บทสรุปควันหลงทัพไทย จากซีเกมส์พนมเปญสู่แบงค็อก

เป็นอันว่าทัพนักกีฬาไทยปิดฉากกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา ที่คว้ามาได้ 108 เหรียญทอง 96 เหรียญเงิน 108 เหรียญทองแดง จบอันดับ 2 รองจากเวียดนามที่ได้ไป 136 เหรียญทอง ทำให้ประเทศไทยไม่สามารถครองเจ้าเหรียญทองกีฬาซีเกมส์ 4 สมัยติดต่อกัน

อย่างไรก็ตาม เมื่อนับเหรียญรางวัลจากชนิดกีฬาสากลที่มีแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์และเอเชี่ยนเกมส์ ไทยยังคงเป็นเจ้าเหรียญทองกีฬาสากลอยู่ ที่รวม 54 ทอง อันดับ 2 เป็นเวียดนาม 52 ทอง อันดับ 3 อินโดนีเซีย 35 ทอง

อันดับ 4 สิงคโปร์ 32 ทอง อันดับ 5 มาเลเซีย 21 ทอง อันดับ 6 ฟิลิปปินส์ 20 ทอง อันดับ 7 กัมพูชา 10 ทอง อันดับ 8 เมียนมา และบรูไน

ส่วนลาวกับติมอร์เลสเต ไม่ได้เหรียญทองกีฬาสากลเลย

 

ก่อนไปแข่งขันทัพนักกีฬาไทยตั้งเป้าหมายร่วมกันในงาน “มีต เดอะ เพรส” ไว้ 112 เหรียญทอง แต่สำหรับหน่วยงานอย่างการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) คาดหวังไว้สูงถึง 162 เหรียญทอง

เมื่อเข้าไปดูรายละเอียดปลีกย่อยของแต่ละชนิดกีฬา ปรากฏว่า 15 กีฬาทำผลงานต่ำกว่าเป้าในซีเกมส์ อีก 10 ชนิดทะลุเป้า

โดยชนิดกีฬาที่ทำเหรียญทองทะลุเป้า ได้แก่ กรีฑา 12 ทอง ทำได้เกินเป้า 16 ทอง, คริกเก็ต 1 ทอง ทำได้เกินเป้า 3 ทอง, เทควันโด 5 ทอง ทำได้มากกว่าเป้า 7 ทอง, มวยสากล 5 ทอง ทำได้มากกว่าเป้า 9 ทอง, ยูยิตสู 3 ทอง ทำได้มากกว่าเป้า 6 ทอง, โววีนัม 3 ทอง ทำได้มากกว่าเป้า 5 ทอง, คาราเต้ 1 ทอง ทำได้มากกว่าเป้า 2 ทอง, เรือยาวมังกร 3 ทอง ทำได้มากกว่า 4 ทอง, เปตอง 4 ทอง ทำได้มากกว่าเป้า 6 ทอง และวินด์เซิร์ฟ 1 ทอง ทำได้มากกว่าเป้า 2 ทอง

ชนิดกีฬาที่ทำได้ตามเป้า 14 กีฬา ประกอบด้วย จักรยาน 2 ทอง, วูซู 1 ทอง, เซปักตะกร้อและชินลง 7 ทอง, ปันจักสีลัต 2 ทอง, มวยปล้ำ 1 ทอง, วอลเลย์บอล 2 ทอง, เจ็ตสกี 4 ทอง, เทเบิลเทนนิส 2 ทอง, เทนนิส 2 ทอง, แบดมินตัน 2 ทอง, กีฬาทางน้ำ(ว่ายน้ำ, กระโดดน้ำ, โปโลน้ำ) 5 ทอง, ยกน้ำหนัก 2 ทอง, ฟินสวิมมิ่ง 2 ทอง และแดนซ์สปอร์ต 1 เงิน

ชนิดกีฬาที่ทำได้ต่ำกว่าเป้า 15 กีฬา ยูโด 3 ทอง ทำได้ 2 ทอง, บาสเกตบอล 2 ทอง ทำได้ 2 ทองแดง, กอล์ฟ 4 ทอง ทำได้ 2 ทอง, หมากรุกสากล 5 ทอง ทำได้ 4 ทอง, เรือใบ 3 ทอง ทำได้ 2 ทอง, บิลเลียดและสนุ้กเกอร์ 2 ทอง ทำได้ 1 ทอง, อีสปอร์ต 2 ทอง ทำได้ 2 ทองแดง, ซอฟต์เทนนิส 2 ทอง ทำได้ 2 เงิน, คิกบ็อกซิ่ง 7 ทอง ทำได้ 3 เงิน 6 ทองแดง, ฟันดาบ 2 ทอง ทำได้ 1 ทอง, ฟุตบอล 2 ทอง ทำได้ 1 เงิน 1 ทองแดง, ฮอกกี้ 2 ทอง ทำได้ 1 ทอง 1 เงิน, ฟลอร์บอล 2 ทอง ทำได้ 1 ทอง, ยิมนาสติก 1 ทอง ทำได้ 6 เงิน, ไตรกีฬา 1 ทอง ทำได้ 1 เงิน

