ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 3 - 9 มกราคม 2568 |
---|---|
คอลัมน์ | กาแฟดำ |
ผู้เขียน | สุทธิชัย หยุ่น |
เผยแพร่ |
ช่วงหลังนี้ มีใครมาบ่นให้ฟังว่าไม่รู้ปีหน้าสถานการณ์บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร ดูๆ แล้วจิตใจวังเวงอย่างไรชอบกล
เพราะยังมองไม่ออกมาจะมีเรื่องร้ายๆ อะไรรออยู่บ้าง
ข่าวดีๆ ก็มีจำกัดจำเขี่ยเหลือเกิน
ผมต้องปลอบใจ (เหมือนที่ปลอบตัวเองทุกวัน) ว่า
ข่าวร้ายคือไม่รู้ว่าจะเกิดอะไร
ข่าวดีคือคนอื่นก็ไม่รู้เหมือนเรา
และต้องเชื่อโดนัลด์ ทรัมป์ ว่า
อาวุธที่สำคัญที่สุดของเขาคือ Unpredictability
คือเมื่อไม่มีใครคาดเดาเขาถูก คนฝั่งตรงกันข้ามก็วางแผนต่อสู้เราลำบาก
นั่นอาจจะเป็นข่าวดีของทรัมป์
และข่าวร้ายที่ตามมาก็คือ
เขาเองก็ยังเดาตัวเองไม่ถูกเลยว่าพรุ่งนี้เขาจะทำอย่างที่เขาพูดวันนี้หรือเปล่า!
แต่ที่เราท่านรู้แน่ๆ คือเมื่อเราก้าวเข้าสู่ปี 2025 ไม่ต้องถามหมอดูก็รู้ว่าโลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคแห่ง “ความไม่แน่นอนอย่างแน่นอน”
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงพลิกผันด้วยความเร็วที่และผันผวนที่ไม่มีในตำราไหนทั้งสิ้น
เพราะเป็นความท้าทายระดับโลกที่เกิดจากเทคโนโลยี ภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม
ก่อให้เกิดความรู้สึกถึงความคาดเดาไม่ได้ที่ซึมลึกในทุกมุมของชีวิตทุกผู้ทุกนาม
ไม่ว่าจะยากดีมีจนก็จะเผชิญกับคำถามเดียวกันว่า : วันนี้เป็นอย่างนี้ พรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร
แม้เราจะรู้ปัจจัยของแต่ละเรื่องครบถ้วน แต่ก็ไม่มีใครแน่ใจว่าผลลัพธ์ที่ปลายทางจะเป็นอย่างไร
ที่คาดเดาไม่ได้อันดับต้นๆ ของปีใหม่นี้เรื่องหนึ่งคืออัตราเร่งของนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ที่จะมาพร้อมกับสิ่งที่เรียกว่าคอมพิวเตอร์ควอนตัม
กับที่ปฏิเสธไม่ได้คือเทคโนโลยีชีวภาพ
ที่กำลังจะปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมและสังคมในวิถีทางที่ลึกซึ้งเกินกว่าที่เราจะกล้าจินตนาการได้
ChatGPT-5 เป็นตัวอย่างของความผันแปรที่ไม่มีใครทำนายได้ว่าจะนำไปสู่อะไร
แม้เพียงในช่วง 3 เดือน 6 เดือน
เมื่อ AI พูดได้อย่างรู้เท่าทันมนุษย์ อีกทั้งยัง “ฉลาด” มากขึ้นตลอดเวลา คนบนโลกใบนี้จะสามารถวางใจในเทคโนโลยีว่าจะไม่หันมาสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายให้กับสังคมอย่างไร
เรามาถึงจุดที่การแข่งขันเพื่อครอบครองความเป็นผู้นำในแวดวง AI มีส่วนยกระดับความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์โดยที่เราอาจจะไม่รู้ตัว
เพราะแต่ละประเทศต่างยื้อแย่งแข่งขันกันเพื่อสร้างความได้เปรียบ และพยายามจะสกัดเส้นทางของชาติอื่น
เชื่อหรือไม่ว่านั่นอาจส่งผลต่อเสถียรภาพโลกอย่างน่าหวาดหวั่นยิ่งนัก
ที่บอกว่า “คาดเดาไม่ได้” นั้นไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในตัวเทคโนโลยีเท่านั้น
แต่ยังหมายรวมถึงผลกระทบต่อสังคมอย่างกว้างขวาง ไม่ว่ามนุษย์จะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม
แค่ถามว่าใครเป็นคนคุมเกม? จะคุมอยู่หรือไม่? ใครจะเป็นคนกำหนดกติกาของการใช้เทคโนโลยี?
