เผยแพร่ |
---|
“ผศ.นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์” เผยความภาคภูมิใจหลังได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จาก DPU พร้อมถ่ายทอดแนวคิดสู่ความสำเร็จในสายวิชาชีพ
ผศ.นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ ที่ปรึกษาคณบดีฝ่ายวิทยาการชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ วิทยาลัยการแพทย์แบบบูรณาการ (CIMw) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ได้รับเกียรติสูงสุดจากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ด้วยการมอบ ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิทยาการชะลอวัยและการฟื้นฟูสุขภาพ ซึ่งนับเป็นจุดสำคัญอีกครั้งในชีวิตการทำงานของท่านที่ได้ทุ่มเทให้กับศาสตร์นี้มานานกว่า 25 ปี
ผศ.นพ.พันธ์ศักดิ์ กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้รับเกียรตินี้ว่า ถือเป็นเกียรติและเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง เพราะเป็นเครื่องยืนยันว่าผลงานที่ตนได้อุทิศตนทำมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้นได้รับการยอมรับ การได้รับการเชิดชูเกียรติครั้งนี้ไม่เพียงแต่สร้างความภาคภูมิใจให้แก่ตนเอง แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ตนเดินหน้าพัฒนาสิ่งที่ทำให้ดียิ่งขึ้น เพื่อเป็นแบบอย่างให้กับบุคคลอื่นที่กำลังเริ่มต้นในสายงานนี้
เวชศาสตร์ชะลอวัย: การแพทย์แนวใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอนาคตสุขภาพของมนุษย์
ที่ปรึกษาคณบดีฝ่ายวิทยาการชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ วิทยาลัยการแพทย์แบบบูรณาการ (CIMw) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ได้อธิบายถึงวิวัฒนาการของการแพทย์ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ซึ่งเมื่อก่อนมุ่งเน้นไปที่ “การรักษาโรค” หรือ Curative Medicine เป็นหลัก กล่าวคือ เมื่อผู้ป่วยแสดงอาการเจ็บป่วย แพทย์จึงเข้าไปทำการรักษา แต่วิวัฒนาการทางการแพทย์ก้าวไปไกลกว่านั้น จึงเกิดแนวทางใหม่ที่สำคัญคือ
- การป้องกันโรค (Preventive Medicine) เน้นการป้องกันโรคก่อนที่จะเกิดขึ้น เช่น การควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย และการดูแลสุขภาพอย่างถูกต้อง ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงในการลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ
- การส่งเสริมสุขภาพ (Promotive Health) ก้าวไปอีกขั้นจากการป้องกัน ด้วยการใช้ศาสตร์ของเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพเพื่อยืดอายุขัยและเพิ่มคุณภาพชีวิต โดยเน้นการสร้างความแข็งแรงของร่างกาย ฟื้นฟูเซลล์ และปรับสมดุลของร่างกายให้เหมาะสมกับวัย
จากศาสตร์ที่เคยถูกตั้งคำถาม สู่ศาสตร์ที่ได้รับการยอมรับระดับโลก
แม้ว่าเวชศาสตร์ชะลอวัยจะเป็นแนวคิดที่เริ่มต้นเมื่อกว่า 25 ปีที่แล้ว แต่ในระยะแรกกลับเผชิญกับการตั้งคำถามจากแวดวงการแพทย์และสังคม บ่อยครั้งที่ตนเอง ต้องอธิบายและต่อสู้กับความไม่เข้าใจของผู้คนที่มองว่าแนวคิดนี้เป็นเพียงเรื่องของธุรกิจหรือแนวคิดที่ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ
“ในช่วงแรก แนวคิดเรื่องเวชศาสตร์ชะลอวัยยังไม่เป็นที่ยอมรับมากนัก เพราะในขณะนั้นข้อมูลทางงานวิจัยยังมีไม่มากพอ แต่เมื่อเวลาผ่านไป งานวิจัยระดับสากลเริ่มออกมารองรับแนวคิดนี้มากขึ้น ในปัจจุบัน เรามีทั้งหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และแนวทางปฏิบัติที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันและการฟื้นฟูร่างกายสามารถช่วยให้มนุษย์มีอายุที่ยืนยาวขึ้น และมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น” ผศ.นพ.พันธ์ศักดิ์ กล่าว
บทบาทของมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ในการพัฒนาองค์ความรู้ด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย
ผศ.นพ.พันธ์ศักดิ์ ยังกล่าวถึงบทบาทของมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ที่ให้ความสำคัญกับศาสตร์ด้านนี้มาโดยตลอด และได้มีการผลักดันให้เกิดการศึกษาและวิจัยที่จริงจังขึ้น โดยมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ มีวิสัยทัศน์กว้างไกลในการพัฒนาองค์ความรู้ด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะการศึกษาด้านนี้ไม่ได้เป็นเพียงแนวทางสุขภาพที่เป็นประโยชน์กับบุคคลเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างผลกระทบในระดับประเทศ ทำให้มีบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้เพิ่มขึ้น และส่งเสริมให้สังคมโดยรวมมีสุขภาพที่ดีขึ้น
โดยพบว่า ปัจจุบันมีผู้สนใจศึกษาด้านนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากที่ในอดีตจำนวนนักศึกษายังมีไม่มากนัก แต่ในปัจจุบันหลักสูตรด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยได้รับความนิยมมากขึ้น จนกลายเป็นหนึ่งในศาสตร์สำคัญของมหาวิทยาลัย
เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ: การมั่นคงในเป้าหมายและการคว้าโอกาส
ที่ปรึกษาคณบดีฝ่ายวิทยาการชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ วิทยาลัยการแพทย์แบบบูรณาการ (CIMw) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ได้ฝากข้อคิดสำหรับผู้ที่ต้องการประสบความสำเร็จในชีวิตและในสายวิชาชีพ โดยเน้นย้ำถึงหลักการสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ ความมั่นคงในความคิดและเป้าหมาย คือเราต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนและแน่วแน่ต่อสิ่งที่เราต้องการทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของมนุษย์ เพราะเป็นสิ่งที่มีผลกระทบต่อชีวิตคนจำนวนมาก , การรอโอกาสและการสร้างโอกาส คือ โอกาสมีอยู่เสมอ เพียงแต่ว่าเราต้องมองเห็นและคว้ามันให้ได้ ระหว่างที่รอโอกาส เราก็ต้องสร้างโอกาสให้ตัวเองไปเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับที่เวชศาสตร์ชะลอวัยต้องใช้เวลากว่าที่จะได้รับการยอมรับ และการอยู่ในที่ที่เหมาะสม คือ การทำงานให้ประสบความสำเร็จ ต้องอยู่ในที่ที่เหมาะสมกับศักยภาพของเรา ถ้าเราอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเป้าหมายเดียวกันและมีวิสัยทัศน์ร่วมกัน การทำงานก็จะมีประสิทธิภาพและสำเร็จได้ง่ายขึ้น