‘กาซิยาสเป็นเกย์’ ‘มุข’ ออนไลน์ที่กลายเป็นประเด็นร้อน

กลายเป็น “ดราม่า” ที่เริ่มขึ้นและจบลงในเวลาไม่กี่ชั่วโมง สำหรับการ “คัมเอาต์” ของ อิเคร์ กาซิยาส ตำนานนายทวารชาวสเปน ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ของตัวเองสั้นๆ ในภาษาสเปนว่า “หวังว่าคุณจะเคารพในสิ่งที่ผมเป็น : ผมเป็นเกย์”

ในเวลาไม่กี่นาที มีชาวเน็ตเข้าไปกดไลก์กดแชร์ข้อความนี้หลายพันครั้ง พร้อมกำลังใจที่หลั่งไหลเข้าไปไม่ขาดสาย บ้างก็เป็นข้อความเชิงเหยียดหรือล้อเลียนบ้าง

ในจำนวนนี้เป็นข้อความเชิงล้อเล่นจากอดีตเพื่อนร่วมทีมกระทิงดุ การ์เลส ปูโยล ที่หยอกเพื่อนว่า “ถึงเวลาเปิดเผยเรื่องของเราแล้ว อิเคร์” พร้อมอีโมจิรูปส่งจูบ

ผ่านไปไม่นาน กาซิยาสก็ลบทวีตดังกล่าว ขณะที่ อาส สื่อใหญ่ของสเปนรายงานว่า เรื่องเปิดตัวเป็นเกย์นั้น ไม่ใช่เรื่องจริง กาซิยาสแค่โพสต์ประชดสื่อที่ชอบโยงเขากับข่าวเดตสาวรายสัปดาห์นับตั้งแต่หย่าร้างกับภรรยา ซาร่า คาโบเนโร่ ผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์ที่มีลูกด้วยกัน 2 คน เมื่อปีที่แล้ว

ต่อมา กาซิยาสโพสต์ว่าทวิตเตอร์ของตัวเองโดนแฮ็ก และกล่าวขอโทษผู้ติดตาม รวมถึงชุมชน LGBT ทุกคน เช่นเดียวกับปูโยลที่โพสต์ขอโทษหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ยอมรับว่าตัวเองเล่นมุขไม่ถูกกาลเทศะ แต่ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี และขอโทษหากไปทำร้ายความรู้สึกของใครเข้า

ไม่ว่าโพสต์เรื่องเปิดตัวเป็นเกย์ของกาซิยาสจะมาจากเจตนาประชดสื่อจริงตามที่สื่อรายงาน หรือว่าถูกแฮ็กตามที่เจ้าตัวอ้าง

แต่ 2 แข้งระดับตำนานก็โดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักที่เอาประเด็นนี้มาล้อเล่น

 

ขณะที่ชาวเน็ตบางส่วนก็สวนกระแสว่า คนที่เซ้นซิทีฟกับเรื่องนี้ทำให้เป็นประเด็นใหญ่โตเกินไปหรือไม่ เพราะถ้ามองว่าการเป็นเกย์ หรือรักเพศเดียวกัน หรือเพศทางเลือกใดๆ เป็นเรื่องปกติ ก็ไม่น่าต้องคิดเล็กคิดน้อยขนาดนั้น

ปัญหาก็คือ ในโลกแห่งความเป็นจริง อะไรก็ไม่ง่ายอย่างอุดมคติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวงการฟุตบอลชายซึ่งมีนักเตะเปิดตัวเป็นเกย์แทบจะนับนิ้วได้

