Technical Time-Out

จริงตนาการ

[email protected]

 

‘ซน วุง จอง’

ลูกผมไม่ใช่นักเตะเวิลด์คลาส

หลังจากที่สมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (พีเอฟเอ) ประกาศทีมยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีก ออกมาแล้วไม่มีชื่อของ ซน ฮึง มิน กองหน้าชาวเกาหลีใต้ของท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ซึ่งคว้าตำแหน่งดาวซัลโวร่วม กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวยิงลิเวอร์พูล ก็ทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ออกมามากมาย

มีการมองกันไปว่า เพราะเขาไม่ได้เป็นนักเตะยุโรป, แอฟริกา หรืออเมริกาใต้ ทำให้ไม่ได้รับเครดิตเท่าที่ควร ถึงแม้ว่าการอยู่ในทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลอาจจะไม่ได้เป็นความสำเร็จอะไรมากมาย แต่แฟนบอลก็เรียกหาความเหมาะสม และการยอมรับจากผลงานไม่ใช่แค่ความดังของนักเตะรายนั้นๆ

อย่างไรก็ตาม ซนไม่ได้แสดงอาการน้อยอกน้อยใจอะไรผ่านสื่อ แต่ก็ไม่รู้ว่าในใจลึกๆ เขาคิดยังไงกับเรื่องนี้ มีเพียงพ่อของตัวกองหน้าโสมขาวที่ออกมาตอบคำถามถึงลูกชาย

 

ซน วุง จอง พ่อของซน ฮึง มิน บอกว่า ลูกชายยังไม่ได้ขึ้นชั้นเป็นนักเตะเวิลด์คลาสอย่างที่ใครเขาว่ากัน ถึงแม้จะเป็นนักเตะเอเชียคนแรกที่คว้ารางวัลรองเท้าทองคำในพรีเมียร์ลีกได้ แต่ซนต้องไปเป็นนักเตะคนสำคัญของสโมสรระดับโลกก่อน ถึงจะเรียกว่าเวิลด์คลาสได้อย่างเต็มปาก

“ซนต้องทำงานให้หนักกว่านี้เพื่อพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น เพราะถ้าเขาพอใจกับความสำเร็จที่ทำได้ในตอนนี้ แปลว่าเขากำลังก้าวขาไปสู่ความลำบาก ลูกชายของผมต้องทำให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ เพื่อรักษาฟอร์มเก่งให้ได้อย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่มีความสุขกับสิ่งที่ผ่านมาแล้ว ผมหวังว่าเขาจะทำได้ดีขึ้นอีก 10 เปอร์เซ็นต์เสมอ”

พ่อของแข้งเกาหลีใต้บอกอีกว่า ถึงแม้ลูกชายจะยิงประตูได้มากมายในซีซั่นนี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำได้อีกในปีหน้า คนที่พร้อมที่สุดเท่านั้นที่จะอยู่รอดจากความยากลำบากได้ ดังนั้น ซน ฮึง มิน ต้องมีจิตใจที่มั่นใจและต้องไม่ภาคภูมิใจกับสิ่งที่ผ่านมา

ก่อนเปิดฤดูกาลจะมีการประเมินจำนวนประตูที่นักเตะชื่อดังแต่ละคนจะยิงได้ในฤดูกาลนั้นๆ โดยการประเมินก่อนฤดูกาล 2020-2021 คาดว่าซนจะยิงได้ 10 ประตูแต่เขากลับทำได้ถึง 17 ประตูไม่นับจุดโทษ

และในฤดูกาลล่าสุด ซนก็สามารถยิงได้ถึง 23 ประตู จากที่มีการคาดการณ์ตอนต้นฤดูกาลว่าเขาจะยิงได้ประมาณ 16 ประตู

 

คําพูดกดดันของพ่อ ไม่ได้พูดขึ้นมาลอยๆ เพราะสถิติของลูกชายขยับดีขึ้นเรื่อยๆ ในหลายซีซั่นหลัง การเล่นในพรีเมียร์ลีกแบบเต็มซีซั่น 6 ฤดูกาล เขายิงเกิน 10 ประตูได้ทั้งหมด นับเฉพาะพรีเมียร์ลีก แต่ถ้านับรวมทุกรายการ 18-24 ประตู มีให้เห็นกันทุกฤดูกาล

ในซีซั่นหน้า ซนจะขึ้นแท่นเป็นนักเตะเอเชียคนแรกที่ยิงถึง 100 ประตูในพรีเมียร์ลีก เพราะเขาเหลือเพียง 7 ประตู ก็จะทำได้แล้ว และมันก็น่าจะเกิดในสีเสื้อของสเปอร์ส เนื่องจากไม่มีข่าวคราวว่าจะย้ายออกไปไหน ถึงแม้ว่าพ่อแย้มๆ เองว่า ลูกชายควรไปเจิดจรัสกว่านี้กับทีมใหญ่

ในวัย 29 ปี การย้ายไปทีมใหญ่กว่าสเปอร์ส เพื่อหยิบถ้วยแชมป์ก่อนหมดเวลาค้าแข้ง เป็นเรื่องที่ควรจะทำ และคงมีหลายทีมที่อยากได้ตัวซนไปร่วมทีมเช่นกัน

ขึ้นอยู่กับว่าดาวยิงคนนี้จะคิดแบบพ่อของเขาหรือไม่ ถ้าพ่อลูกคิดตรงกัน โอกาสจะได้เห็นซน ฮึง มิน ไปวาดลวดลายกับทีมบิ๊กเนม (กว่าสเปอร์ส) ในเวลาอันใกล้

เชื่อว่าทุกคนอยากจะเห็นเขาประสบความสำเร็จ ชูถ้วยแชมป์เช่นกัน •