Inu-Oh (2)

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

Inu-Oh (2)

 

หนังการ์ตูนเพลง Inu-Oh นี้สร้างจากนวนิยายของฮิเดะโอะ ฟุรุคะวะ กำกับฯ โดยมาซาอากิ ยูอาสะ เล่าเรื่องของอินุโอะซึ่งมีตัวจริงอยู่แต่ที่มาที่ไปไม่ชัดเจนจึงเปิดช่องให้ตีความได้หลากหลาย

โทโมนะเป็นนักบวชพิณบิวะ เล่นดนตรีเล่าเรื่องการรบทางทะเลที่ดันโนะอูระ ที่ซึ่งกองทหารไฮเคพ่ายแพ้แก่กองทหารเกนจิ ซากศพนับพันจมใต้ท้องทะเล

อินุโอะเป็นคนผิดรูป ขากุดสองข้าง แขนซ้ายกุด แขนขวายาวเป็นเปรต ดวงตาสองดวงตั้งฉากกันและเรียงตัวในแนวตั้งฉากกับพื้น เขาใส่หน้ากากพิกลปิดบังใบหน้าพิการไว้ตลอดเวลา

โทโมนะเป็นใบ้ พ่อตายระหว่างหาสมบัติใต้ทะเลร่วมกับเขาครั้งยังเป็นเด็ก เมื่อเขาอยากเรียนพิณบิวะและเป็นนักบวช เขาต้องเปลี่ยนชื่อเป็นโทมิอิจิ นั่นทำให้วิญญาณของพ่อหาเขาไม่พบอีก

อินุโอะเป็นลูกชายคนที่สามของนักละครนามอุโฆษของเกียวโต พ่อของเขาขายวิญญาณให้แก่หน้ากากปีศาจตาโบ๋เพื่อจะเป็นสุดยอดของนักละคร

อินุโอะอยู่ร่วมกับหมาใต้ถุนบ้าน ยามกินเหมือนหมายามวิ่งเหมือนลิง

วันหนึ่งอินุโอะแอบดูพี่ชายสองคนฝึกซ้อมละคร เขาวิ่งไปฝึกเต้นคนเดียวในป่า วิญญาณพันดวงของทหารไฮเคในสงครามวนรอบขาทั้งสองของเขาแล้วขาทั้งสองก็ยืดออก อินุโอะดีใจเป็นที่สุด

ชะตาพาเขาพบโทมิอิจิผู้เล่นเพลงพิณขับขานเรื่องการรบครั้งนั้น โทมิอิจิทราบว่ายังมีบางเรื่องที่ไม่ได้เล่า เป็นเรื่องของทหารไฮเคที่ล้มตาย วิญญาณแต่ละดวงมีเรื่องเล่าของตน

โทมิอิจิกับอินุโอะจึงร่วมมือกันเล่าเรื่องเหล่านั้น อีกทั้งเป็นโอกาสที่โทมิอิจิจะได้ไขความลับสมบัติใต้ทะเลซึ่งเป็นเหตุให้พ่อตายอนาถตั้งแต่เขายังเล็กด้วย

หนังใช้อะนิเมชั่นและละครโนะประกอบเสียงพิณเล่าเรื่องทั้งหมดจนถึงตรงนี้คือประมาณครึ่งเรื่อง

ถัดจากนี้ไปจะเป็นความสนุกเร้าใจของจริง หนังเข้าชิงลูกโลกทองคำกับ Guillermo del Toro’s Pinocchio ได้รับคำชื่นชมล้นหลาม

หนังมันมาก ครึ่งหลังของหนังเป็นเพลงป๊อป/ร็อกขนาดยาว 3 ท่อนเล่าเรื่องที่ยังไม่ได้เล่านั้น

ท่อนแรกเป็นการเล่าเรื่องการเริ่มต้นของวงดนตรีแนวใหม่ในเกียวโต ดนตรีป๊อปเปิดหมวกเร้าใจด้วยเสียงพิณและท่าเต้นแบบร็อกสตาร์เอาชนะละครโนะราบคาบไม่ยากเย็น

ชาวบ้านเลิกดูละครกลางแจ้งแบบเดิมมารอคอยการแสดงสดที่กลางสะพาน

เสียงปรบมือและชูป้ายไฟกรี๊ดสนั่น

นั่งดูหนังช่วงนี้เพลินมากที่สุด อิ่มเอมใจเมื่อจบเพลง เมื่อหนังจบก็ต้องกรอมาดูซ้ำสองและซ้ำสาม

ทุกครั้งที่อินุโอะเล่น แขนขาของเขาค่อยๆ ยืดออก โทมิอิจิจำต้องลาออกจากนักบวชเพราะเล่นเพลงล้ำหน้าที่รับไม่ได้ เมื่อลาออกจึงต้องเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเพื่อแสดงตัวตนใหม่ในโลกใหม่

ท่อนสอง อินุโอะและโทมิอิจิเปิดการแสดงประกอบฉากใหญ่อลังการกลางแจ้งในยามค่ำคืนพร้อมสเปเชียลเอฟเฟ็กต์จากกองไฟและลูกไฟตระการตา

