การกลับมา “ที่เดิม” พร้อม “ภารกิจใหม่” ของ “ฮวน ฟอนตาเนียล” เจียระไน “กำปั้นสาวไทย” สู่ “เอเชี่ยนเกมส์-โอลิมปิก”

นับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2561 จนถึงตอนนี้ เป็นระยะเวลากว่า 2 เดือนแล้ว กับการหวนกลับมาของยอดโค้ชมวยสากลสมัครเล่นชาวคิวบาขวัญใจคนไทยอย่าง “ฮวน ฟอนตาเนียล” พร้อมสถานะใหม่ คือ “หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมกำปั้นสาวไทย”

เขากลายเป็นความหวังใหม่ที่จะจุดประกายวงการมวยสากลสมัครเล่นซึ่งซบเซามาพักใหญ่ให้ฟื้นคืนพลัง โดยมีเป้าหมายในการพัฒนา “ทีมมวยสากลสมัครเล่นหญิงไทย” ให้ก้าวขึ้นไปอยู่แถวหน้าของโลก

ในอดีต “ฟอนตาเนียล” สร้างความสำเร็จให้แก่นักมวยสากลสมัครเล่นชายไทย ด้วยการปั้นยอดนักชกประดับวงการมาแล้วมากมาย

เริ่มด้วยการสร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองแรกในศึกโอลิมปิกเกมส์ เมื่อปี 1996 ที่แอตแลนต้า สหรัฐอเมริกา จากฝีมือของ “สมรักษ์ คำสิงห์” (โม้อมตะ แต่ฝีมือไม่ได้โม้) และเหรียญทองแดงจาก “วิชัย ราชานนท์”

อีก 4 ปีต่อมา ในโอลิมปิกเกมส์ปี 2000 ที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ทีมมวยชายไทยภายใต้การฝึกสอนของฟอนตาเนียล ก็คว้าเหรียญทองได้อีกจาก “วิจารณ์ พลฤทธิ์” และเหรียญทองแดงจาก “พรชัย ทองบุราณ”

ปิดท้ายด้วยโอลิมปิกเกมส์ปี 2004 ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ซึ่งทีมกำปั้นไทยประสบความสำเร็จอีกครั้ง เมื่อ “มนัส บุญจำนงค์” คว้าเหรียญทอง พร้อมเหรียญเงินจาก “วรพจน์ เพชรขุ้ม” และเหรียญทองแดงจาก “สุริยา ปราสาทหินพิมาย”

สรุปผลงานในภาพรวม ยอดโค้ชคิวบาเคยพาทีมมวยสมัครเล่นชายไทยคว้าเหรียญทองโอลิมปิกติดต่อกัน 3 สมัย พ่วงด้วยสถิติ 5 เหรียญทอง 3 เหรียญทองแดง จากกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 13 ที่กรุงเทพมหานคร เมื่อปี 1998

การปั้นขุนพลเสื้อกล้ามไทยขึ้นไปโชว์ลีลามวยสากลชั้นเวิลด์คลาสบนสังเวียนระดับโลก ทำให้ชื่อเสียงของฟอนตาเนียลเริ่มเป็นที่พูดถึงและได้รับความสนใจจากหลายชาติ รวมถึงคิวบา ประเทศบ้านเกิด ซึ่งดึงตัวเขากลับไปทำงานอยู่ช่วงหนึ่ง

จากนั้น โค้ชผู้นี้ได้หันไปเป็นโค้ชทีมมวยหญิงของเม็กซิโกรวม 6 ปี จนหมดสัญญาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

สถานการณ์อีกด้าน ณ อีกฟากโลก ทีมมวยสากลสมัครเล่นไทยก็ประสบความล้มเหลวอย่างต่อเนื่องกับการลงแข่งทัวร์นาเมนต์ใหญ่ในระยะหลังๆ

เห็นได้ชัดเจนสุดคือ การไม่สามารถคว้าเหรียญรางวัลใดๆ ได้เลยจากโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่กรุงริโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล

ส่งผลให้นายพิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ต้องเร่งเครื่องเดินหน้าพัฒนาทีมมวยสมัครเล่นเต็มสูบ

นำไปสู่การตัดสินใจดึง “ยอดโค้ชชาวคิวบา” กลับมาแผ่นดินสยามอีกครั้งในรอบ 14 ปี ด้วยสัญญา 3 ปี โดยวางเป้าหมายพาทีมมวยหญิงคว้าเหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์และมีเหรียญในโอลิมปิกเกมส์ 2020

เรื่องน่ายินดีอีกประการ คือ ในการรีเทิร์นรอบนี้ ฟอนตาเนียลในวัย 64 ปี ได้กลับมาร่วมงานกับบรรดา “ศิษย์เอก” ที่เขาเคยปั้นมากับมือ จนประสบความสำเร็จบนเวทีโอลิมปิกเกมส์และมหกรรมกีฬาอื่นๆ

