เผยแพร่ |
---|
ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) เชิญ “เขื่อน ภัทรดนัย เสตสุวรรณ” มาร่วมฮีลใจในกิจกรรม The Moments of the sky…ช่วงเวลาแห่งท้องฟ้า ให้นักศึกษาเปิดมุมมองเพื่อเข้าใจตัวเองและเข้าใจสังคม พร้อมแชร์ประสบการณ์ชีวิตในฐานะนักจิตบำบัดที่มากไปด้วยความสามารถ
เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) โดย คณะนิเทศศาสตร์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ และวิทยาลัยครีเอทีฟดีไซน์ แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์เทคโนโลยี ได้จัดกิจกรรม “The Moments of the sky…ช่วงเวลาแห่งท้องฟ้า” โดยได้รับเกียรติจากคุณเขื่อน ภัทรดนัย เสตสุวรรณ อดีตนักร้องชื่อดัง ที่ปัจจุบันเป็นนักจิตบำบัด มาเป็นวิทยากรบรรยายให้กับมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ และนักเรียนจากโรงเรียนราชนันทาจารย์ สามเสนวิทยาลัย 2 เพื่อเปิดมุมมองที่พร้อมจะเข้าใจตัวเองและเข้าใจสังคม โดยมีอาจารย์กอบกิจ ประดิษฐผลพานิช ผศ.ศิวนารถ หงษ์ประยูร ผศ. ดร.วิลาวัลย์ อินทร์ชำนาญ ผศ.กมลศิริ วงศ์หมึก ดร.พันธกานต์ ทานนท์ อาจารย์วรพงษ์ ปลอดมูสิก ร่วมต้อนรับ ณ ห้องประชุมดร.ไสว สุทธิพิทักษ์ อาคาร 6 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
ผศ.ศิวนารถ หงษ์ประยูร คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวว่า กิจกรรม “The Moments of the Sky…ช่วงเวลาแห่งท้องฟ้า” ในครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อที่จะสร้างพื้นที่แห่งความหวัง และความเข้าใจให้กับทุกคนที่มาร่วมงาน สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ทุกคนได้เปิดใจรับฟังและแบ่งปันความรู้สึกอย่างอิสระ เปรียบเสมือนการมองท้องฟ้าที่เปลี่ยนแปลงแต่เต็มไปด้วยความงดงาม เชื่อว่าการเปิดใจคือกุญแจสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจซึ่งกันและกัน พร้อมส่งเสริมให้ทุกคนพบความสุขและความหวังในชีวิต ซึ่งภาพที่เกิดขึ้นในงานวันนี้ เกิดจากการที่นักศึกษาหลักสูตรการสื่อสารการตลาดดิจิทัล ชั้นปีที่ 4 ได้เป็นผู้รังสรรค์ขึ้น โดยผ่านกระบวนการนำเสนอ สู่การลงมือปฏิบัติจริง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Final Project ในรายวิชา การสร้างธุรกิจการตลาดดิจิทัล ที่สอนโดย อาจารย์วรพงษ์ ปลอดมูสิก คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ งานนี้จึงเป็นการการแสดงศักยภาพด้านการเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์สายงานอีเวนต์และเสริมทักษะการทำงานร่วมกันเป็นทีม อีกทั้งเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างนักศึกษาจากวิทยาลัย คณะต่างๆ โดยเชื่อว่าหลังจากได้ฟังประสบการณ์ที่ดีของ คุณเขื่อน ภัทรดนัย แล้ว จะเป็นแรงบันดาลใจให้นักศึกษานำไปปรับใช้กับตัวเองให้เกิดความสุขมากที่สุด
ขณะที่อาจารย์กอบกิจ ประดิษฐผลพานิช คณบดีกลุ่มวิชาการสอง มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เปิดเผยว่า กิจกรรมที่จัดขึ้นในครั้งนี้ หวังว่าจะทำให้นักศึกษาได้เติมพลังบวก และ เสริมความคิดสร้างสรรค์ในการทำงานที่ช่วยให้ผลงานออกมามีความสวยงามและประสบความสำเร็จ จะเห็นได้จากหน้าห้องประชุมที่เต็มไปด้วยผลงานสร้างสรรค์ต่าง ๆ มากมาย ทุกอย่างล้วนเชื่อมโยงกันและหวังว่าจะได้ร่วมกันสร้างพลังบวกในวันนี้ หากนักศึกษาได้เรียนรู้ที่จะยอมรับในตัวเอง เข้าใจผู้อื่น และ รู้จักการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในสังคม เชื่อว่าทุกคนจะได้ความรักและแรงสนับสนุนคนรอบข้าง เราจึงมีความตั้งใจที่อยากสร้างพื้นที่ให้ทุกคนได้พบพลังบวกก่อนการสอบปลายภาค และแลกเปลี่ยนความรู้สึกในบรรยากาศที่อบอุ่นและปลอดภัย เติมเต็มความสุข และความหวังในชีวิต ขอให้เริ่มต้นจากเชื่อมั่นในศักยภาพของตนเองแล้วเราก็จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
