ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 27 พฤศจิกายน - 3 ธันวาคม 2563 |
---|---|
คอลัมน์ | จดหมาย |
เผยแพร่ |
จดหมาย
0 เด็ก
พุทธศักราช 2563
เด็กวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า
วุฒิภาวะวัฒนะรุ่งเรือง
จุดพลุสมัยศิวิไลซ์ปราดเปรื่อง
รังสรรค์บ้านเมืองประชาธิปไตย
…ผู้ใหญ่วันนี้ต้องไปในวันหน้า
ต่างกรรมต่างวาระคณะนายกฯ
ยิ่งยื้อ(ยุทธ์)ฉุดลาก “กรรมมรดก”
ยิ่งตกนรกทั้งเป็นเซ่น “รัฐสภา”…
สงกรานต์ บ้านป่าอักษร
ไม่ได้ฉุดลากธรรมดาด้วยสิ “สงกรานต์ บ้านป่าอักษร” เอ้ย
ผู้ใหญ่ท่าน
ยังเล็งจะใช้กฎหมายทุกฉบับทุกมาตรา
ฉุด-ล่ามเด็กๆ เอาไว้
แบบไม่ให้กระดิกกระเดี้ยไปไหนได้เลยเชียวละ
0 ผู้ใหญ่ (จน-จน)
มีบางคนหลงคิดไปว่าคนจนไม่ได้เสียภาษี
อันนี้เป็นความเข้าใจผิดอย่างร้ายแรง
แม้แต่นายกฯ ก็ยังเคยบอกว่า
“..ภาษีมาจากไหน ภาษีรายได้บุคคลธรรมดาสุทธิ 3.158 แสนล้านบาท ได้มาแค่ 11% มีคนเสียจริงๆ แค่ 4 ล้านคนที่อยู่ในเกณฑ์เสียภาษีบุคคล กรมศุลกากรได้มา 1 แสนล้านบาท กรมสรรพสามิตได้มา 6 แสนล้านบาท รายได้อื่นๆ มูลค่าเพิ่ม ทั้งหมดนี่อะไรที่เป็นของคนจนเราไม่ได้ภาษีหรอกครับ เราได้เขาเพียงอย่างเดียว ภาษี VAT (ภาษีมูลค่าเพิ่ม) 7% ซึ่งถ้าเขาซื้อของเขาถึงเสีย ด้านการเกษตร เรื่องน้ำเรื่องต่างๆ ไม่มีการเสียภาษีสำหรับเกษตรกร ท่านต้องดูรายได้ประเทศมาอย่างนี้…”
ที่คิดว่าภาษีส่วนใหญ่มาจากบริษัทห้างร้านหรือประชาชนผู้เสียภาษีทางตรงนั้น
เป็นความเข้าใจผิด
จากยอดรายได้ของประเทศไทยทั้งหมดประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562
ภาษีนิติบุคคลเก็บได้เพียง 25% ของภาษีทั้งหมด (หลังจากหลบเลี่ยงภาษีตามช่องทางถูกกฎหมายแต่ผิดคุณธรรมไปได้มากมาย)
ส่วนภาษีบุคคลธรรมดามีเพียง 12% เท่านั้น (พวกนี้เลี่ยงภาษีได้ยาก)
รายได้อันดับหนึ่งของประเทศมาจากภาษีทางอ้อม อีก 61%
โดยเฉพาะภาษีมูลค่าเพิ่มซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 30%
ภาษีที่ได้ส่วนมากมาจากบริษัทห้างร้านที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงเทพมหานคร
ทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติของไทยอยู่ในกรุงเทพมหานครถึงเกือบครึ่งหนึ่ง
แต่ไม่ใช่ว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้เสียภาษี
คนไทยจำนวนมากเสียภาษีทางอ้อม
เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีปิโตรเลียม ภาษีสรรพสามิต ฯลฯ
ดังนั้น ประชาชนส่วนใหญ่ทั่วประเทศซึ่งไม่ใช่คนร่ำรวยแต่เป็นคนธรรมดาจำนวนหลายสิบล้านคน
จึงเสียภาษีมากกว่าบุคคลธรรมดาที่ร่ำรวย
อันที่จริงนิติบุคคลต่างๆ (ยกเว้นบริษัทมหาชนซึ่งมีไม่กี่ร้อยแห่ง) มักเลี่ยงภาษีในรูปแบบต่างๆ
หรือเสียภาษีให้น้อยที่สุด
แม้แต่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง แท็กซี่ ยังอาจเสียภาษีมากกว่าคนรวย
เพราะพวกเขาต้องเสียภาษีล้อเลื่อน (จักรยานยนต์ รถยนต์รายปี)
ส่วนคนร่ำรวยมีที่ดินอยู่จำนวนมหาศาล มูลค่านับร้อย นับพัน นับหมื่นล้านบาท ก็แทบไม่เคยเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างหรือภาษีมรดกอะไรเลย
สาเหตุที่มีการดราม่ายกเว้นภาษีแก่คนจน ก็เพื่อจะได้ยกเว้นแก่คนรวยๆ ด้วยนั่นเอง
ยกเว้นไปๆ มาๆ ก็เลยไม่ได้เก็บภาษี ก็เลยคิดแต่จะขึ้นภาษี VAT เป็น 8%
เพราะภาษีนี้คนทุกคนโดนหมด โดยเฉพาะคนจนๆ อยู่ในป่าเขาออกมาซื้อมาม่าซองหนึ่งก็โดนแล้ว
เมื่อพิเคราะห์ถึงการเสียภาษีของประชาชนทั่วไป จึงเกิดคำถามว่าใครกันแน่ที่เสียสละเพื่อชาติ
ประเทศนี้เป็นของประชาชนผู้เสียภาษีหล่อเลี้ยงประเทศผ่านภาษีทางอ้อมที่ประชาชนเป็นผู้รับกรรมคนสุดท้าย
ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
www.area.co.th
ด้วยความเหลื่อมล้ำเช่นนี้เอง
ทำให้ม็อบราษฎรมีประเด็นเคลื่อนไหว
ได้อย่างมีน้ำหนัก
อยากจะสลายม็อบ คงต้องกลับไปแก้ที่เบื้องหลังและต้นตอ
อย่างเรื่องภาษีอันไม่เป็นธรรมนี้
มิใช่มุ่งแต่มองหาหรือสงสัยใครอยู่เบื้องหลัง