ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 8 - 14 ตุลาคม 2564 |
---|---|
คอลัมน์ | สุจิตต์ วงษ์เทศ |
เผยแพร่ |
ลำเชียงไกร จ.นครราชสีมา
ถิ่นฐานบรรพชนคนลุ่มน้ำมูล
น้ำทะลักจากอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) หลากท่วมชุมชนและไร่นาจำนวนมากทั่วลุ่มน้ำลำเชียงไกร อยู่ทางทิศตะวันตกของ จ.นครราชสีมา (ต่อเนื่องถึง จ.ชัยภูมิ) เป็นบริเวณถิ่นฐานบรรพชนต้นตอบ้านเมืองตอนต้นแม่น้ำมูล ที่ต่อไปข้างหน้าจะเติบโตเป็นเมืองเสมา (อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา) เมืองพิมาย (อ.พิมาย จ.นครราชสีมา) และในที่สุดเป็นเมืองนครราชสีมา
ลำเชียงไกร หรือลำเชิงไกร ชื่อลำน้ำสายหนึ่ง ยาว 140 กิโลเมตร เป็นสาขาของแม่น้ำมูล จ.นครราชสีมา
1. มีแหล่งวัฒนธรรมเป็นชุมชนดั้งเดิมอายุเก่าแก่ ราว 3,000 ปีมาแล้ว อยู่ต่อเนื่องไม่ขาดสายสืบจนปัจจุบัน
2. ชุมชนเก่าแก่ดั้งเดิมตลอดสายของลำเชียงไกร เป็นแหล่งบรรพชนเมืองพิมายและเมืองนครราชสีมา
3. ทั้งหมดเป็นบรรพชนคนไทยทุกวันนี้
ลำเชียงไกรเป็นชื่อที่กลายจากคำเดิมว่าลำเชิงไกร [ทำนองเดียวกับชื่อ “เชียงราก” (จ.ปทุมธานี) กลายจากคำเดิมว่า “เชิงราก” แปลว่า ตีนท่า หรือชายเลน] คำว่า เชิง เป็นภาษาเขมร แปลว่า ตีน, ฐาน, ริม, ปลาย, ชาย เช่น วัดตีนท่า, วัดเชิงท่า, วัดเชิงเลน เป็นต้น ที่ว่าลำเชิงไกรเป็นชื่อเดิมเพราะพื้นที่แถบนี้แต่เดิมเป็นหลักแหล่งของคนพูดภาษาเขมรแล้วสมัยหลังเปลี่ยนเป็นพูดภาษาไทย
ลำเชียงไกร หรือลำเชิงไกร ต้นน้ำเกิดจากเขาคันตูม ใน อ.ด่านขุนทด (จ.นครราชสีมา) ไหลไปทางทิศตะวันออกลงแม่น้ำมูล ใน ต.ดอนชมพู อ.โนนสูง (ข้อมูลจากหนังสือ อักขรานุกรมภูมิศาสตร์ไทย เล่ม 1 ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พิมพ์ครั้งที่สี่ พ.ศ.2545 หน้า 118)
ลำเชียงไกรไหลคู่ขนานกับลำตะคองซึ่งมีต้นน้ำอยู่ทิวเขาใหญ่ อ.ปากช่อง (จ.นครราชสีมา) ไหลผ่าน อ.สีคิ้ว, อ.สูงเนิน, อ.ขามทะเลสอ, อ.เมืองฯ ลงน้ำมูลที่ท่าช้าง อ.เฉลิมพระเกียรติ
บริเวณลำเชียงไกรกับลำตะคองไหลลงแม่น้ำมูลมีปราสาทพนมวันเป็นศูนย์กลางชุมชนดั้งเดิม (เก่าแก่ก่อนปราสาทพิมาย)
ลำเชียงไกรคู่ขนานกับลำตะคอง เป็นถิ่นฐานบรรพชนคนลุ่มน้ำมูลที่มีทั้งคุณค่าทางประวัติศาสตร์-วัฒนธรรม และมูลค่าทางการท่องเที่ยว ดังนั้น เมื่อหลังน้ำลดหมดแล้วน่าจะสร้างสรรค์เป็นเส้นทางท่องเที่ยวชุมชนท้องถิ่นแบบบ้านๆ ลุยๆ
คุณค่าทางประวัติศาสตร์-วัฒนธรรมมีมหาศาล เป็นหลักฐานประวัติศาสตร์ท้องถิ่นโต้แย้งประวัติศาสตร์แห่งชาติ ปัญหาถ้าจะมีก็อยู่ที่รัฐราชการอนุรักษนิยมสุดโต่ง กับอาจารย์มหาวิทยาลัยประเภท “หมอผี” ไม่รับรู้ข้อมูลใหม่ในโลกไม่เหมือนเดิม และมีบางกลุ่มเคยทำผิดพลาดไว้ที่บ้านโนนวัด น่าจะร่วมกันคิดแก้ไขเพื่อประโยชน์ชุมชน