ด้านคุณเขื่อน ภัทรดนัย เสตสุวรรณ นักจิตบำบัด ในฐานะวิทยากร กล่าวว่า การรักตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ แต่คนส่วนใหญ่มักละเลย แท้ที่จริงแล้วการรักตัวเองช่วยให้เรามีความสุขและเป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำ แต่ด้วยบริบทของสังคมไทยที่ต้องเอาคนอื่นมาก่อนเสมอ ถ้าเป็นเช่นนี้แล้วในที่สุดเราก็จะอยู่กับตัวเอง แต่สิ่งสำคัญคือทุกคนจะต้องจัดการความรู้สึกของตัวเองให้ได้เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องปัจเจกบุคคล การรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นทำได้ แต่ไม่ควรให้ปัญหาของผู้อื่นกลายมาเป็นปัญหาของตัวเองนักศึกษาต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับอารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นความเศร้า เหนื่อยล้า หรือความผิดหวัง โดยไม่ตัดสินตัวเอง เพราะการเข้าใจตัวเองเป็นก้าวแรกในการฮีลใจ
“สำหรับพี่เขื่อนแล้วการรักตัวเองนั้นไม่ใช่แค่การพูดออกไป แต่ต้องเข้าใจตัวเองให้ดีเสียก่อน เรามักติดอยู่ในวงจรที่พยายามหาความรักจากผู้อื่น เพื่อเติมเต็มความรู้สึกตัวเอง 100% คอยพยายามทำให้คนอื่นพอใจ หรือรอคำยืนยันจากผู้อื่นว่าเราดีพอ แต่เมื่อเราเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง เราจะไม่ต้องพึ่งพาความรักจากผู้อื่นมาเติมเต็มทุกอย่าง หากเราอยู่ในความรักที่ไม่ทำร้ายผู้อื่นและยอมรับความรู้สึกของตัวเองได้ การรักตัวเองก็จะนำไปสู่การรับผิดชอบในความรู้สึกเหล่านั้น การออกจากวงจรที่ต้องพึ่งพาคนอื่นคือการเติมเต็มความรู้สึกของตัวเองให้เต็ม 80%- 100% จนตัวเราเองมีความสุขและมีพลังบวก เมื่อมีแฟนเข้ามา ความสุขของเราก็อาจเพิ่มขึ้นเป็น 200% แต่เราจะไม่พึ่งพาความสุขจากเขาเพียงคนเดียว หากไม่มีเขาความสุขของเราก็จะยังคงอยู่ที่ 100% เราจะไม่ตกลงไปในลูปของความสัมพันธ์ที่เป็น toxic relationship ทำให้เราเสพติดความรู้สึกดีๆ ที่ได้รับจากผู้อื่นและทำให้เรากลัวที่จะออกจากความสัมพันธ์นั้น ทว่าความสัมพันธ์นั้นไม่ได้มีแค่ความรักแบบโรแมนติกเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความสัมพันธ์แบบพี่น้อง เพื่อน หรือความรักจากครอบครัว เช่น พ่อแม่” วิทยากร กล่าว
นอกจากนี้คุณเขื่อน ภัทรดนัย ยังกล่าวอีกว่า สุดท้ายการไม่รักตัวเองคือ การไม่เข้าใจความหมายของชีวิต ถ้ายังเดินอยู่ในเส้นทางนั้นไม่ได้แปลว่าเราไม่อยากรักตัวเอง แต่บางครั้งเราอาจหลงลืมไปว่าเราดีพอ และสมควรที่จะรักตัวเอง บางครั้งเสียงรบกวนจากคนรอบข้างที่ไม่เข้าใจเราสามารถทำให้เราลืมไปว่าเราคือคนที่ดีพอเสมอ ดังนั้นหากวันนี้เรายังไม่รู้วิธีรักตัวเอง ก็ขอให้หายใจลึกๆ และบอกตัวเองว่า “ไม่เป็นไร” ในที่สุดทุกคนก็สามารถเรียนรู้ที่จะรักตัวเองได้ ลองกลับไปบ้านและถามตัวเองว่าเราพร้อมที่จะทำความเข้าใจกับตัวเองหรือยัง เพื่อทบทวนความเข้าใจนั้นให้มากขึ้น