาะภาคแรกหนังทำเงิน 45 ล้านยูโรจากทุนสร้าง 8 ล้านยูโร เข้าชิงรางวัลโกย่า 5 รางวัล ได้มา 3 รางวัล รวมทั้งรางวัลหนังการ์ตูนยอดเยี่ยมประจำปี

เมื่อพัฒนาเป็นหนังยาวฉายทั่วโลกโดยไลต์บ๊อกซ์และพาราเมาท์ จึงเปลี่ยนชื่อพระเอกเป็น Tad Stones และใช้เทคโนโลยี 3D ได้หนังที่เกือบจะดีคล้ายๆ ผลงานก่อนหน้านี้ของเขาคือ Capture the Flag ปี 2005 ที่เคยเล่าให้ฟังแล้ว กล่าวคือ สนุก ดูเพลิน จบแล้วก็แล้วกัน ไม่มีอะไรมากมายนัก

แต่การ์ตูนที่รักจะขุดเอาสาระให้ได้เสมอ

 

ภาคแรก แท็ดถูกไล่ออกจากงานกรรมกรในชิคาโกเพราะมัวแต่ฝันกลางวัน เขาใฝ่ฝันอยากเป็นนักโบราณคดีตั้งแต่เด็กแล้ว เมื่อตกงานจึงนำขวดโคคา-โคลาโบราณไปให้โปรเฟสเซอร์ฮัมเบิร์ตตรวจสอบ เป็นเวลาเดียวกับที่โปรเฟสเซอร์กำลังจะออกเดินทางไปพบเพื่อนนักสำรวจอาณาจักรอินคาที่เปรูพอดี

โปรเฟสเซอร์เกิดอุบัติเหตุกินยาผิดต้องเข้าโรงพยาบาล เป็นเหตุให้แท็ดสวมรอยโปรเฟสเซอร์ หนีการตามล่าของเหล่าร้ายไปจนถึงเปรูที่ซึ่งเขาได้พบกับโปรเฟสเซอร์ลาฟรอฟและลูกสาวคือซาร่า ที่มาชูปิกชู ป้อมปราการและวิหารศตวรรษที่ 15 ของอินคา เหนือระดับน้ำทะเลกว่าสองกิโลเมตรนั้น

เนื้อเรื่องเป็นไปตามขนบการ์ตูนประเภทชุลมุนวุ่นวาย ผู้ร้ายที่หมายความเป็นอมตะและความโลภสมบัติของมนุษย์

แท็ดและซาร่าผจญภัยด้วยกันไปในดินแดนใต้ดินบนฟ้าพร้อมเจฟ หมาคู่ใจไซด์คิก จนกระทั่งไปพบมัมมี่ ที่ไซด์คิกยิ่งกว่า

ก่อนที่จะจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งในที่สุด

 

ภาค 2 Tad the Lost Explorer and the Secret of King Midas แท็ดกลับไปเป็นกรรมกรก่อสร้างที่ชิคาโกในขณะที่ซาร่ามีชื่อเสียงไปทั่วโลกในฐานะนักโบราณคดีสาวสวยผู้มีผลงานวิชาการนำเสนอมากมาย

แท็ดฝันกลางวันถึงเธอและใฝ่ฝันจะได้กลับไปผจญภัยร่วมกันอีกครั้ง เพื่อสำรวจความในใจของกันและกันด้วย

แท็ดออกจากงานอีกแล้ว แล้วเดินทางไปลาสเวกัสเพื่อพบซาร่าที่กำลังจะมานำเสนอข้อค้นพบของเธอที่โรงแรมแห่งหนึ่ง

ครั้งนี้ซาร่าค้นพบลายแทงสุสานของกษัตริย์ไมดาสผู้มีสัมผัสทองคำและสร้อยคอวิเศษ

ผู้ร้ายประจำเรื่องคือแจ๊ก แร็กแฮม จับซาร่าเป็นตัวประกันแล้วใช้เธอออกตามหาสุสานกษัตริย์ไมดาสแข่งกับแท็ดซึ่งได้ลายแทงตัวจริงไปด้วยความชุลมุนเช่นเดิม

