เส้นบางๆ ที่ห้ามมองข้าม : มวยไทย VS วัน แชมเปี้ยนชิพ

กลายเป็นประเด็นแหลมคมสั่นสะเทือนวงการมวยไทยขึ้นมาจนได้กับกรณีของมวย “วัน แชมเปี้ยนชิพ” ที่กำลังฮิตติดตลาดของเมืองไทยโดนคนมวยไทยออกมาดับเครื่องชน

อย่างที่ทราบกันดีว่า เรื่องของมวยไทยนั้น ผู้ใหญ่ระดับประเทศของเรา และคนวงการมวยไทย รักและหวงแหนศิลปะแม่ไม้มวยไทย และต้องการผลักดัน “มวยไทย” ไปสู่การเป็น “ซอฟต์เพาเวอร์” ของประเทศ

รวมไปถึงจุดหมายปลายทางอันใหญ่หลวง คือการผลักดันให้ “มวยไทย” ได้รับการบรรจุในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ฤดูร้อน ในอนาคต

ซึ่งแนวโน้มที่ดีที่สุด ใกล้เคียงที่สุดคือ โอลิมปิกเกมส์ ฤดูร้อน 2028 ที่นครลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา

 

ประเด็นที่ทำให้ “วัน แชมเปี้ยนชิพ” ถูกจุดพลุขึ้นมาเป็นประเด็นเนื่องจาก “วัน แชมเปี้ยนชิพ” มีกติกาการชกที่ไม่สอดคล้องกับอัตลักษณ์ของมวยไทยอย่างแท้จริง

เรื่องแรก จำนวนยกในการชก ถ้าเป็นมวยไทยที่คนไทยสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมกันมาจะชก 5 ยกตามกติกา แต่วัน แชมเปี้ยนชิพ จัดแค่ 3 ยก

เรื่องที่สอง นวมที่ใช้แข่งขัน มวยไทยดั้งเดิมที่เรารู้จักกันจะเป็นนวมปิดทั้งมือ ถูกกำหนดจำนวนออนซ์ตามที่ผู้จัดระบุและขออนุญาตไว้ แต่มวยวัน แชมเปี้ยนชิพ เป็นนวมแบบเปิดนิ้ว ซึ่งคนมวยไทยมองว่า อันตรายต่อคู่ต่อสู้

เรื่องที่สาม การไหว้ครู มวยไทยที่เราเคยรู้จักกันจะมีการไหว้ครูก่อนชก ซึ่งเรื่องนี้สำคัญมาก เป็นการระลึกถึงครูบาอาจารย์ในวงการมวย แต่วัน แชมเปี้ยนชิพ มองข้ามเรื่องดังกล่าวไป ไม่ได้จัดให้มีการไหว้ครู

พอมีการทักท้วงขึ้น ระยะหลังวัน แชมเปี้ยนชิพ จึงเพิ่มเติมให้มีการไหว้ครูก่อนชก

 

มองในแง่การตลาด วัน แชมเปี้ยนชิพ เติบโตอย่างรวดเร็วในเมืองไทย เข้ามายึดครองตลาดมวยไทยบ้านเราอย่างรวดเร็ว

อาจเพราะเงินทุนที่หนา บางครั้งการใช้เงินซื้อความสำเร็จของ วัน แชมเปี้ยนชิพ ก็ทำให้นักชกชื่อดังหลายๆ คนต้องยอมเข้าไปกอบโกยเงินดังกล่าวเมื่อมีโอกาส

เอกลักษณ์ของ วัน แชมเปี้ยนชิพ ถูกอกถูกใจแฟนมวยไม่น้อยเช่นกันเพราะ 3 ยกขึ้นบู๊แหลกแลกระห่ำใส่กันไม่หยุด แลกเลือดกันอาบเวทีเพราะหวังโบนัสก้อนโตจาก ชาตรี ศิษย์ยอดธง บอสใหญ่แห่งวัน แชมเปี้ยนชิพ ที่มักแจกโบนัสหลายล้านบาทให้กับคู่มวยที่ชกกันดุเดือด

ในทางตรงกันข้าม แฟนหมัดมวยไทยในปัจจุบันเบื่อกับสไตล์มวยไทย 5 ยก ที่ยก 1-2 ขึ้นมาดูเชิง ยก 3 เดินเข้าใส่ ยกที่ 4 แลกอาวุธโกยคะแนน ยกที่ 5 ติ๊ดชึ่ง วนรอบเวทีมองพี่เลี้ยงแล้วมองพี่เลี้ยงอีก

 

