ฮือฮา! ฝ่ายค้านนอร์เวย์ชูเลิกหนุนขุดเจาะสำรวจน้ำมันแถบอาร์กติก อุตฯพลังงานถึงกับสะเทือน

เมื่อวานนี้ (9 เมษายน 2562) สำนักข่าวอินดีเพนเด้นต์ของอังกฤษรายงานว่า พรรคแรงงานซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านเสียงข้างมากในรัฐสภานอร์เวย์ ได้สร้างความตกตะลึงต่ออุตสาหกรรมหลักของประเทศอย่างพลังงานน้ำมัน ด้วยการประกาศถอนการสนับสนุนขุดเจาะสำรวจแหล่งน้ำมันบริเวณหมู่เกาะโลโฟเทน ในแถบอาร์กติก ซึ่งยกให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่สวยงาม

การเคลื่อนไหวของพรรคฝ่ายค้านที่กุมเสียงข้างมากในสภาครั้งนี้ สะท้อนการเติบโตของกระแสคัดค้านการใช้พลังงานฟอสซิล ซึ่งเปรียบเป็นเส้นเลือดหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจให้นอร์เวย์เป็นประเทศร่ำรวยที่สุดในโลก โดยนอร์เวย์ผลิตน้ำมันจากแหล่งนอกชายฝั่งมากกว่า 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ด้านบริษัทอิควินัว เอเอสเอ บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ภายใต้การกำกับของรัฐบาลกล่าวว่า การเข้าถึงแหล่งน้ำมันในหมู่เกาะโลโฟเทนเป็นสิ่งจำเป็นมากในการรักษาระดับการผลิตของประเทศ โดยคาดการณ์ว่าแหล่งน้ำมันใต้หมู่เกาะแห่งนี้มีปริมาณสำรองราว 1- 3 พันล้านบาร์เรล แต่พื้นที่ดังกล่าวถูกจำกัดไว้มาหลายปีจากข้อตกลงทางการเมืองของพรรคร่วมรัฐบาล

ส่วนนายคาร์ล อีริค ปีเตอร์เซ็น ประธานสมาคมน้ำมันและก๊าซนอร์เวย์ให้สัมภาษณ์กลับบลูมเบิร์กว่า ทั้งอุตสาหกรรมถึงกับแปลกใจและผิดหวังต่อท่าทีดังกล่าวเพราะไม่ได้ให้การคาดการณ์ถึงสิ่งที่เราต้องพึ่งพาอยู่

ขณะที่นายโจนาส การ์ สโตร์ แกนนำพรรคฝ่ายค้าน เปิดเผยว่าได้เกิดความแตกแยกในพรรคที่ใช้ความเป็นผู้นำพยายามสะท้อนถึงความกังวลต่อสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็มุ่งสนับสนุนสหภาพแรงงานในอุตสาหกรรมน้ำมัน ซึ่งเป็นฐานเสียงหลักของพรรคแรงงาน

นายสโตร์ยังกล่าวด้วยว่า พรรคของเขายังคงสนับสนุนอุตสาหกรรมน้ำมันต่อไป แต่ก็อยากให้บริษัทน้ำมันในประเทศแน่วแน่ในการกำหนดเส้นตายที่จะปลอดการปล่อยมลพิษในทุกแหล่ง

นอกจากนี้ อินตัสดรี้ เอนเนอร์จี้ สหภาพพลังงานที่ใหญ่ที่สุดของนอร์เวย์ก็ได้ออกมาโจมตีจุดยืนล่าสุดของพรรคแรงงานต่อกรณีแหล่งน้ำมันโลโฟเท่น หลังข้อตกลงเกิดขึ้นเมื่อราว 2 ปีก่อน จากการหารือประนีประนอมกันภายในพรรค

ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของพรรคฝ่ายค้านในการประกาศไม่สนับสนุนการสำรวจเกิดขึ้นไม่กี่วันก่อนเมื่อรัฐบาลนอร์เวย์ ได้มอบเงินจากกองทุนน้ำมัน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯไปลงทุนโครงการพลังงานสะอาดที่ยังไม่เข้าบัญชีตลาดหลักทรัพย์ โดยคาดว่าเงินจำนวนนี้จะใช้ลงทุนกับโครงการพลังงานลมและแสงอาทิตย์ ซึ่งสิ่งนี้เป็นตัวชี้วัดว่าความมั่งคั่งจากพลังงานฟอสซิลกำลังนำไปลงทุนกับพลังงานสะอาดในอนาคต และอุตสาหกรรมและประเทศหลายแห่งเริ่มถอนการลงทุนพลังงานฟอสซิลแล้ว โดยอ้างอิงถึงความเสี่ยงด้านธุรกิจและรูปแบบเศรษฐกิจในอนาคต

อีกทั้งเมื่อเดือนที่แล้ว กองทุนพลังงานของนอร์เวย์ได้ออกมากล่าวว่า จะไม่ลงทุนการขุดเจาะสำรวจน้ำมันและก๊าซกับบริษัท 134 แห่ง แต่ยังคงสัดส่วนลงทุนกับบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานอย่างบีพีและเชลล์ ซึ่งมีหน่วยงานวิจัยด้านพลังงานสะอาด