ดนตรีเร้าใจกว่าเดิม ไพเราะสุดๆ ไม่นับเนื้อเพลงที่น่าค้นหาอย่างยิ่ง

โลมาพันตัวรอการมาถึงของวาฬยักษ์แต่วาฬยักษ์ไม่มาตามนัด คนดูบนสนามจะได้เห็นการเคลื่อนที่ของวาฬและโลมาด้วยเบิร์ดอายวิวโดยมีอินุโอะวิ่งขึ้นฟ้าบนผืนผ้าใบอย่างน่ามหัศจรรย์

ผู้กำกับฯ ยูอาสะจะบรรยายวิธีสร้างฉากนี้ในสเปเชียลฟีเจอร์สามสิบนาทีหากดูด้วยแผ่นบลูเรย์ เป็นหนึ่งในสเปเชียลเอฟเฟ็กต์ที่น่าดูและให้ความรู้มากกว่าการให้หลายๆ คนมานั่งบรรยายความในใจ

ความมีชื่อเสียงของอินุโอะและโทโมนะไปถึงหูของโชกุน ความเถื่อนของดนตรีและการแสดงละครเรื่องนี้เป็นที่ยอมรับมิได้ เพื่อจะได้จัดการให้สิ้นในครั้งเดียวการเล่นครั้งที่สามจึงจัดขึ้นในวัง ด้วยความร่วมมือของบิดาอำมหิตของอินุโอะเอง

ไม่นับว่าอินุโอะซึ่งบัดนี้แขนขาดีแล้วประกาศจะถอดหน้ากากในครั้งนี้ด้วย

เรื่องเล่าเรื่องสุดท้ายไม่เพียงเกี่ยวพันกับการรบ แต่เปิดเผยความลับของวังมังกรที่เก็บงำไว้ คือน่านน้ำที่พ่อของโทโมนะถูกชักนำไปตายตั้งแต่ต้นเรื่อง บทละครงดงาม ท่าเต้นสวยงาม และเพลงเพราะอีกเช่นเดิม

จะว่าไปเนื้อเรื่องทั้งหมดออกจะซับซ้อนเกินกำลังคนนอกญี่ปุ่น

ผู้กำกับฯ ยูอาสะได้รับเชิญเดินสายอธิบายรายละเอียดของเรื่องราวหลังการฉายในหลายประเทศ

อย่างไรก็ตาม ลำพังบทเพลงและดนตรีในครึ่งเรื่องหลังนี้ก็ทำให้นี่เป็นอะนิเมชั่นที่พลาดไม่ได้อยู่แล้วแม้จะดุไม่เข้าใจทั้งหมดในรอบที่หนึ่ง ผู้กำกับฯ ให้สัมภาษณ์ว่าดนตรีและท่าเต้นที่เห็นในหนังได้แรงบันดาลใจจากร็อกสตาร์หลายคน

อาวูจังซึ่งเป็นนักร้องนำของวง Queen Bee รับบทเป็นอินุโอ และนักแสดงมิไร โมะริยะมะสำหรับบทโทโมะนะ

จุดจบของอินุโอะและโทโมนะจะเป็นอย่างไร โปรดติดตาม

“ตัวละครหลักของอินุโอะ เป็นนักแสดงละครโนะที่แสดงละครโนะแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ในปัจจุบันเรามองว่าศิลปะการแสดงดั้งเดิมเป็นสิ่งที่สง่างาม แต่ในอดีตกาลมันเป็นความบันเทิงทั่วไปที่ชนส่วนใหญ่เข้าถึงได้ ผมต้องการที่จะแสดงให้ผู้ชมเห็นถึงสิ่งที่คนสมัยนั้นเขาสนใจจริงๆ ในรูปแบบที่คาดไม่ถึง”

“สมมุติว่าคุณเห็นคนเล่นกีตาร์บนหลังของเขา หลายคนอาจคิดว่าเขากำลังเลียนแบบจิมมี่ เฮนดริกซ์ แต่จริงๆ แล้วมีภาพที่เกิดขึ้นจริงของคนที่ทำสิ่งเดียวกันก่อนที่จิมมี่ เฮนดริกซ์ จะทำเสียอีก แม้แต่หลายพันปีก่อนในจีนก็มีภาพวาดของคนที่กำลังเล่นบิวะจากข้างหลัง”

เป็นบทสัมภาษณ์ของยูอาสะ คัดจากเว็บไซต์ JFF Bringing Japanese Film to You

มีอีกสองเรื่องที่ควรเพิ่มเติม หนังเรื่องนี้ออกฉายในช่วงโควิด นั่นทำให้ผู้ดูไม่สามารถปรบมือหรือเปล่งเสียงระหว่างดูได้ อันนี้เป็นที่น่าเสียดายจริงๆ

ปิดท้ายด้วยการเล่นตลกกับอัตลักษณ์ของอินุโอะ จะเห็นว่ากว่าหนังจะจบ อินุโอะซึ่งมีเอกลักษณ์ของตนเองที่ร่างกายประหลาด

ปรากฏว่าดนตรีประหลาดที่เขาเล่นนั้นเองที่ทำให้อัตลักษณ์ทางร่างกายของเขาหายไปเมื่อเปิดหน้ากากในตอนสุดท้าย •

 

 

การ์ตูนที่รัก | นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์