ภาคใหม่นี้มีตัวละครสาวเพิ่มมาอีกคนหนึ่งคือทิฟฟานี นักศึกษาโบราณคดีฝึกหัดที่มาช่วยงานซาร่าและแท็ดในตอนแรกก่อนจะลุ่มหลงไปกับอำนาจริษยาในใจตัวหันไปช่วยเหลือคนร้าย

นอกจากนี้ยังมีนกแก้วอารมณ์เสียคล้ายแองกรี้เบิร์ดที่คอยชูป้ายคำเป็นระยะๆ ขัดจังหวะการเดินเรื่องทั้งที่เจตนาดี

ว่ากันว่ามุขตลกมากมายแบบสเปนถูกลดทอนลงไปเมื่อดูฉบับภาษาอังกฤษ เป็นเหตุให้หนังไม่จี้เท่าที่ควร

 

กษัตริย์ไมดาสแห่งฟรีเจียนเป็นชื่อในเทพปกรณัมกรีกผู้มีสัมผัสเป็นทองคำ มีชีวิตอยู่ที่ช่วง 2,000 ปีก่อนคริสตกาล และเป็นบุตรของกอร์เดียสผู้สร้างปมกอร์เดียน (Gordian Knot) ที่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชแห่งมาร์ซีโดเนียจะฟันขาดในเวลาต่อมา คือเมื่อ 333 ปีก่อนคริสตกาล มันนานมาก

ตำนานว่ากษัตริย์ไมดาสได้ดูแลไซเลนัสผู้เมามายนาน 10 วัน ไซเลนัสเป็นครูของเทพแห่งเหล้าองุ่นไดโอไนซัส ไมดาสขอพรจากเทพไดโอไนซัสให้ตนเองแตะต้องสิ่งใดล้วนกลายเป็นทองคำไปเสียทั้งสิ้น

แต่พรที่ได้มากลับสร้างความลำบากแสนสาหัสเมื่อกษัตริย์ไมดาสพบว่าอาหารและน้ำที่ตนเองจับต้องกลายเป็นทองคำ รวมทั้งบุตรีของตนเอง จึงได้ไปขอคืนพรนั้นแก่เทพไดโอไนซัสด้วยการล้างมือในแม่น้ำแพคโทลัส

ปัจจุบันแม่น้ำสายนี้อยู่ในตุรกี ได้ชื่อว่าทรายท้องน้ำสีดั่งทองคำ

 

การ์ตูนเรื่องนี้ ลำพังนั่งดูฉากหลังของการผจญภัยจากสเปนไปจนถึงตุรกีก็คุ้มแล้ว สวยงามมาก ฉากในเมือง ฉากชายทะเลว่างดงามแล้ว ฉากใต้ดินในวิหารทองคำควรค่าแก่การดู

ตอนจบของการ์ตูนเป็นฉากในวิหารอพอลโล่ซึ่งไมดาสสร้างเพื่อถวายแก่เทพอพอลโล่ ตำนานส่วนนี้เล่าว่า ครั้งหนึ่งมีการประลองดนตรีระหว่างเทพแพนและเทพอพอลโล่ ไมดาสเอ่ยคำเข้าข้างเทพแพนทำให้เทพอพอลโล่ไม่พอใจสาปให้พระองค์มีหูเป็นลา ไมดาสอับอายหูของตัวเองจึงสวมหมวกปิดไว้ตลอดเวลาไม่มีคนล่วงรู้ นอกจากช่างตัดผมประจำตัว

ช่างตัดผมประจำตัวอึดอัดใจกับความลับที่ตัวเองต้องเก็บไว้จนใกล้บ้า จึงพูดความลับนี้ลงหลุมแล้วกลบดินเอาไว้

วันหนึ่งต้นอ้อเจริญงอกงามรอบหลุมนั้น และยามลมพัดไหวเสียงต้นอ้อเสียดสีกันเป็นคำกระซิบว่ากษัตริย์ไมดาสมีหูเป็นลาก็ได้ยินกันไปทั่ว

กษัตริย์ไมดาสจึงดื่มโลหิตโคหนีความอับอายถึงชีวิต

ในการ์ตูน แท็ดหยิบชิ้นส่วนของสร้อยคอชิ้นที่สามจากคอของกษัตริย์ไมดาสในวิหารนี้เอง