ลูกศิษย์เหล่านั้นได้แก่ วิจารณ์ พลฤทธิ์, วรพจน์ เพชรขุ้ม และภาคภูมิ แจ้งโพธิ์นาค ที่จะเข้ามาช่วยงานเป็นทีมสต๊าฟโค้ชมวยหญิง ภายใต้การกำกับดูแลของครูใหญ่ชาวคิวบา

“ผมมีความสุขกับทั้ง 3 คน พวกเขารู้ระบบการทำงานของผม และมีพื้นฐานมวยอยู่แล้ว เป็นเรื่องดีที่เข้ามาช่วยดูมวยหญิงร่วมกัน มวยหญิงไทยมีปัญหาเรื่องเทคนิคเยอะ มีปัญหาเทคนิคจริงๆ แต่เรามีเวลาซ้อม มีเวลาเปลี่ยน เราทำทุกอย่าง ผมต้องการเหรียญทองในศึกเอเชี่ยนเกมส์” ฟอนตาเนียลประกาศกร้าว

ด้าน พ.ต.ท.วิจารณ์ พลฤทธิ์ เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกปี 2000 ซึ่งหันหลังให้วงการมวยและไปรับราชการตำรวจอย่างจริงจังอยู่นานหลายปี กระทั่งถูกดึงตัวกลับมาช่วยภารกิจสำคัญครั้งนี้ พูดถึงอาจารย์/หัวหน้าโค้ชคนปัจจุบันว่า

“การกลับมาของฮวนครั้งนี้ เป็นการท้าทาย แต่ผมคิดว่าฮวนมีจุดเด่นในด้านมีระเบียบวินัย มีความตั้งใจสูง ผมคิดว่ามวยหญิงของเรา น่าจะพัฒนาและประสบความสำเร็จครับ”

คล้ายคลึงกับวรพจน์ เพชรขุ้ม เจ้าของเหรียญเงินเอเธนส์เกมส์ 2004 ซึ่งบอกเช่นกันว่า “ความฉลาดของมวยไทย ทุกคนครับ มีความฉลาด แต่ว่าจุดอ่อนก็ความแข็งแรง พอชกไปยกปลายๆ ประมาณปลายยก 2 ปลายยก 3 เริ่มจะอ่อนแรงลง คิดว่าถ้าได้ซ้อมกับฟอนตาเนียลสักพัก น่าจะดีขึ้น”

หลังทีมกำปั้นหญิงไทยทั้งชุดใหญ่และเยาวชนเก็บตัวภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของฟอนตาเนียลเป็นระยะเวลากว่า 2 เดือน โค้ชจอมเก๋าออกมาพูดถึงเหล่านักชกสาวไทยว่ามีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก ไม่ว่าเป็นจะเรื่องฟุตเวิร์ก สเต็ปเท้า ตลอดจนการออกหมัด

ความก้าวหน้าดังกล่าวเริ่มผลิดอกออกผลให้เห็นบ้างแล้ว จากการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นเยาวชนชาย-หญิงชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือกยูธโอลิมปิกเกมส์ โซนเอเชีย รายการ “เอเอสบีซี ยูธ เมนส์ แอนด์ วีเมนส์ บ็อกซิ่ง แชมเปี้ยนชิพส์ แบ็งคอก 2018” เมื่อวันที่ 21-27 เมษายน ที่อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก

ไทยซึ่งส่งนักชกดาวรุ่งชาย 7 รุ่น และนักชกดาวรุ่งหญิงอีก 6 รุ่น เข้าแข่งขัน คว้ามาได้ 4 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง โดยแชมป์รายการนี้จะคว้าสิทธิ์ไปแข่งขันยูธ โอลิมปิกเกมส์ ที่ประเทศอาร์เจนตินา

ในทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว ทีมมวยเยาวชนหญิงของฟอนตาเนียล คว้ามาได้หนึ่งเหรียญทองจาก “พรทิพย์ บัวป่า” นักชกสาวรุ่นไลต์เวต 60 กิโลกรัม

ถือเป็นนิมิตหมายอันดีของทีมมวยสาวไทย ที่จะมีตัวแทนไปลงแข่งยูธโอลิมปิกจำนวนหนึ่งรุ่น

การเดินทางกลับมาปั้นนักมวยสากลสมัครเล่นไทยอีกครั้ง ด้วยภารกิจที่แตกต่างจากเดิม ของ “ฮวน ฟอนตาเนียล” คงทำให้แฟนหมัดมวยได้เห็นความสามารถ ความแข็งแกร่ง และขวัญกำลังใจ ซึ่งจะถูกยกระดับขึ้นของทีมกำปั้นสาวไทย

ก่อนจะได้ลุ้นกันยาวๆ ในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ที่อินโดนีเซียกลางปีนี้ ไปจนถึงทัวร์นาเมนต์สำคัญอย่างโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

อย่างไรก็ตาม ณ ตอนนี้ คงต้องให้เวลา “ยอดโค้ชชาวคิวบา” ได้ค่อยๆ เจียระไนเหล่าลูกศิษย์สตรีรุ่นล่าสุด เพื่อสร้าง “ประวัติศาสตร์หน้าใหม่” ในอนาคตอันใกล้