ทิศทางลูกหนังไทย 2566 กับโปรแกรมใหญ่รอตลอดปี

ไม่ว่าผลในศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเลคทริค คัพ 2022” ของขุนพล “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย จะจบลงแบบใดก็ตาม

สิ่งหนึ่งที่แฟนๆ รอคอยความหวังอยู่ในปี 2566 นี้ แน่นอนว่าคงอยากเห็นทีมชาติไทยกลับมาเดินหน้าทวงคืนเบอร์ 1 อาเซียน และก้าวต่อไประดับเอเชียให้ได้เสียที

สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับเลยก็คือฟุตบอลไทยเหมือนจะหยุดชะงักด้านการพัฒนา โดยเฉพาะในระดับเยาวชนไปตั้งแต่ที่ทั่วโลกประสบภาวะโควิด-19 ขึ้นมา มันทำให้ประเทศไทยหยุดพัฒนาโดยเฉพาะในระบบเยาวชน ที่ขาดการแข่งขันมา 3 ปีได้แล้ว

ดังนั้น จึงไม่ควรแปลกใจที่ฟุตบอลเยาวชนของไทยในทุกรุ่นอายุตอนนี้ ไปแข่งขันทีไรก็เหนื่อย และแพ้ให้กับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง “ดาวทอง” เวียดนาม ในทุกรุ่นอายุ ทำให้หลายคนส่ายหัวกับอนาคตของฟุตบอลไทยในตอนนี้

ดังนั้น ปี 2566 คือปีที่สำคัญมากของฟุตบอลไทย เพราะข้ออ้างต่างๆ เรื่องโควิด-19 หรือเรื่องของเงินสนับสนุน มันควรจะหมดลงไปได้แล้ว และถ้าผลงานยังไม่ดีอยู่ ฝ่ายบริหารเองก็น่าจะต้องพิจารณาตัวเองเหมือนกันนะ

ว่าแล้วมาดูกันว่าในปี 2566 ฟุตบอลไทยจะมีอะไรให้น่าติดตามบ้าง

 

เริ่มกันที่ฟุตบอลชาย ชุดใหญ่ หลังจบศึกชิงแชมป์อาเซียน สิ่งที่รอคอยอยู่คือการทำ อันดับโลก ให้สูงที่สุด ก่อนการจับสลากแบ่งสาย 2 รายการสำคัญ ทั้งฟุตบอล เอเชี่ยน คัพ 2023 ที่เลื่อนไปเตะช่วงปลายปี 2566 หรือต้นปี 2567 ที่ ประเทศกาตาร์ ในเดือนพฤษภาคม และยังมีการจับสลากแบ่งสาย ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง โดยจะเริ่มฟาดแข้งปลายเดือนพฤศจิกายน แต่จะจับสลากกันตอนเดือนกรกฎาคมนี้

เท่ากับว่าทีมชาติไทยมีเวลาอยู่ 2 ช่วง ฟีฟ่าเดย์ คือเดือนมีนาคมและเดือนมิถุนายน ในการทำอันดับให้ดีที่สุด

ในเดือนมีนาคม นับว่าเป็นข่าวดีที่ทีมชาติไทยได้รับเชิญให้ไปเตะ ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียตะวันตก ซึ่งจะมี 12 ทีมรวมทีมชาติไทยเข้าร่วมแข่งขัน และทุกทีมอันดับดีกว่าไทยทั้งสิ้น ถ้าหากชนะได้อันดับพุ่งกระฉูดได้แน่นอน ส่วนเดือนมิถุนายน จะมีฟีฟ่าเดย์ให้เตะกันอีก 2 นัด

ถ้าหากทำอันดับต่ำกว่า 18 อันดับแรกของเอเชียได้จะทำให้อยู่ใน 2 โถแรกของการจับสลากแบ่งสายฟุตบอลโลก อันส่งผลดีต่อการลุ้นเป็น 8 ทีมที่ได้ไปฟุตบอลโลก 2026 ที่ประเทศแคนาดา, เม็กซิโก และสหรัฐอเมริกา

 

อีกชุดหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ภายใต้การดูแลของ “บิ๊กหยิม” ยุทธนา หยิมการุณ อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ โดยมี “โค้ชหระ” อิสสระ ศรีทะโร เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน ที่มีเป้าหมายสำคัญคือการทวงแชมป์ฟุตบอลชาย ในกีฬา ซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ช่วงวันที่ 5-16 พฤษภาคม

