วิกฤตหงส์แดง กับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังมา

จากทีมลุ้นกวาด 4 แชมป์ ก่อนได้มา 2 แชมป์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว มาถึงฤดูกาลนี้ สถานการณ์ของ ลิเวอร์พูล กลับตาลปัตรชนิดที่จนถึงขณะนี้แฟนหงส์หลายคนตั้งตัวไม่ติดกันแล้ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังเกมพรีเมียร์ลีกที่บุกไปพ่าย ไบรท์ตัน 0-3 ซึ่งทำให้ทีมรั้งอันดับ 9 ของตาราง ยิ่งทำให้เกิดเสียงวิจารณ์อย่างกว้างขวาง เนื่องจากฟอร์มการเล่นน่าผิดหวัง ถึงขั้นกุนซือ เยอร์เก้น คล็อปป์ ปรารภว่า อาจจะเป็นฟอร์มที่แย่ที่สุดของทีมที่คุมมาตั้งแต่เริ่มต้นทำอาชีพโค้ชเลยด้วย!

สื่อ กูรู นักวิเคราะห์ และแฟนบอล ต่างพยายามหาเหตุผล เบื้องหลังฟอร์มย่ำแย่ของทีมเวลานี้ ซึ่งมีอยู่หลายประการ

แรกสุดนั้น หลายคนเชื่อว่าเป็นอาการ “แฮงก์” ต่อเนื่องหลังจากฤดูกาลที่แล้วหวิดจะปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะกับถ้วยใหญ่อย่างพรีเมียร์ลีกและยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

แต่เกมลีกที่ต้องลุ้นจนถึงนัดสุดท้ายและแทบจะนาทีสุดท้ายของเกมไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวัง เมื่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ป้องกันแชมป์ได้อีกครั้ง

เท่านั้นไม่พอ นัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีกก็มาพ่ายให้ความเก๋าของ รีล มาดริด เสียอีก

จากที่เคยกำหนดวันจัดขบวนแห่ฉลองแชมป์ จึงได้แค่ชู 2 ถ้วยบอลในประเทศอย่างเอฟเอคัพและคาราบาวคัพแบบกร่อยๆ

วงในบอกว่า จากที่ความรู้สึกฮึกเหิมและพีกกันมากๆ พอจบไม่ได้อย่างที่ใจคิด ทำให้นักเตะหลายคนสูญเสียความมั่นใจหรือหมดไฟไปไม่น้อย

อีกปัญหาใหญ่ที่มักจะเป็นโชคร้ายสำหรับหงส์แดงมาตลอด คือปัญหาผู้เล่นตัวหลักบาดเจ็บต่อเนื่อง

อาจจะด้วยฤดูกาลก่อนกรำศึกหนักเพราะเข้ารอบลึกทุกถ้วยทำให้หลายคนกรอบ อีกทั้งยังมาเจอช่วงเบรกกลางฤดูกาลเพื่อเตะ ฟุตบอลโลก 2022 ทำให้ผู้เล่นตัวหลักในทีมชาติหลายคนยิ่งล้าเข้าไปอีก

ปัญหาบาดเจ็บยังส่งผลโดยตรงกับการขาดประสิทธิภาพในแดนกลางของหงส์แดง ซึ่งโดนวิจารณ์หนักว่า ถึงแนวรุกและแนวรับจะยังพึ่งพาได้ แต่แดนกลางของลิเวอร์พูลกลับอ่อนยวบ ไม่สามารถขับเคลื่อนเกม สร้างโอกาสหรือตัดโอกาสคู่ต่อสู้ได้อย่างน่าพอใจเลย

ติอาโก้ อัลคันทาร่า กองกลางชาวสเปน ได้รับเสียงชื่นชมในความเทพสมัยอยู่บาเยิร์น มิวนิก แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่สามารถปรับตัวเข้ากับฟุตบอลสไตล์อังกฤษได้อย่างเต็มตัวเสียที

ขณะที่กัปตันทีม จอร์แดน เฮนเดอร์สัน วัย 32 ปี กับ ฟาบินโญ่ วัย 29 ปี ซึ่งมีปัญหาบาดเจ็บเป็นระยะๆ และเมื่อลงสนามได้ก็ดูเชื่องช้า ไม่ทันเกมอยู่หลายครั้ง

ยังไม่นับตัวสำรองที่ขยันเจ็บอย่าง อเล็กซ์ ออกซ์เลด แชมเบอร์เลน กับ นาบี เกอิต้า ที่ต่างเข้าสู่ 6 เดือนสุดท้ายของสัญญาด้วย

แต่ทั้งที่รู้ว่าปัญหาใหญ่คือแดนกลาง การเสริมทัพในตลาดซื้อขายทั้งช่วงซัมเมอร์ที่แล้วและตลาดรอบนี้กลับไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควร

เช่น ตลาดช่วงซัมเมอร์ซึ่งกว่าจะยอมรับว่าทีมต้องการกองกลางเพิ่มก็ในวันสุดท้าย และต้องปิดดีลเร่งด่วนยืมตัว อาร์ตูร์ เมโล่ จากยูเวนตุส แต่กลับมีปัญหาบาดเจ็บจนต้องพักยาว

พอมาตลาดหน้าหนาว ลิเวอร์พูลเรียกเสียงฮือฮาด้วยการตัดหน้าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้า โคดี้ กักโป กองหน้าพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ร่วมทีม แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้เสริมกองกลางแต่อย่างใด

ถึงจุดหนึ่ง บางคนตั้งคำถามว่า เยอร์เก้น คล็อปป์ ถึงจุดอิ่มตัวกับการทำหน้าที่โค้ชที่แอนฟิลด์แล้วหรือไม่

เรื่องนี้คล็อปป์ย้ำหนักแน่นว่า ไม่คิดจะลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม ยกเว้นแต่สโมสรจะบีบให้ออกเท่านั้น

คล็อปป์ย้ำด้วยว่าจะเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในทีมหลังจากนี้ ยังไม่ใช่ตอนนี้ แต่คาดว่าจะเป็นช่วงซัมเมอร์หลังจบฤดูกาลนี้แล้ว

อีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงที่น่าจะเกิดในเวลาไล่เลี่ยกันคือการเปลี่ยนมือเจ้าของทีมหลังจาก เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป เจ้าของปัจจุบันประกาศเตรียมขายหุ้น ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าจะเป็นการแบ่งขายบางส่วนหรือทั้งหมด

เป็นการนับถอยหลังช่วง 4-5 เดือนสุดท้ายสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่แฟนหงส์เฝ้ารอด้วยใจระทึกเลยทีเดียว! •

 

Technical Time-Out | SearchSri