หมดยุคทองของ ‘เบลเยียม’ วัฏจักรฟุตบอลที่มาถึงแล้ว

เบลเยียมคือทีมเต็งฟุตบอลทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์มาโดยตลอดในช่วง 10 ปีหลัง เพราะมีนักเตะชื่อดังของโลกอยู่ในทีมพร้อมหน้าพร้อมตาเกือบทุกตำแหน่ง

ชื่อของ เควิน เดอ บรอยน์, โรเมลู ลูกากู, เอเดน อาซาร์ หรือ ธิโบต์ กูร์ตัวส์ เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี และร่วมสร้างความสำเร็จให้กับสโมสรพวกที่เขาเล่นให้มามากมาย จนถูกยกให้นักเตะชุดนี้เป็นโกลเด้น เจเนอเรชั่น หรือ “ยุคทอง”

แต่นักเตะยุคทองชุดนี้กลับไม่เคยคว้าแชมป์ใดๆ มาได้เลย ไม่ว่าจะในฟุตบอลโลก, ยูโร หรือแม้กระทั่งยูฟ่า เชั่นส์ลีก

ทีมปีศาจแดงแห่งยุโรปเคยขยับขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของโลก และรักษาอันดับสูงสุดของโลกไว้ได้ตั้งแต่ปี 2018-2021 หลังจากคว้าอันดับ 3 ในฟุตบอลโลก 2018 และตอนนี้ก็ยังเป็นเบอร์ 2 ของโลก รองจากบราซิลเท่านั้น

 

ในฟุตบอลโลก 2022 เบลเยียมก็ถูกมองว่ามีโอกาสเป็นไปได้ที่จะก้าวไปถึงแชมป์โลก เพราะนักเตะชุดโกลเด้น เจเนอเรชั่น หลายคนคนยังคงมีชื่อมาลุยกาตาร์ ที่สำคัญพวกเขามีประสบการณ์และความนิ่งมากขึ้นกว่าเดิม

อย่างไรก็ตาม จากผลงานในรอบแบ่งกลุ่มที่เรียกได้ว่า น่าผิดหวัง กว่าจะชนะแคนาดา 1-0 ก็ต้องลุ้นกันเหนื่อย ส่วนเกมที่ 2 โดนโมร็อกโกเชือด 2-0 แบบที่ทั่วโลกถึงขั้นไม่เชื่อสายตาว่าทีมปีศาจแดงแห่งยุโรปจะหมดสภาพได้ขนาดนี้

เดอ บรอยน์ มิดฟิลด์กัปตันทีมออกมาบอกกับสื่อว่า เบลเยียมทีมนี้แก่เกินไปจะได้แชมป์แล้ว ทีมเมื่อ 4 ปีที่แล้วถือเป็นทีมที่ดีที่สุดและเหมาะสมที่สุดที่จะมองไปถึงแชมป์ แต่ตอนนี้มันเลยจุดนั้นมาแล้ว

“ตอนนี้เราแก่เกินไป มีนักเตะหลายคนที่เลิกเล่น ถึงแม้จะมีนักเตะฝีเท้าดีเข้ามาอยู่กับทีม แต่ก็ไม่ได้ดีเหมือนเดิม ผมว่าเราไม่ได้ดีพอที่จะลุ้นแชมป์เลย”

 

หลังจากเห็นฟอร์มใน 2 นัดแรก บ่อนพนันถูกกฎหมายปรับให้เบลเยียมกลายเป็นเต็ง 10 ที่จะได้แชมป์ไปแล้ว เป็นรองแม้แต่เดนมาร์ก

นับตั้งแต่ปี 2012 ที่เริ่มเข้าสู่ยุคทองของเบลเยียม ทีมปีศาจแดงแห่งยุโรปก็ไม่เคยตกรอบแรกในรายการระดับเมเจอร์อีกเลย ฟุตบอลโลก 2014 ตกรอบก่อนรองชนะเลิศ ด้วยน้ำมือของอาร์เจนตินา ยูโร 2016 แพ้เวลส์ ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2018 คว้าอันดับ 3 และในยูโร 2020 พ่ายอิตาลี ในรอบก่อนรองชนะเลิศ

โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ กุนซือเบลเยียมที่คุมทีมมา 6 ปี จวนเจียนจะตกงานมาแล้ว แต่ในที่สุดก็ยังได้โอกาสในการทำทีมมาจนถึงวันนี้ ซึ่งจะบอกว่าเป็นโอกาสสุดท้ายก็คงไม่ผิดนัก เพราะผลงานเดียวที่จะทำให้มาร์ติเนซได้ทำงานต่อไป คงต้องดีถึงการผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเป็นผลงานที่ดีกว่าเมื่อ 4 ปีที่แล้ว

แต่ถือว่าเป็นงานที่ยากมากๆ ถ้ามองจากผลงานในช่วงที่ผ่านมา และสภาพนักเตะที่เหมือนเดิม

แยน แฟร์ตองเก้น กองหลังที่เติบโตมาในยุคทอง พูดเป็นนัยว่า บรรยากาศในทีมมีรอยร้าว แต่ไม่อยากเอาเรื่องในห้องแต่งตัวของทีมออกไปพูดที่อื่น

ฟุตบอลโลก 2022 คงเป็นช่วงเวลาสุดท้ายที่จะได้เห็นเบลเยียมยุคโกลเด้น เจเนอเรชั่น เล่นด้วยกัน หลังจากนี้คงต้องสร้าง สะสม พัฒนาทีมให้เดินหน้าสู่ยุคทองครั้งใหม่

ยังไม่รู้ว่าอีกกี่ปี แต่วัฏจักรของฟุตบอลที่มีวันร่วงโรย ไม่ว่าจะเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่แค่ไหน ก็ไม่เคยหนีพ้น