หลายกีฬาของไทยทำผลงานได้ตามมาตรฐาน แต่หลายๆ กีฬายังคงฝากผีฝากไข้ไม่ได้ ที่น่าชื่นชมกีฬาอย่างทีมวอลเลย์บอลหญิงไทย ที่คว้าแชมป์ซีเกมส์ สมัยที่ 16 และเป็นสมัยที่ 14 ติดต่อกัน หรืออย่างกรีฑา, เทควันโด ยังรักษามาตรฐานตัวเองได้ดี รวมถึงมวยสากล ที่กวาดไปถึง 9 เหรียญทอง

แต่กีฬาอย่างบาสเกตบอล ที่เราต้องเจอนักยัดห่วงสหรัฐอเมริกาโอนสัญชาติมาเล่นให้กัมพูชา คิกบ็อกซิ่งที่แพ้เพราะพิษกรรมการเอนเอียงทางเจ้าภาพทำให้ได้แค่ 3 เหรียญเงิน

ถือว่าแฟนกีฬาชาวไทยพอจะรับได้

แต่ที่เป็นที่กล่าวขานในทางลบต่อวงการกีฬาของเมืองไทยอย่างมากและเป็นเรื่องน่าอัปยศคือ ทีมฟุตบอลไทยที่สร้างเรื่องอื้อฉาวในรอบชิงชนะเลิศกับ อินโดนีเซีย และนักเตะไทยพ่ายไป 2-5 ชวดแชมป์ซีเกมส์ 3 สมัยติดต่อกัน ชนิดเป็นที่โจษจันไปทั่วโลก

สตาฟฟ์โค้ชไทย รวมถึงนักเตะแสดงถึงการไม่มีวุฒิภาวะรับไม่ได้กับการโดนยั่วยุจากฝ่ายตรงข้ามจนตบะแตกเปิดศึกตะลุมบอนกับสตาฟฟ์โค้ชและนักเตะสำรองของอินโดนีเซียชนิดไม่อายชาวโลก

เป็นการกระทำที่นำศักดิ์ศรีวงการกีฬาไทย ศักดิ์ศรีวงการลูกหนังไทยไปทิ้งแบบไร้สมอง ซึ่งต่อมาผู้จัดการทีมอย่างนายยุทธนา หยิมการุณ ผู้อำนวยการฟุตบอลทีมชาติไทยรุ่น 23 ปี ต้องประกาศลาออกแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์น่าอับอายในครั้งนี้

ต่อมาสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ประกาศลงโทษแบน 3 สตาฟฟ์โค้ชประกอบด้วย ประสบโชค โชคเหมาะ ผู้ฝึกสอนผู้รักษาประตู, มายีด หมัดอะด้ำ เจ้าหน้าที่ทีม, ภัทราวุธ วงษ์ศรีเผือก เจ้าหน้าที่ทีม ห้ามยุ่งกับทีมชาติเป็นเวลา 1 ปี

ส่วนอีก 2 นักเตะได้แก่ โสภณวิชญ์ รักญาติ ผู้รักษาประตู และ ธีรภักดิ์ เปรื่องนา ร่วมกันก่อเหตุอัปยศจึงโดนแบนห้ามเล่นทีมชาติ 6 เดือน

นี่จึงเป็นบทเรียนของนักกีฬาไทยที่ควรระลึกเสมอว่า พวกคุณเป็นตัวแทนทีมชาติไทยแบกศักดิ์ศรีคนไทยผ่านธงไตรรงค์บนหน้าอกเสื้อ ควรทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เด็กและเยาวชน

ที่สำคัญคำว่า “กีฬา” ควรมีน้ำใจความเป็นนักกีฬาที่ดี ไม่ควรปล่อยให้อารมณ์มาอยู่เหนือเหตุผล

 

กีฬาซีเกมส์ 2023 ปิดฉากไปพร้อมๆ กับความสำเร็จของทัพนักกีฬาเวียดนาม ที่ครองเจ้าเหรียญทองเป็นสมัยที่ 3 โดยในอีก 2 ปีข้างหน้า ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2025 จะเวียนกลับมาจัดที่ประเทศไทย โดยมีกรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลักในการเป็นเจ้าภาพ และมี จ.ชลบุรี กับ จ.สงขลา เป็นเมืองรองในการเป็นเจ้าภาพ

ซึ่งในพิธีปิดที่กรุงพนมเปญ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ รับมอบธงเจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ของประเทศไทย ส่งต่อให้ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นิติ วิวัฒน์วานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี, เจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา

แล้วคอยดูการพิสูจน์ฝีมือของคีย์แมนวงการกีฬาของไทยในการเตรียมการเป็นเจ้าภาพจัดซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม พ.ศ.2568

ว่าจะทำให้ทุกชาติร้องว้าว…หรือส่ายหน้าแบบฉบับ “ผักชีโรยหน้า” สไตล์ไทยแลนด์ เหมือนที่เคยๆ ทำกันมา •

 

 

เขย่าสนาม | เงาปีศาจ