“อนุทิน” แนะฝ่ายกม.ตีความการประชุมคกก.วัตถุอันตราย 27พ.ย. ชี้ไม่อยากโทษใคร

จากกรณีที่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย แถลงผลการลงมติในที่ประชุมเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ระบุว่าที่ประชุมเป็นเอกฉันท์ในการเลื่อนแบนสารเคมีกำจัดศัตรูพืช 2 สาร และจำกัดการใช้ 1 สาร  ซึ่งต่อมา นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) และ รศ.ภญ.จิราพร ลิ้มปานานนท์ อาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้ข้อมูลโต้แย้งว่า ไม่ได้เห็นด้วยกับมติดังกล่าว และที่ประชุมไม่ได้ยกมือลงมติใดๆนั้น

เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ สธ. ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้ไม่อยากให้โทษใคร และได้ถามนายสุริยะแล้ว ได้คำตอบว่า นายสุริยะเข้าใจว่าการที่ตนกล่าวในที่ประชุมแล้ว แต่ไม่มีคณะกรรมการท่านใดโต้แย้งนั้น ก็น่าจะเป็นมติได้

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ซึ่งหากมองในความเป็นจริงแล้ว กรณีนี้ไม่สามารถทำได้ และได้อธิบายกับนายสุริยะไปแล้วว่า จะต้องมีการเปิดลงมติเพื่อความชัดเจน ไม่ต้องเกรงใจคณะกรรมการ

“ท่านสุริยะก็เกรงใจ ท่านก็พูดในสิ่งที่ท่านอยากให้มันเป็นไป แล้วก็ไม่มีคนเถียง และคนที่ไม่เถียงก็อาจจะคิดว่าระดับรัฐมนตรีเป็นประธานอยู่ ก็ไม่เถียง ก็เลยไม่พูดอะไร ก็เลยต่างคนต่างเข้าใจผิด ก็ไม่เป็นไรหรอก พอถึงเวลาจริงๆ ก็อาจมีการโหวตอย่างชัดเจน ก็ใจเย็นๆ” นายอนุทิน กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงผลของมติในที่ประชุมวันที่ 27 พฤศจิกายน นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องไปตีความ เนื่องจากมีคณะกรรมการ 1 คน ที่ลาออก คือ รศ.ภญ.จิราพร พร้อมระบุว่าไม่มีมติ กรณีนี้หากตนเป็นเลขานุการคณะกรรมการฯ คงจะต้องทำบันทึกเรียนประธานในที่ประชุมว่า จะต้องตีความอย่างไร เนื่องจากหากมีการตีความว่า ไม่มีมตินั้น ก็จะต้องยึดมติในที่ประชุมของวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา ดังนั้นจึงต้องว่ากันตามกฎหมาย ซึ่งทุกฝ่ายก็มีฝ่ายกฎหมายอยู่แล้ว ซึ่งอำนาจการตีความก็คงขึ้นอยู่กับประธานในที่ประชุม

เมื่อถามว่า สธ.จะต้องยื่นหนังสือส่งเรื่องอย่างเป็นทางการ หรือจะต้องรอเลขานุการในที่ประชุมทำเรื่องโต้แย้งกับประธานในที่ประชุมเอง นายอนุทิน กล่าวว่า จะต้องดูรายละเอียดจากบันทึกการประชุม

“เราจะทำอะไร อย่าไปหักหน้ากัน แต่ละคนสามารถมีความเข้าใจอะไรที่ต่างกัน แต่ก็เป็นการทำงานร่วมกัน” นายอนุทิน กล่าว