จากนั้นยังมีฟุตบอล ชิงแชมป์เอเชีย 2024 รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือก ระหว่างวันที่ 4-12 กันยายน โดยในรอบสุดท้ายของศึกชิงแชมป์เอเชีย 2024 จะแข่งขันที่ประเทศกาตาร์ และจะเป็นรายการคัดเลือกตัวแทนจากเอเชียเข้าสู่มหกรรมกีฬา โอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

ต่อด้วยอีกหนึ่งศึกใหญ่คือ เอเชี่ยนเกมส์ 2022 ครั้งที่ 19 ที่นครหางโจว ประเทศจีน ในระหว่างวันที่ 23 กันยายน-8 ตุลาคม แน่นอนว่าเป้าหมายคงต้องไปให้ไกลที่สุด และไม่ตกรอบแรกเหมือนหนก่อนที่อินโดนีเซีย

 

ส่วนชุดที่น่าจับตามองมากๆ คือการลงมาลุยด้วยตัวเองของ “บิ๊กเน” เนวิน ชิดชอบ ที่ส่งลูกชายอย่าง ชนน์ชนก ชิดชอบ มาเป็นผู้จัดการทีมยู-20

พร้อมเปิดระบบใหม่ในแบบ “บุรีรัมย์ สไตล์” คัดนักเตะจาก 3,600 คนทั่วประเทศ ให้เหลือแค่ 30 ชีวิต มากินอยู่ในแคมป์เดียวกัน

หวังเน้นเรื่องระบบการเล่น และระเบียบวินัย

เป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ศึกเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย ในปี 2025 ที่จะลุ้นไปฟุตบอลเยาวชนโลกต่อไป

และก้าวขึ้นติดท็อป 10 ของเอเชียให้ได้

ส่วนชุดยู-17 ของเฮดโค้ช “โค้ชกบ” พิภพ อ่อนโม้ มีศึกชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพเอง ช่วงระหว่างวันที่ 3-20 พฤษภาคม

จากนั้นจะมีชิงแชมป์เอเชีย 2024 รอบคัดเลือก วันที่ 16-24 กันยายน

เรียกว่าชุดนี้ก็เตะไม่พักเช่นกัน

 

มากันที่ฟุตบอลหญิงบ้าง ที่มีโค้ชชาวญี่ปุ่นอย่าง มิโยะ โอกาโมโตะ ดูแลทุกรุ่นอายุ

ชุดใหญ่มีภารกิจสำคัญเลยคือการลุ้นตั๋วไป ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2023 เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกันให้ได้ แต่งานยากหน่อยเพราะว่าจะต้องไปเล่นรอบเพลย์ออฟระหว่างทวีป ที่รอบแรกจะต้องเจอกับแคเมอรูน ผู้ชนะจะเข้าไปพบกับโปรตุเกส โดยจาก 3 ทีม จะมีแค่ทีมเดียวเท่านั้น ที่จะได้เข้ารอบสุดท้ายที่ประเทศนิวซีแลนด์

จากนั้นก็จะเหมือนฟุตบอลชาย คือมี 2 มหกรรมใหญ่รออยู่คือ ซีเกมส์ ที่ประเทศกัมพูชา และเอเชี่ยนเกมส์ ที่ประเทศจีน ซึ่งก็เป็นงานหนักทั้งสองรายการของทีมชาติไทย

ส่วนฟุตบอลหญิงชุดเล็กอย่าง รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ก็มีภารกิจในการแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี รอบคัดเลือก ช่วงวันที่ 3-11 มิถุนายน ซึ่งสมาคมกีฬาฟุตบอลไทยฯ มีแผนเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการนี้เองด้วย และชุดยู- 16 มีโปรแกรมฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี รอบคัดเลือก ระหว่างวันที่ 22-30 เมษายน

นี่ยังไม่รวมถึง ฟุตซอล ที่มีศึกชิงแชมป์เอเชีย 2024 รอบคัดเลือก ช่วงระหว่างวันที่ 2-13 ตุลาคม และ ฟุตบอลชายหาด ก็มีชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ 13-23 มีนาคม

มองดูจากโปรแกรมแล้ว นี่นับว่าเป็นปีหนึ่งที่สำคัญของวงการลูกหนังไทย ที่เรียกได้ว่าจะกำหนดเส้นทางอนาคตของพวกเขาได้เป็นอย่างดีเลย •

 

เขย่าสนาม | เด็กเก็บบอล

[email protected]