ทัพพาราสร้างความสุขคนไทย ‘สายสุนีย์’ ขึ้นแท่นตำนานนักดาบโลก

การแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ “ปารีส 2024” ปิดฉากลงไปพร้อมกับความสำเร็จของทัพนักกีฬาไทย ด้วยการคว้ามาได้ถึง 6 ทอง 11 เงิน 13 ทองแดง จบอันดับ 21 บนตารางเหรียญรวม

โดยเจ้าเหรียญทองในครั้งนี้ตกเป็นของ จีน 94 ทอง 76 เงิน 50 ทองแดง, อันดับ 2 สหราชอาณาจักร 49 ทอง 44 เงิน 31 ทองแดง, อันดับ 3 สหรัฐ 36 ทอง 42 เงิน 27 ทองแดง ขณะที่ “เจ้าภาพ” ฝรั่งเศส ได้ที่ 8 คว้าไป 19 ทอง 28 เงิน 28 ทองแดง

ขณะที่ในส่วนของทัพพาราไทย นับเป็นอันดับ 6 ของเอเชีย โดยเป็นรองจีน, ญี่ปุ่น (อันดับ 10) 14 ทอง 10 เงิน 17 ทองแดง, อุซเบกิสถาน (อันดับ 13) 10 ทอง 9 เงิน 7 ทองแดง, อิหร่าน (อันดับ 14) 8 ทอง 10 เงิน 7 ทองแดง และ อินเดีย (อันดับ 18) 7 ทอง 9 เงิน 13 ทองแดง

อย่างไรก็ตาม ผลงานนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ทัพนักกีฬาไทย ทำผลงานที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ที่เข้าร่วมการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์มาทั้งหมด 10 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 1984 โดยผลงานนี้ดีกว่าสถิติเดิมเมื่อ “รีโอ 2016” หรือ 8 ปีที่แล้ว ซึ่งทำเอาไว้ได้ 6 ทอง 6 เงิน 6 ทองแดง (ดีกว่าเพราะเหรียญเงินมากกว่าแม้จะเหรียญทองเท่ากัน)

 

นอกจากนี้ ถ้านับเฉพาะจำนวนเหรียญรวม ก็ต้องบอกว่า ปารีส 2024 ทัพนักกีฬาพาราลิมปิกของไทย เก็บไปได้ถึง 30 เหรียญ ทุบสถิติเก่าที่เคยทำไว้มากสุด 18 เหรียญใน “รีโอ 2016” และ “โตเกียว 2020” แบบไม่เห็นฝุ่น

ส่วนสถิติโดยรวมตอนนี้ ทัพนักกีฬาไทยคว้าเหรียญใน พาราลิมปิกเกมส์ ไปแล้ว 117 เหรียญ แบ่งเป็น 30 ทอง 40 เงิน และ 47 ทองแดง

ขณะเดียวกัน “แวว” สายสุนีย์ จ๊ะนะ นักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบไทยวัย 50 ปี ยังสร้างประวัติศาสตร์ให้โลกจารึกว่าเป็นนักกีฬาฟันดาบหญิงคนแรกของโลก ที่สามารถคว้า 3 เหรียญทอง จาก 3 ประเภทดาบได้ ทั้งเซเบอร์, ฟอยล์ และเอเป้ แถมยังช่วยน้องๆ คว้าเหรียญทองแดงทีมเอเป้ ได้อีกด้วย

ทำให้สายสุนีย์ขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ของนักกีฬาที่คว้าเหรียญทองตลอดกาลมากที่สุดให้กับทัพพารา โดยเก็บไปแล้ว 5 ทอง 1 เงิน 4 ทองแดง เป็นรองแค่ ประวัติ วะโฮรัมย์ 7 ทอง 8 เงิน 1 ทองแดง และ “กร” พงศกร แปยอ ที่ทำได้ 6 ทอง 4 เงิน 0 ทองแดง

 

