การหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีระหว่างโจ ไบเดน (Joe Biden) และโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) กำลังดุเดือดเข้มข้น เหลือเวลาไม่ถึงสองเดือนก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 3 พฤศจิกายน

วันที่ 29 กันยายนนี้จะมีการดีเบต (Debate) ครั้งแรก ระหว่างโจ ไบเดน กับโดนัลด์ ทรัมป์ ทั้งสองคนจะขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์ นำเสนอนโยบาย และตอบคำถาม

ซึ่งคาดว่าจะเป็นไปอย่างดุเดือดเลือดพุ่ง เพราะทั้งสองฝ่ายฝีปากคมคายร้ายลึกพอๆ กัน

ส่วนดีเบตครั้งที่ 2 จะมีขึ้นในวันที่ 15 ตุลาคม และครั้งที่ 3 วันที่ 22 ตุลาคม

 

การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐสามสมัยที่ผ่านมา ผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจะแสดงใบรับรองจากแพทย์ประจำตัวว่าร่างกายแข็งแรงดี เพื่อให้คนที่ไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งมั่นใจว่าหากผู้สมัครได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดี จะไม่มีปัญหาสุขภาพซึ่งจะมีผลกระทบต่อการตัดสินใจสำคัญๆ หรือมีผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ เพราะหากสุขภาพไม่ดี หรือป่วย ตายระหว่างดำรงตำแหน่ง เป็นปัญหาใหญ่แน่นอน

โจ ไบเดน จะมีอายุครบ 78 ปีในวันที่ 20 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้

ส่วนโดนัลด์ ทรัมป์ มีอายุครบ 74 ปี เมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา

 

โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 45 อายุมากที่สุดในวันสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง โดยมีอายุ 70 ปี 220 วัน เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2017

ส่วนประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่มีอายุน้อยที่สุดในวันสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง คือ จอห์น เอฟ. เคนเนดี้ (John F. Kennedy) อายุ 43 ปี 236 วัน

ถ้าหากโจ ไบเดน ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ เขาจะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่มีอายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์ วันสาบานตนเข้ารับตำแหน่งซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 20 มกราคม 2021 ในวันนั้น โจ ไบเดน จะมีอายุ 78 ปี 61 วัน

โจ ไบเดน บอกว่า เป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่จะถามคนอายุ 70 ปี ว่าร่างกายฟิตพอหรือไม่ พร้อมรึเปล่า

โจ ไบเดน บอกต่อว่า สิ่งเดียวที่เขาบอกคนอเมริกันได้ก็คือ “Watch me” หรือ “ดูผมก็แล้วกัน”

นพ.เควิน ซี โอ”คอนเนอร์ (Dr. Kevin C O”Connor) เป็นแพทย์ประจำตัวของโจ ไบเดน มาตั้งแต่ปี 2009 ได้เขียนรายงานสุขภาพของโจ ไบเดน ความยาว 3 หน้า เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วว่า โจ ไบเดน เป็นชายวัย 77 ปี ที่สุขภาพแข็งแรง กระฉับกระเฉง พร้อมที่จะทำหน้าที่ประธานาธิบดีด้วยความสำเร็จ

โจ ไบเดน ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำตาลและคอเลสเตอรอลสูง ออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน

นอกจากนี้ ประวัติของพ่อ-แม่โจ ไบเดน ก็มีอายุยืน แม่เสียชีวิตตอนอายุ 92 ปี ส่วนพ่อเสียชีวิตตอนอายุ 86 ปี

โจ ไบเดน สูง 182 เซนติเมตร หนัก 80 กิโลกรัม ค่าดัชนีมวลกายหรือ Body Mass Index (BMI) 24.38 จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ ห่างไกลโรคที่เกิดจากความอ้วน ระดับคอเลสเตอรอลรวม (Total Cholesterol) 126/mg (ค่าปกติควรน้อยกว่า 200/mg) ระดับ LDL หรือไขมันไม่ดี อยู่ที่ 69/mg (ควรน้อยกว่า 70/mg ในผู้ที่มีความเสี่ยง เป็นโรคหัวใจหรือเบาหวาน) ระดับ HDL หรือไขมันดี อยู่ที่ 36/mg (ควรมากกว่า 40/mg)

สำหรับเรื่องการเล่นกีฬา โจ ไบเดน ได้เขียนเล่าถึงชีวิตของเขาในหนังสืออัตชีวประวัติ Promises to Keep : On Life and Politics หรือสัญญาที่รักษาไว้ : ในชีวิตและการเมือง ว่าตัวเขามีปัญหาเรื่องการพูดติดอ่าง ทำให้ขาดความมั่นใจในการสื่อสารด้วยคำพูด

แต่เขามีความมั่นใจในเรื่องความสามารถในการเล่นกีฬา เพราะกีฬาเป็นสิ่งที่เขามีความสามารถโดยธรรมชาติ ขณะที่การพูดไม่ใช่เรื่องที่เขามีความสามารถโดยธรรมชาติ

แม้ตอนเด็กจะพูดติดอ่าง แต่เขาไม่เคยขาดความมั่นใจที่จะพูดกับเพื่อนว่า “Give me the ball.” หรือ “ส่งลูกบอลมาให้ผม”

สมัยเป็นนักเรียนไฮสกูล โจ ไบเดน เป็นนักเบสบอล และนักอเมริกันฟุตบอลทีมโรงเรียน

 

สําหรับโดนัลด์ ทรัมป์ เขาชอบเล่นกอล์ฟมาก นับตั้งแต่วันที่ทรัมป์สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 45 เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2016 จนถึงวันที่ 29 เมษายน 2016 หรือ 100 วันที่ดำรงตำแหน่ง เขาออกรอบเล่นกอล์ฟถึง 19 ครั้ง ในขณะที่อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ออกรอบเพียง 1 ครั้ง ในช่วงเวลา 100 วันหลังจากเข้ารับตำแหน่ง

โดนัลด์ ทรัมป์ เคยเป็นนักกอล์ฟฝีมือดี แฮนดิแคป 3 ได้แชมป์ของสโมสรมาหลายรายการ

เมื่อ 4 ปีก่อน ชื่อนายแพทย์แฮโรลด์ บอร์นสตีน (Harold Bornstein) แพทย์ประจำตัวของโดนัลด์ ทรัมป์มา 36 ปี เขียนใบรับรองสุขภาพของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เขียนเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2015 ไว้อย่างหยดย้อยว่า โดนัลด์ ทรัมป์ มีสุขภาพและความแข็งแกร่งของร่างกายสุดยอด ไม่เป็นมะเร็ง ไม่เคยผ่าตัดเข่า ไหล่ หรือสะโพก เคยแต่ผ่าไส้ติ่งตอนอายุ 10 ขวบ การทำงานของหัวใจเยี่ยม เหล้าไม่ดื่ม บุหรี่ไม่สูบ

แล้วสรุปใบรับรองสุขภาพว่า หากโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดี จะไม่สงสัยเลยว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จะเป็นประธานาธิบดีที่แข็งแรงที่สุดตั้งแต่มีการเลือกตั้งมา!

เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว The New York Times เป็นการส่วนตัว พูดถึงสุขภาพของตัวเองได้น่าหมั่นไส้ ว่า “I feel good. I think I feel better than I did four years ago”

ผมรู้สึกดี คิดว่าตัวเองสุขภาพดีกว่าเมื่อ 4 ปีที่แล้วซะอีก