พระสมเด็จฐานสิงห์ หลวงปู่นะ ฐิตปัญโญ วัดหนองบัว จ.ชัยนาท

พระครูปทุมชัยกิจ หรือ หลวงปู่นะ ฐิตปัญโญ เจ้าอาวาสวัดปทุมธาราม (หนองบัว) ต.หนองบัว อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท จะมีอายุครบรอบ 103 ปี ศิษย์ผู้ใกล้ชิดและผู้เลื่อมใส จะได้ร่วมกันจัดงานมุทิตาจิตฉลองอายุวัฒนมหามงคล เป็นประจำทุกปี

เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังอีกรูป ทายาทศิษย์พุทธาคมสายหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท

ในปี พ.ศ.2531 อนุญาตให้ทางวัดจัดสร้าง “พระสมเด็จฐานสิงห์ หลังรูปเหมือนหลวงปู่นะ (โรยผงตะไบ)” เพื่อหารายได้สมทบทุนบูรณะอุโบสถ

ลักษณะขององค์พระ เป็นพระเนื้อผงพุทธคุณ ด้านหน้าองค์พระ ตรงกลางเป็นรูปนูนพระพุทธรูปนั่งสมาธิบนฐาน 3 ชั้น มีซุ้มครอบแก้ว ฐานชั้นล่างสุด เป็นฐานขาสิงห์ ฝังพระธาตุ 1-3 เม็ด และเส้นเกศาหลวงปู่นะ

ส่วนด้านหลังองค์พระ ตรงกลางเป็นลายเส้นรูปเหมือนนั่งสมาธิเต็มองค์อยู่บนอาสนะ รอบรูปเหมือน มีอักขระขอม นะโมพุทธายะ และด้านล่างเขียนว่า “หลวงพ่อนะ วัดปทุมธาราม (หนองบัว)” พร้อมโรยผงตะไบที่รูปหลวงปู่นะ

พระสมเด็จฐานสิงห์ หลังรูปเหมือนหลวงปู่นะ (โรยผงตะไบ) รุ่นนี้ ปลุกเสกเดี่ยวตลอดไตรมาส (3 เดือน) และเนื้อพระผสมผงพุทธคุณที่นำมาจากพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายรูป

สำหรับพระสมเด็จฐานสิงห์ ด้วยความที่มีพลังจิตที่แก่กล้า เจตนาการจัดสร้างที่บริสุทธิ์ พุทธคุณจึงโดดเด่นรอบด้าน

ผู้ที่มีพระสมเด็จฐานสิงห์รุ่นนี้ ต่างมีประสบการณ์มากมาย บางรายบูชาแล้วได้โชคลาภเป็นประจำ

นับเป็นพระดีอีกรุ่นหนึ่งของจังหวัดชัยนาท

พระสมเด็จฐานสิงห์ หลวงปู่นะ (หน้า)

มีนามเดิมว่า โฉม เหล่ายัง เกิดเมื่อวันพุธที่ 6 ธันวาคม 2459 ที่บ้านขุนแก้ว ต.ดงขวาง อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี เป็นบุตรคนที่ 2 ในจำนวน 9 คน ของนายแจกและนางตี่ เหล่ายัง ครอบครัวประกอบอาชีพเกษตรกรรม

ในวาระแรกเกิด บิดา-มารดาตั้งชื่อให้ว่า “โฉม” ต่อมาเมื่ออายุ 5-6 ขวบ หมอเป้ซึ่งเป็นหมอแผนโบราณ และเป็นผู้มีความรู้ทางด้านโหราศาสตร์ด้วย เห็นว่าเจ็บไข้ได้ป่วยอยู่เป็นประจำ จึงได้เปลี่ยนชื่อใหม่ว่า “นะ” อันเป็นมงคลนาม

ส่วนนามสกุล “เหล่ายัง” ต่อมาภายหลังเปลี่ยนเป็น “นาคพินิจ”

อายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท ที่พัทธสีมา วัดราษฎร์นิธิยาวาส (ดอนปอ) ต.บ่อแร่ อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2480

โดยมีพระครูวิจิตรชัยการ (หลวงพ่อเคลือบ) วัดบ่อแร่ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์ชั้น เป็นพระกรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์สำเนียง เป็นพระอนุสาวนาจารย์

พระสมเด็จฐานสิงห์ หลวงปู่นะ (หลัง)

ศึกษาพระปริยัติธรรมด้วยความตั้งใจ พ.ศ.2481 สอบได้นักธรรมชั้นตรี จากสำนักเรียนวัดราษฎร์นิธิยาวาส (ดอนปอ) พ.ศ.2483 เดินทางไปศึกษาต่อในสำนักเรียนวัดหนองแฟบ อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี สอบได้นักธรรมชั้นโท