บันทึกเหรียญรางวัลทัพไทย ในพาราลิมปิกเกมส์ 2024

6 เหรียญทอง : วีลแชร์เรซซิ่ง 400 เมตรชาย คลาส T53 พงศกร แปยอ, บอคเซีย บุคคล BC2, วรวุฒิ แสงอำภา, วีลแชร์เรซซิงชาย 100 เมตร คลาส T34 ชัยวัฒน์ รัตนะ, ฟันดาบ เซเบอร์ บุคคลหญิง คลาส B สายสุนีย์ จ๊ะนะ, ฟันดาบ ฟอยล์ บุคคลหญิง คลาส B สายสุนีย์ จ๊ะนะ, ฟันดาบ เอเป้ บุคคลหญิง คลาส B สายสุนีย์ จ๊ะนะ

11 เหรียญเงิน : เทเบิลเทนนิส คู่ผสม คลาส XD7 ยุทธจักร กลิ่นบานชื่น-วิจิตรา ใจอ่อน, เทเบิลเทนนิส ชายคู่ คลาส MD14 รุ่งโรจน์ ไทยนิยม-พิสิษฐ์ หวังผลพัฒนศิริ, วีลแชร์เรซซิ่ง 400 เมตรชาย คลาส T54 อธิวัฒน์ แพงเหนือ, แบดมินตันหญิงเดี่ยว คลาส WH1 “ปุ๊” สุจิรัตน์ ปุกคำ, วีลแชร์ เรซซิ่ง 100 เมตร T54 อธิวัฒน์ แพงเหนือ, วีลแชร์เรซซิ่ง 100 เมตร T53 พงศกร แปยอ, วีลแชร์เรซซิ่ง 800 เมตรชาย T53 พงศกร แปยอ, เทเบิลเทนนิส ชายเดี่ยว คลาส MS6 รุ่งโรจน์ ไทยนิยม, ฟันดาบ เอเป้ บุคคลชาย คลาส B วิสิทธิ์ กิ่งมะนาว, วีลแชร์เรซซิ่งชาย 800 เมตร คลาส T34 “บีม” ชัยวัฒน์ รัตนะ, เทเบิลเทนนิส ชายเดี่ยว คลาส MS4 “ขวด” วันชัย ชัยวุฒิ

 13 เหรียญทองแดง : เทควันโด 47 ก.ก.หญิง คลาส K44 ขวัญสุดา พวงกิจจา, เทเบิลเทนนิส หญิงคู่ คลาส WD5 ดารารัตน์ อาสายุทธ์-ชิลชิตพยัค บุตรวรรณสิริณา, เทเบิลเทนนิส ชายคู่ คลาส MD8 วันชัย ชัยวุฒิ-ยุทธจักร กลิ่นบานชื่น, แบดมินตัน หญิงคู่ WH1-WH2 สุจิรัตน์ ปุกคำ-อำนวย เวชวิฐาน, บอคเซีย บุคคล BC2 วัชรพล วงษา, แบดมินตัน ชายเดี่ยว SL3 “วี” มงคล บุญสุน, เทเบิลเทนนิส ชายเดี่ยว MS3 ยุทธจักร กลิ่นบานชื่น, บอคเซีย ทีมผสม คลาส BC4 พรโชค ลาภเย็น-นวลจันทร์ พลศิลา, ยกน้ำหนัก รุ่น 55 ก.ก.หญิง กมลพรรณ กระราชเพชร, เทเบิลเทนนิส ชายเดี่ยว คลาส MS8 พิสิษฐ์ หวังผลพัฒนศิริ, เทเบิลเทนนิส ชายเดี่ยว คลาส MS7 เฉลิมพงษ์ พันภู่, ฟันดาบ เอเป้ ทีมหญิง สายสุนีย์ จ๊ะนะ-เดือน นาคประสิทธิ์-อภิญญา ทองแดง

วิ่ง 200 เมตร หญิง คลาส T47 ศศิราวรรณ อินทโชติ

 

สําหรับเกณฑ์เงินรางวัลนักกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ จาก กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ มี 2 แบบ ให้นักกีฬาเลือก คือ