“ชาติซ้าย” สมชาติ เจริญวัชรวิทย์ นายกสมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย เป็นหัวหอกระดมพลคนมวยไทยออกมาจัดหนักใส่วัน แชมเปี้ยนชิพ ระบุว่า ถ้าจะใช้คำว่ามวยไทย ต้องปฏิบัติให้เหมือนกับการแข่งขันมวยไทยตาม พ.ร.บ.กีฬามวย ซึ่งกติกาการชกของวัน แชมเปี้ยนชิพ ต้องไปเสนอกับทางสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย นอกจากนี้ ยังมีการเอาเยาวชนอายุ 16-17 ปีมาชก ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่พึงระวังเรื่องสุขภาพมากกว่าปกติด้วย

“ชาติซ้าย” ระบุว่า วัน แชมเปี้ยนชิพ จะใช้คำว่ามวยไทยไม่ได้ ถ้าจะชกจะต้องไม่ใช้คำว่ามวยไทย ทางสมาคมได้แจ้งไปทางสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวยรับทราบแล้ว เนื่องจากทางสมาคมไม่มีอำนาจห้ามไม่ให้มีการชก อยากฝากถึงผู้ที่มีอำนาจช่วยดูแลแก้ไขจุดนี้ เนื่องจากมวยไทยเป็นซอฟต์เพาเวอร์ สำหรับคนต่างชาติที่มาเมืองไทย อยากมาดูมวยไทยอัตลักษณ์เดิม เพราะว่าเป็นมวยไทย เป็นศิลปะที่สวยงาม ทางการกีฬาแห่งประเทศไทยและสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวยควรจะแก้ไขตรงจุดนี้

ทางสมาคมได้แจ้งไปทางผู้จัดด้วยแล้ว อยากฝากถึงทางสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย ถ้าทางผู้จัดไม่แก้ไข ก็ไม่ควรออกใบอนุญาตให้

“การชกของทางวัน แชมเปี้ยนชิพ ในส่วนของการชกที่ไม่ตรงกับกติกา เริ่มจากการพันมือ มีนิ้วโผล่ มันอันตราย ถ้าไปจิ้มตา ก็จะเกิดอันตรายกับคู่แข่ง ส่วนนวม มันต้องมีกำหนด น้ำหนักเท่านี้ ใช้นวมแบบนี้ หนาขนาดนี้ แต่ของทางวันไม่ใช่ ใช้เป็นหนัง และไม่ตรงตามกติกา เวลาชกแตกตลอด บางคนได้รับบาดเจ็บสาหัสก็มี อยากให้แก้ไขให้ตรงกับกติกามวยไทย เพื่อที่จะเป็นการอนุรักษ์ศิลปะมวยไทยได้อย่างถูกต้อง”

 

“จ่าตุ๊ กระดูกเหล็ก” จ่าสิบตรีทรงพล พงษ์สว่าง อุปนายกฝ่ายพัฒนากีฬามวยอาชีพ กล่าวว่า การชกของทางวัน แชมเปี้ยนชิพ ที่มาโฆษณาว่าเป็นมวยไทย แต่การแข่งขันกลับไม่ใช่มวยไทย แต่ใช้เงินมาเป็นสิ่งจูงใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะชกไม่ตามกติกามวยไทย เป็นการทำลายศิลปะมวยไทย แต่เน้นในเรื่องของธุรกิจมากกว่า

และตอนนี้ วัน แชมเปี้ยนชิพ ลามไปถึงมวยรากหญ้า เน้นใช้เงินมาเป็นแรงจูงใจมากกว่า ทำให้คนเห็นแก่เงิน แต่ไม่ได้คำนึงถึงกติกามวยไทยที่ถูกต้อง

“ดร.หญิง” ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นอีกหนึ่งคนที่ออกมาวิงวอนผู้จัดทุกรายการว่า หากจะยอมรับให้เรียกว่า มวยไทย ผู้จัดต้องให้มีการไหว้ครู ทำให้ถูกต้องตามรูปแบบมวยไทยอัตลักษณ์เดิม ตามสโลแกน “โน ไหว้ครู โน มวยไทย” เพราะหากไม่มีการไหว้ครูจะไม่เรียกว่า มวยไทย อยากวิงวอน จะให้กราบก็ยอม เราทำเพื่อลูกหลาน เราคิดเพื่อทำงานใหญ่กว่าที่คนจัดในเมืองไทยจะมากอบโกยทางธุรกิจ เรามีจุดหมายคือ การนำมวยไทยไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์เพื่อความภาคภูมิใจของคนไทย

นี่เป็นประเด็นแหลมคมที่คนวงการมวยไทย กับผู้จัดอย่างวัน แชมเปี้ยนชิพ ต้องหันหน้ามาคุยกันเพื่อร่วมกันอนุรักษ์สืบสานศิลปะแม่ไม้มวยไทยไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลานของเรา

ข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้นคงไม่มีใครอยากทำลาย “มวยไทย” แต่อาจมองกันคนละมุม

หันหน้าคุยกัน หาทางออกร่วมกัน แล้วเดินหน้าผลักดันมวยไทยร่วมกัน

นี่คือทางออกที่ดีที่สุด… •

 

เขย่าสนาม | เงาปีศาจ