แค่ไม่กี่คำถามนี้ก็สร้างความอลหม่านให้กับสังคมโลกเกินกว่าที่จะตีกรอบให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้แล้ว
แต่ที่ผมห่วงไม่น้อยไปกว่าก็คือความปั่นป่วนทางภูมิรัฐศาสตร์ที่กำลังจะปรากฏโฉมอย่างร้อนแรงในปีใหม่นี้
ภูมิรัฐศาสตร์ในปี 2025 จะนำมาซึ่งความแตกแยก, แตกคอ, ตีเส้นแบ่งมิตรและศัตรูอย่างร้อนแรง
สิ่งที่เรียกว่า “พันธมิตร” หรือคำถามว่าใครเป็นเพื่อน ใครเป็นปรปักษ์จะถูกนิยามใหม่หมด
เพราะโครงสร้างอำนาจดั้งเดิมกำลังถูกท้าทายอย่างที่ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน
เมื่อประเทศมหาอำนาจเกิดใหม่แข่งขันกับมหาอำนาจเดิม
แน่นอนว่าความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีนยังคงเป็นประเด็นหลัก
แต่ตัวละครอย่างอินเดีย บราซิล และกลุ่มภูมิภาคต่างๆ กำลังก่อร่างสร้างอิทธิพลบนเวทีโลกอย่างเร่าร้อน
โดนัลด์ ทรัมป์ จะยุติสงครามยูเครนได้หรือไม่ไม่สำคัญเท่ากับคำถามที่ว่าแม้จะระงับศึกสงครามได้ การแบ่งสรรอำนาจในสมการใหม่จะก่อให้เกิดความขัดแย้งรูปแบบใหม่หรือไม่อย่างไร
เมื่อทรัมป์เอาตัวออกห่าง และตั้งเงื่อนไขที่โยงกับเรื่องเงินๆ ทองๆ มากกว่าการพิจารณาเรื่องดุลแห่งอำนาจระหว่างตะวันตกกับรัสเซียและจีน, โลกจะแปรเปลี่ยนไปอย่างไร
ใกล้บ้านเราในเอเชีย ความตึงเครียดเกี่ยวกับไต้หวันและทะเลจีนใต้ยังคงไม่หดหายไป
อยู่ที่ทรัมป์กับสี จิ้นผิง ของจีนจะต่อรองยื่นหมูยื่นแมวกันอย่างไรจึงจะเป็นที่ยอมรับได้ของทั้งมังกรและอินทรี
ปี 2025 จะผลักดันโลกมายืนอยู่ตรงทางหลายแพร่งเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก
เริ่มด้วยความกดดันด้านเงินเฟ้อที่คงอยู่มาตั้งแต่ยุคโควิด-19 จะทวีความรุนแรงขึ้นจากการหยุดชะงักของระบบห่วงโซ่อุปทาน
ซ้ำเติมด้วยความขัดแย้งในภูมิภาค
ธนาคารกลางทั่วโลกกำลัง “ไต่ลวด” อย่างน่าหวาดเสียวเพื่อพยายามสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตและเสถียรภาพ
ในภาวะที่ตลาดโลกสั่นไหวอยู่ตลอดเวลา
และไม่มีช่วงเวลาที่จะ “นิ่ง” พอที่จะเปิดทางให้รัฐบาลทั้งหลายมีเวลาหายใจเพื่อทบทวนข้อผิดพลาดในอดีตเพื่อไม่ให้ทำผิดซ้ำในวันนี้
หรือป้องกันหายนะในวันข้างหน้า
ก่อนสิ้นปี กระแส Bitcoin กลายเป็นหัวข้อร้อนแรงที่มาจากแนวทางของทรัมป์ในอเมริกา
นั่นแปลว่าในปีใหม่นี้จะเกิดแนวโน้มการให้ความสำคัญกับการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi หรือ Decentralized Finance) อย่างคึกคัก
นั่นหมายถึงการยอมรับสกุลเงินคริปโตในกระแสหลักที่จะพุ่งขึ้น…พร้อมกับความซับซ้อนซ่อนเงื่อน
เพราะบางคนมองว่านวัตกรรมที่ว่านี้นี้เป็นเครื่องมือกระจายอำนาจทางการเงิน
แต่อีกบางคนก็เตือนถึงความเสี่ยงต่อระบบเศรษฐกิจที่ล้นเกินจนยากจะควบคุม