แบบแรก แบ่งจ่ายทันที 50% ส่วนอีก 50% จ่ายเป็นเงินเดือน ภายใน 4 ปี นักกีฬาได้เป็นรายบุคคล อัตรา เหรียญทอง 7.2 ล้านบาท, เหรียญเงิน 4.8 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 3 ล้านบาท

กับแบบจ่ายครั้งเดียว เหรียญทอง 6 ล้านบาท, เหรียญเงิน 4 ล้านบาท, เหรียญทองแดง 2.5 ล้านบาท

ซึ่งจากผลงานทัพพาราไทยครั้งนี้ ทำให้จะได้รับเงินรางวัลรวมทั้งหมด 162,600,000 บาท โดยเหรียญทอง 6 เหรียญ รับเงินรางวัลรวมเป็นเงิน 43,200,000 บาท ขณะที่เหรียญเงิน 11 เหรียญ รับเงินรางวัลรวมเป็นเงิน 62,400,000 บาท และเหรียญทองแดง 13 เหรียญ รับเงินรางวัลรวมเป็นเงิน 57,000,000 บาท

ซึ่งนักกีฬาไทยที่รับเงินรางวัลมากที่สุดคือ “แวว” สายสุนีย์ จ๊ะนะ นักกีฬาวีลแชร์ฟันดาบกับผลงาน 3 เหรียญทองจากเซเบอร์, ฟอยล์, เอเป้ และ 1 เหรียญทองแดงจากเอเป้ ทีมหญิง รวมรับเงินรางวัลทั้งสิ้น 24.6 ล้านบาท

 

“บิ๊กต่อย” ร.ท.ณัยณพ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในพาราลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ทัพไทยผลงานดีมากๆ ทั้งหน้าใหม่-หน้าเก่า รู้สึกภาคภูมิใจกับนักกีฬาหลายคนเพราะบางเหรียญก็มาแบบเซอร์ไพรส์ บางเหรียญก็คาดหวังเอาไว้แล้ว

“อย่าง บีม ชัยวัฒน์ รัตนะ ในวีลแชร์เรซซิ่ง คลาส T34 รอบนี้ได้เหรียญทอง 100 เมตรพร้อมทำลายสถิติพาราลิมปิกเกมส์ (14.76 วินาที) แล้วได้เหรียญเงิน 800 เมตรด้วย”

“ขณะที่ยกน้ำหนักหญิง แบม กมลพรรณ กระราชเพชร รุ่น 55 ก.ก. หวังว่าจะได้เหรียญทองแดง ก็สามารถทำได้สำเร็จ”

“ส่วน สายสุนีย์ จ๊ะนะ ทำผลงานดีมาก เป็นนักกีฬาที่อยู่กับทัพไทยหลายปีแล้ว ประสบความสำเร็จต่อเนื่อง มาหนนี้ทำสำเร็จใน 2 ประเภทที่ไม่ถนัด ได้ไป 3 ทองบุคคล และ 1 ทองแดงประเภททีม ต้องขอชื่นชม รวมทั้งนักกีฬาไทยทุกคนในครั้งนี้ ที่มุ่งมั่นอย่างเต็มที่”

“ขอขอบคุณพี่น้องคนไทยที่เป็นแรงใจเชียร์นักกีฬาไทย ตอนนี้ทัพนักกีฬาไทยทำผลงานให้พี่น้องประชาชนภาคภูมิใจ นำเหรียญกลับไปให้คนไทยทุกคน”

แน่นอนว่าจากการที่ประสบความสำเร็จในครั้งนี้ ก็คงจะเป็นโจทย์ใหญ่ในครั้งต่อไป ที่ ลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐ วันที่ 15-27 สิงหาคม ค.ศ.2028 ที่จะต้องปั้นนักกีฬาหน้าใหม่ขึ้นมา และสานต่อผลงานที่ยอดเยี่ยมให้ได้อีกครั้ง

แต่เหนือสิ่งอื่นใดต้องปรบมือให้กับนักกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ของไทยทุกคน ที่สร้างรอยยิ้มให้กับคนไทยได้อีกครั้ง •

 

เขย่าสนาม | Stivie Toon

[email protected]