พ.ศ.2485 ได้ไปจำพรรษาที่วัดปทุมธาราม (หนองบัว) และในปี พ.ศ.2487 สามารถสอบได้สอบนักธรรมชั้นเอก

ขณะศึกษานักธรรม มีโอกาสศึกษาวิชาการแพทย์แผนโบราณกับพระอาจารย์ศรี วัดหนองแฟบควบคู่ไปด้วย จนมีความรู้ความชำนาญการใช้สมุนไพรรักษาโรคภัยไข้เจ็บทั่วไปด้วย

ด้วยความเป็นพระหนุ่มที่ทรงความรู้ วิทยฐานะนักธรรมชั้นเอก จึงมีความคิดก่อตั้งสำนักเรียนขึ้นมาใหม่ หลังจากซบเซาขาดหายไปนาน โดยรับหน้าที่เป็นผู้สอนเองทุกชั้น ตั้งแต่นักธรรมชั้นตรี โท และเอก จึงมีลูกศิษย์ที่เป็นพระภิกษุบริหารกิจการคณะสงฆ์อยู่ในเวลานี้หลายจังหวัด

ระหว่างนั้นหันมาให้ความสนใจศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณเพิ่มเติม และเรียนวิทยาคม เลขยันต์พันคาถาควบคู่กันไป จากตำราที่พระปลัดปั่น เจ้าอาวาสรูปที่ 9 ได้รับมอบจากหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า และพระปลัดปั่น มอบตำราของหลวงปู่ศุขให้

ศึกษาเรียนรู้สรรพวิชาจากในตำราทั้งหมด จนมีความรู้แตกฉานในวิทยาคมอย่างดี เป็นที่พึ่งของชาวบ้านที่เจ็บไข้ได้ป่วย ช่วยเหลือปัดเป่าทุกข์เหล่านั้นด้วยความเมตตา

หลวงปู่นะ ฐิตปัญโญ

ด้านงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา จัดเทศนาธรรมเป็นประจำในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ชักชวนประชาชนให้ร่วมทำบุญตักบาตร ฟังเทศน์ เวียนเทียนรอบอุโบสถ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา อีกทั้งเป็นครูสอนพระธรรมวินัย สำนักเรียนวัดปทุมธาราม (หนองบัว) เป็นครูสอนการปฏิบัติธรรมวิปัสสนากัมมัฏฐานแก่พระภิกษุ-สามเณร ตลอดจนประชาชนทั่วไป

ด้านการพัฒนาวัด นับตั้งแต่ท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดปทุมธารามเป็นต้นมา ทำการพัฒนาวัดจนเจริญรุ่งเรืองขึ้นเป็นลำดับ ด้วยการสร้างศาลาการเปรียญ โครงสร้างชั้นล่างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ชั้นบนเป็นไม้ หลังคาเป็นกระเบื้องเกร็ด, สร้างอุโบสถหลังใหม่แทนหลังเก่าที่ชำรุดทรุดโทรม, สร้างฌาปนสถานแบบมาตรฐาน พร้อมเตาเผาอย่างดี, สร้างอาคารปริยัติธรรมภิกษุ-สามเณร ลักษณะทรงไทย คอนกรีตเสริมเหล็ก

นอกจากนี้ ยังสร้างวิหารหลวงปู่ศุข 1 หลัง ลักษณะทรงไทยก่ออิฐถือปูน ช่อฟ้า ใบระกา หน้าบัน ลายใบเทศ ประดับด้วยกระจก

ด้านวัตถุมงคล อาทิ ใบพลูใจเดียว, เหรียญนารายณ์ทรงครุฑ, สมเด็จบัวไขว้ข้างอุ เป็นต้น ล้วนแต่ได้รับความนิยมจากสาธุชน

 

พ.ศ.2493 เป็นเจ้าอาวาสวัดปทุมธาราม

พ.ศ.2495 เป็นเจ้าคณะตำบลบ่อแร่-หนองขุ่น เขต 2

พ.ศ.2501 เป็นพระอุปัชฌาย์

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2501 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นตรี ในราชทินนามที่ “พระครูปทุมชัยกิจ”

พ.ศ.2514 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ชั้นโท ในราชทินนามเดิม

ด้วยสังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยง กลางดึกคืนวันที่ 10 มีนาคม 2563 หลวงปู่นะมีอาการหัวใจหยุดเต้น คณะศิษย์รีบนำส่งโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร คณะแพทย์พยายามยื้ออาการสุดความสามารถ แต่ด้วยความชราภาพ จึงมรณภาพอย่างสงบในเวลา 05.30 น. วันที่ 10 มีนาคม 2563

สิริอายุ 104 ปี พรรษา 83 •

 

โฟกัสพระเครื่อง | โคมคำ

[email protected]