ยิ่งทำให้ต้องกังวลเรื่องความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจที่ยังคงเป็นปัญหาเร่งด่วนที่รัฐบาลส่วนใหญ่ยังหาทางออกที่มีประสิทธิภาพอย่างจริงจังไม่ได้
แต่มันคือระเบิดเวลาที่จะก่อให้เกิดความวุ่นวายทางสังคม
และนำไปสู่วิกฤตที่เกิดจากนโยบายประชานิยมทางการเมือง
ปีที่ผ่านมาตอกย้ำว่าสิ่งที่คาดเดายากยิ่งในปีใหม่อีกเรื่องหนึ่งคือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ที่เห็นได้ชัดเจนคือเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว-น้ำท่วมรุนแรง ไฟป่า และพายุเฮอร์ริเคนระดับโลก
ปีใหม่นี้จะยิ่งมีความชัดเจนถึงความเร่งด่วนในเรื่องนี้ที่จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างเร่งร้อน
แม้แต่ในประเทศ การบูรณาการระหว่างหน่วยงานต่างๆ เพื่อป้องกันและแก้ไขวิกฤตจากภัยธรรมชาติยังห่างไกลจากความสำเร็จ
ไม่พักต้องพูดถึงความคาดหวังว่าการประสานงานระดับโลกในเรื่องยุ่งยากซับซ้อนเช่นนี้จะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ ในระยะเวลาอันใกล้นี้
เรื่องใกล้ตัวที่สุดเรื่องหนึ่งคือการเปลี่ยนไปสู่พลังงานหมุนเวียนที่ไม่เร่งไม่ได้
แต่ก็เห็นอยู่โทนโท่ว่าเส้นทางสู่เป้าหมายเต็มไปด้วยความท้าทาย
วัสดุสำคัญที่จำเป็นสำหรับแผงโซลาร์เซลล์ กังหันลม และแบตเตอรี่กระจุกตัวในไม่กี่ประเทศ
นั่นหมายถึงการเกิดปรากฏการณ์ของการ “พึ่งพาแบบใหม่” ระหว่างประเทศ
อีกทั้งยังเพิ่มเติมดีกรีของความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคต่างๆ ของโลก
แต่ที่ใกล้ตัวที่สุดที่เกี่ยวกับชีวิตประจำวันของผู้คนทั้งหลายทั้งปวงน่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนแปลงด้านสังคมและวัฒนธรรม
บรรทัดฐานของสังคมและพลวัตทางวัฒนธรรมกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและรุนแรง
การเพิ่มขึ้นของ Gen Z และ Gen Alpha ในฐานะตัวขับเคลื่อนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมและการเมืองคือตัวแปรที่สำคัญยิ่ง
เพราะมันได้นำเอาค่านิยมใหม่ๆ ที่คนรุ่นก่อนๆ ขาดความคุ้นเคยและยอมรับ
คนรุ่นใหม่เรียกร้องต้องการให้มีการดำเนินการในมาตรฐานทั้งเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความยุติธรรมทางสังคม และสุขภาพจิต
ซึ่งมักจะย้อนแย้งกับมาตรฐานที่มีอยู่
และความเปลี่ยนแปลงเช่นว่านี้จะต้องมีการรื้อทั้งระบบ, กฎเกณฑ์และเขย่าสถานบันทั้งหลายทั้งปวงที่เกี่ยวข้อง
อย่าเพิ่งถอนหายใจ
เพราะเมื่อต้องเผชิญกับ “การคาดเดาอะไรไม่ได้” เรามีทางเลือกไม่กี่ทาง
หนึ่งคือยอมแพ้ วิ่งหนี หลบหลีก
แต่นั่นย่อมหมายถึงการยอมจำนนทั้งๆ ที่รู้ว่ายังไงๆ ก็ต้องหวนมาเจอกับมันอีก
อีกทางหนึ่งคือเผชิญหน้าด้วยการยอมรับความจริง และปรับตัวเรียนรู้พร้อมกับความเปลี่ยนแปลง
เมื่อคาดเอาอะไรไม่ได้ก็ไม่ต้องคาดเดา
และเตรียมพร้อมสำหรับ “ทุกกรณี”!
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022