ต้องยอมรับว่า ในขณะที่บางชนิดกีฬาเปิดกว้างยอมรับเรื่อง LGBT มากขึ้น ในหลายๆ ชนิดกีฬายังคงยึดมั่นค่านิยมเกี่ยวกับเพศชายค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอล รักบี้ฟุตบอล อเมริกันฟุตบอล บาสเกตบอล ฯลฯ โดยบ่อยครั้งที่นักกีฬาในชนิดกีฬาเหล่านี้เลือกปิดบังเรื่องรสนิยมทางเพศของตัวเองไปจนเลิกเล่น น้อยคนมากๆ ที่จะกล้าเปิดตัวในขณะที่ยังแข่งขันอยู่ เพราะกลัวกระแสต่อต้านหรือเหยียดหยามจากทั้งคนในวงการและแฟนๆ

ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า แม้ในปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตทำให้สังคมตื่นรู้เรื่องการเหยียดหรือแบ่งแยกในสังคมมากขึ้น แต่ก็เพราะอินเตอร์เน็ตอีกเช่นกันที่เปิดช่องให้เกิดอาชญากรรมจากความเกลียดชัง (hate crime) ในประเด็นเหล่านี้มากขึ้นไปด้วย

ดังรายงานจากสำนักข่าว “บีบีซี” ว่า อาชญากรรมจากความเกลียดชังต่อกลุ่มเกย์และ LGBT ในสหราชอาณาจักรเพิ่มสูงขึ้น

ขณะที่พฤติกรรมเชิงเหยียดเชื้อชาติหรือเหยียดผิวต่อนักฟุตบอลก็ไม่มีทีท่าจะลดลง แม้ว่าลีกต่างๆ จะพยายามชูแคมเปญรณรงค์อย่างสม่ำเสมอก็ตาม

หนึ่งในประวัติศาสตร์เลวร้ายที่สุดของกระแส “แอนตี้เกย์” ในวงการลูกหนัง คือเรื่องราวของ จัสติน ฟาชานู อดีตแข้งผิวดำค่าตัว 1 ล้านปอนด์คนแรกในประวัติศาสตร์ที่เปิดตัวว่าเป็นเกย์ตั้งแต่ยังเล่นฟุตบอลอาชีพในอังกฤษในยุค 70-90

กลายเป็นว่าหลังเปิดตัวเป็นเกย์ เขาก็กลายเป็นเป้าล้อเลียนของแฟนบอลจากหลากหลายทีม เมื่อทนแรงกดดันไม่ไหว ฟาชานูก็แขวนสตั๊ดและหลบไปใช้ชีวิตเงียบๆ ก่อนจบชีวิตตัวเองในปี 1998

 

กรณีทวีตของกาซิยาส หากเป็นเรื่องจริง เขาจะกลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกที่เปิดตัวเป็นเกย์ ด้วยประวัติผลงานยิ่งใหญ่อย่างการคว้าแชมป์โลก 1 สมัย, แชมป์ยูโร 2 สมัย, แชมป์ลาลีก้า 5 สมัย, แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 3 สมัย และเพิ่งแขวนถุงมือเมื่อปี 2020 เนื่องจากมีอาการเกี่ยวกับโรคหัวใจ

ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง กาซิยาสจะกลายเป็นแรงบันดาลใจ หรืออย่างน้อยก็เป็นตัวอย่างให้นักเตะที่เป็นเกย์บางคนกล้าเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงต่อสาธารณะ

แต่พอเรื่องนี้เป็นแค่ “มุข” ไม่ว่าจะจากตัวกาซิยาส (และปูโยล) เอง หรือจากแฮ็กเกอร์นิรนามก็ตาม ก็ทำให้หลายคนมองว่าวงการฟุตบอลชายกำลังถอยหลังเรื่องการเปิดกว้างยอมรับเพศทางเลือกไปอีก

เพราะแม้แต่บุคคลระดับตำนานแข้ง (หรือคนที่สวมรอย) ยังมองเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องโจ๊กชวนขัน ทั้งที่ชีวิตจริงของคนที่ต้องปิดบังตัวตนเหล่านี้ ไม่ได้ตลกด้วยเลยแม้แต่น้อย! •

 

Technical Time-Out | SearchSri

สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj

— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022