ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 19 - 25 พฤษภาคม 2566 |
---|---|
คอลัมน์ | Technical Time-Out |
เผยแพร่ |
ยังไม่จบไม่สิ้นเสียทีสำหรับการเทกโอเวอร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีข่าวมาตลอดหลายเดือน และยังไม่มีความชัดเจนว่าจะลงเอยแบบไหน ถึงแม้นักข่าวจะตามข่าวกันอย่างเกาะติด แต่ก็ยังตอบยากว่าอะไรจริง อะไรมั่ว
สิ่งที่พอจะเห็นได้บ้าง คือ 2 กลุ่มที่เป็นตัวเต็งจะได้ครอบครองสโมสรปีศาจแดง ฝ่ายแรก คือ เซอร์จิม แรทคลิฟฟ์ เจ้าของบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ เอเนออส ที่ใช้ไม้ตายเหลือหุ้น 20 เปอร์เซ็นต์ให้กับครอบครัว เกลเซอร์ เจ้าของปัจจุบัน แล้วค่อยๆ ให้ผ่องถ่ายจนหมดในระยะเวลาอีก 3 ปีหลังจากนี้ ซึ่งอาฟรัมและโจ เกลเซอร์ 2 จาก 5 คนพี่น้องเกลเซอร์ยังอยากจะมีส่วนกับหุ้นของสโมสรอยู่
อีกฝ่าย คือ ชีกจาสซิม บิน ฮาหมัด อัล ธานี จากกาตาร์ ที่ออกตัวมาตลอดว่าพร้อมทุ่มทุนสร้างแมนฯ ยูให้กลับมายิ่งใหญ่ไร้เทียมทานอีกครั้ง แต่จากข้อเสนอที่ยื่นไป 5,000 ล้านปอนด์ ยังไม่ถูกใจเกลเซอร์ที่อยากได้มากกว่านั้น
ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า เกลเซอร์เลือกแล้วที่จะส่งต่อสโมสรให้กับเซอร์จิม เพราะข้อเสนอที่ให้ครอบครองหุ้น 20 เปอร์เซ็นต์ต่อไป แต่สุดท้ายรายงานข่าวที่น่าเชื่อถือก็ยืนยันว่า เกลเซอร์ยังไม่ตกลงปลงใจอะไรทั้งนั้น จนทำให้มีข่าวออกมาอีกว่า ชีกจาสซิมฮึดจะยื่นข้อเสนอใหม่ 6,000 ล้านปอนด์ จะได้จบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด
ในอีกมุมหนึ่งก็มีการมองกันไปว่าเกลเซอร์อาจจะไม่ได้มีเจตนาอยากขายทีมออกจากมือในตอนนี้ เพราะแมนฯ ยูเริ่มกลับมาเป็นทีมที่มีลุ้นแชมป์มากกว่าหลายปีก่อน ถ้ากลับไปมีแชมป์ใหญ่ติดมือ มูลค่าทางการตลาดของสโมสรจะขยับตัวขึ้นไปอีก รอขายตอนนั้นน่าจะได้กำไรที่งามกว่านี้
ดังนั้น เรื่องราวที่ผ่านมาเป็นเพียงการเช็กเรตติ้งเท่านั้น
แรงขับที่ทำให้เกลเซอร์เลือกจะขายแมนฯ ยูออกไป คือ การต่อต้านจากแฟนบอล ที่มองว่าพวกเขาเข้ามาดูดเงิน โกยทรัพย์ออกจากสโมสรมากกว่าการทุ่มเททำให้สโมสรเข้มแข็งขึ้น แต่กระแสนี้ก็มาเป็นช่วงๆ เมื่อทีมฟอร์มไม่ดีก็ออกมาไล่ พอทีมชนะรวด แฟนบอลก็นิ่งไปอีก
สิ่งที่จะกระตุ้นให้เห็นความชัดเจนมากขึ้น คือ ฤดูกาลนี้เข้าสู่ปลายทางแล้ว ตลาดนักเตะจะเปิดในเดือนมิถุนายน เมื่อยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการเปลี่ยนแปลงเจ้าของ ทำให้แนวทางการเสริมทีมก็พลอยไม่ชัดเจนตามไปด้วย เพราะไม่รู้ว่าใครจะมาบริหาร มาแล้วมีนโยบายอย่างไร นี่คือสิ่งที่แฟนบอลกังวลกันอย่างมาก
คาดกันว่าภายในเดือนพฤษภาคมจะได้เห็นว่าใครเป็นเจ้าของใหม่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และคงไม่พลิกโผไปจากเซอร์จิม, ชีกจาสซิม หรืออาจจะเป็นเจ้าของเดิมอย่างเกลเซอร์ก็เป็นไปได้
ถึงแม้แฟนบอลอยากจะเห็นการเปลี่ยนแปลง แต่การได้เห็นว่าเซอร์จิม แรทคลิฟฟ์ ที่ครอบครองสโมสรนีซ ในลีกเอิง ฝรั่งเศส แล้วทีมดูผลงานแย่ลง จากทีมลุ้นแชมป์เป็นทีมกลางตาราง ทำให้แฟนปีศาจแดงกลัวว่าสภาพทีมจะเหมือนนีซ
แต่ถ้ามองในอีกมุมหนึ่ง เซอร์จิมก็เป็นแฟนบอลพันธุ์แท้ของแมนฯ ยูมาตั้งแต่ไหนแต่ไร มันอาจจะไม่ได้น่ากังวลแบบที่คิดก็ได้
แต่บางคนก็ยังบอกว่า การจะให้เซอร์จิมเข้ามา เลือกให้เกลเซอร์อยู่ต่อไปจะดีกว่า เพราะก็ได้เห็นแล้วว่ายังพอทุ่มงบประมาณในการเสริมทีมอยู่บ้าง
อย่างไรก็ตาม เสียงเรียกร้องที่ดังที่สุด คือ การที่เกลเซอร์ยอมปล่อยสโมสรให้กับชีกจาสซิม ที่มีเงินก้อนโตในการสร้างทีมไปสู่การเป็นมหาอำนาจของวงการฟุตบอลอีกครั้ง
เพราะมีตัวอย่างให้เห็นกันนักต่อนัก ทั้งปารีส แซงต์แชร์แมง, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มหาเศรษฐีตะวันออกกลางครอบครองอยู่ ว่าไปได้ไกลถึงระดับไหน •
Technical Time-Out | จริงตนาการ
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022