‘ธนาธร’ บุก ม.สวนดุสิต-สวนสุนันทา น.ศ.แห่เซลฟี่จนต้องจัดคิว ขอแปรเสียงออนไลน์เข้าคูหา

“ธนาธร” บุก ม.สวนดุสิต-สวนสุนันทา น.ศ.รุมกรี๊ด ต้องจัดคิวเซลฟี่ ชวนชูสามนิ้ว ปลุกต้านเผด็จการ สานต่อ 2475 สร้างประชาธิปไตย เผยโค้งสุดท้ายโหมหนักลงพื้นที่ แปรเสียงออนไลน์เข้าคูหา

เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ ม.สวนดุสิต นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วยแกนนำพรรค และ น.ส.นพมาศ การุญ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พระนครป้อมปราบศัตรูพ่าย พรรคอนาคตใหม่ ลงพื้นที่พบปะนักศึกษาและประชาชนละแวกชุมชนสวนอ้อย โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก แม้อากาศจะร้อนอบอ้าว ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเหมือนทุกครั้ง มีนักศึกษามาหลายสิบคนมายืนรอรับล่วงหน้า ตะโกนฟ้ารักพ่อ นำน้ำมาให้ดื่ม และนำทิชชูมาเช็ดเหงื่อ พร้อมพูดคุยทักทายจำนวนมาก จนต้องจัดแถวต่อคิวเซลฟี่กับนายธนาธรนานนับชั่วโมง โดยมีรายหนึ่งขอให้ชู 2 นิ้ว แต่นายธนาธรทำท่าชู 3 นิ้ว อันหมายถึงสัญลักษณ์ต่อต้านเผด็จการ ซึ่งนักศึกษาทุกคนก็พร้อมใจกันทำตาม นอกจากนี้ ระหว่างการเดินพบปะประชาชนนักศึกษา พ่อค้าแม่ค้า วินมอเตอร์ไซค์ นายธนาธรยังได้แนะนำให้ร่วมกันศึกษานโยบายของอนาคตใหม่ก่อนตัดสินใจไปเลือกตั้งด้วย

จากนั้น นายธนาธรได้ชวนนักศึกษาล้อมวง ก่อนกล่าวผ่านเครื่องขยายเสียงขนาดเล็ก รณรงค์ปลุกใจให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม ใจความว่า อีกไม่กี่วันจะถึงวันเลือกตั้งแล้ว น้องนิสิตนักศึกษาทุกคนถือเป็นคนรุ่นใหม่ อายุระหว่าง 18-25 ปี ที่เกิดมาโดยไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง แต่โตขึ้นมาก็ต้องมาพบกับความขัดแย้งที่เราไม่ได้เกี่ยวข้อง ซึ่งคนขัดแย้งทิ้งมรดกบาปไว้ให้ โดยความขัดแย้งทางการเมือง ส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจไม่มีความสามารถในการแข่งขัน การเจริญเติบโตถดถอยกว่าประเทศเพื่อนบ้าน แล้วเราเรียนจบออกมาจะทำงานอะไร คนที่รับความซวยคือพวกเราที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง คนที่ต้องกำหนดอนาคต 20 ปี พวกเราต้องเป็นคนกำหนดเอง อย่ายอมให้ที่คนยึดอำนาจเข้ามา กำหนดอนาคตให้เรา

“ต้องใช้การเลือกตั้งให้เป็นประโยชน์ เพื่อส่งเสียงคนรุ่นใหม่ให้ดังว่า เราพร้อมแล้ว คนอายุระหว่าง 18-25 ปี มี 8 ล้านเสียง คิดเป็น 1 ใน 8 ของจำนวน ส.ส.ในสภา หรือ 62 ส.ส. ถือว่า มีความหมายมาก อย่าไปเชื่อว่าไม่มีความเหมาย เสียงของเราเปลี่ยนประเทศไทยได้ อนาคตใหม่มุ่งมั่นที่จะเอาสิทธิ เสรีภาพ และความเป็นธรรมกลับคืนมาให้สังคมไทย ใครฝันเหมือนกันให้มาร่วมลองทำกันให้ได้สักครั้ง สร้างสังคมที่เท่าเทียมเกิดให้เกิดขึ้นจริงในสังคมไทย มาร่วมกันทำภารกิจเมื่อ พ.ศ.2475 เพื่อให้ประชาธิปไตยยั่งยืนกัน ซึ่ง 86 ปี ยังทำไม่สำเร็จ ให้สำเร็จกันสักครั้ง” นายธนาธรกล่าว

ต่อมาเวลา 13.00 น. นายธนาธรให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางการหาเสียงช่วงสุดท้ายว่า ตอนนี้ตนคิวแน่นมาก ตารางลงพื้นที่หาเสียงแน่นแล้วจนถึงวันที่ 10 มีนาคม ซึ่งตนและทีมงานอยู่ระหว่างการออกแบบกิจกรรมช่วงสุดท้ายระหว่างวันที่ 11-22 มีนาคมนี้อยู่ ซึ่งจะเน้นการลงพื้นที่อย่างหนัก แบ่งเวลาออกสื่อ พบปะประชาชน เพราะการจับมือ หรือสบตา ที่สื่อถึงความจริงใจ จะช่วยแปรคะแนนเสียงในออนไลน์ ให้เป็นคะแนนเสียงในวันเลือกตั้งได้ ซึ่งไม่กังวลต่อคดีในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ทุกคนในพรรคทดแทนกันได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นความเป็นพรรคอนาคตใหม่จะดำรงอยู่ต่อไป ส่วนกระแสตอบรับจากคนรุ่นใหม่เป็นอย่างดีนั้น ตนขอขอบคุณทุกคนมาก แต่ยืนยันว่า อนาคตใหม่ให้ความสนใจกลุ่มคนทุกช่วงวัย เราลงพื้นที่ต่างจังหวัดตามตลาดนัด ก็มีทั้งวัยทำงานและสูงอายุ แน่นอนเราสนใจคนรุ่นใหม่มากก็เพราะคนกลุ่มนี้พร้อมเปิดกว้างรับแนวความคิดที่ก้าวหน้าได้

เมื่อถามถึงการชี้แจงจากกองทัพว่า งบประมาณได้รับมาจากฝ่ายการเมืองไม่เกี่ยวกับทหาร นายธนาธรกล่าวว่า นี่จึงเป็นภาระของรัฐบาลพลเรือนในอนาคต กระแสการปฏิรูปกองทัพที่ทุกพรรคการเมืองพูดถึงในตอนนี้ แสดงให้เห็นว่า ทุกอย่างมีความเป็นไปได้ ก่อนหน้า 2-3 เดือนทุกคนต่างบอกว่าเป็นเรื่องเพ้อฝันทำไม่ได้หรอก แต่ตอนนี้กลายเป็นวาระหลักของสังคม แต่เมื่อเราร่วมกันผลักดันรณรงค์อย่างต่อเนื่อง ทุกอย่างก็เป็นไปได้ นี่คือสิ่งที่อนาคตใหม่ต้องการ

มติชนออนไลน์