เปิดความหวังทัพไทยซีเกมส์ เป้าหมาย 116 ทองให้พุ่งชน! / เขย่าสนาม : เด็กเก็บบอล

เขย่าสนาม

เด็กเก็บบอล

[email protected]

 

เปิดความหวังทัพไทยซีเกมส์

เป้าหมาย 116 ทองให้พุ่งชน!

 

เหลืออีกไม่กี่วันการแข่งขันกีฬา ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม ก็จะเริ่มเปิดฉากเข้าสู่การแข่งขันอย่างเป็นทางการ

แน่นอนว่าในทุกๆ ครั้ง ประเทศไทยนั้นตั้งเป้าหมายในการเป็นเจ้าเหรียญทอง แต่ต้องยอมรับว่าในกีฬาระดับภูมิภาคแบบนี้ ทุกชาติที่เป็นเจ้าภาพก็มักจะมีกลยุทธ์ต่างๆ ที่ทำเพื่อให้ตัวเองได้เหรียญทองมากที่สุด

ย้อนกลับไปไม่ต้องไกลมาก แค่ 10 ครั้งหลังสุด มีถึง 7 ครั้งที่เจ้าภาพสามารถคว้าเจ้าเหรียญทองไปครอง

ซึ่งจาก 7 ครั้ง ชาติที่เป็นเจ้าภาพแล้วสามารถคว้าเจ้าทองได้ จะมี มาเลเซีย, เวียดนาม, ฟิลิปปินส์, ไทย และ อินโดนีเซีย ส่วนอีก 3 ครั้งที่เจ้าภาพคว้าทองไม่ได้ ก็คือ ลาว, พม่า และ สิงคโปร์ ซึ่ง 3 ครั้งนั้นเป็นไทยที่สามารถคว้าเจ้าทองได้ทั้งหมด

ในส่วนของเวียดนามเจ้าภาพนั้น มีการเปิดเผยความหวังของทัพนักกีฬาเจ้าภาพเอาไว้ที่ 140 เหรียญทอง 77 เหรียญเงิน และ 71 เหรียญทองแดง พร้อมกับตำแหน่งเจ้าเหรียญทอง

เป้าหมายหลักๆ ของเวียดนามนั้นอยู่ที่ ว่ายน้ำ 8 ทอง, กรีฑา 16 ทอง, 7 ทองจากคาราเต้, เทควันโด, ยูโด, ยิงปืน, ยิงธนู และยกน้ำหนัก

 

มาว่ากันถึงความคาดหวังของทัพนักกีฬาไทยในครั้งนี้ แน่นอนว่าธรรมเนียมสำคัญก่อนทัวร์นาเมนต์แบบนี้ สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย ก็จะจัดงานมีทเดอะเพรส เพื่อให้แต่ละสมาคมกีฬาได้มาเผยถึงความพร้อมต่างๆ ของแต่ละสมาคม รวมถึงความคาดหวังด้วย

ในซีเกมส์ครั้งทัพนักกีฬาไทยส่งเข้าแข่งขันทั้งหมด 40 ชนิดกีฬา รวมนักกีฬาทั้งสิ้น 871 คน

“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมฟุตบอลชาย ชุดซีเกมส์ ความหวังสูงสุดของทัพไทยในทุกๆ ครั้ง บอกว่า การเตรียมทีมครั้งนี้มีอุปสรรคค่อนข้างเยอะ เพราะเจ้าภาพเลื่อนการแข่งขันมาในช่วงที่ฟุตบอลลีกยังไม่ปิด ทำให้ไม่มีเวลาซ้อม รวมถึงไม่ได้นักเตะที่ต้องการทุกคน อีกทั้งเจ้าภาพยังเตรียมทีมมาดี หยุดลีก 4 เดือนเพื่อต้องการคว้าเหรียญทองในบ้านตัวเองให้ได้ หรือประเทศอื่นๆ ก็มีเก็บตัวต่างประเทศกัน ทว่าแม้จะมีปัญหามากมายแค่ไหน ก็ต้องการเหรียญทองกลับมาเท่านั้น

ส่วนกีฬาหนึ่งซึ่งสามารถโกยเหรียญทองให้ทัพไทยได้ทุกครั้ง นั่นก็คือ กรีฑา จากที่ครั้งก่อนคว้ามาได้ 12 ทอง ครั้งนี้ก็ตั้งเป้าเอาไว้ที่ขั้นต่ำ 12 ทองเท่าเดิมไว้ก่อน

ซึ่งกรีฑาครั้งนี้ที่น่าจับตามองที่สุดก็คงหนีไม่พ้น “บิว” ภูริพล บุญสอน นักวิ่งดาวรุ่งวัย 16 ปี ที่เพิ่งสร้างสถิติประเทศไทยในรอบ 24 ปี ในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติที่จังหวัดศรีสะเกษที่ผ่านมา และถือเป็นตัวความหวังที่จะคว้าถึง 3 ทอง ทั้งในประเภท 100 เมตร, 200 เมตร และ 4 x 100 เมตร

นอกจากนี้ ยังมีนักกรีฑาระยะกลางและไกลอีกอย่าง จอชชัว โรเบิร์ต แอทคินสัน, คีริน ตันติเวทย์, โทนี่ อาทิตย์ เพน และ สัญชัย นามเขต เป็นต้น ส่วนนักกีฬาหญิงยังได้ลุ้นจากประเภทลาน อย่าง ณัฎฐา นาชาญ กับ จริยา วิชัยดิษฐ ในประเภทพุ่งแหลน เป็นต้น

ขณะที่กีฬาที่เพิ่งสร้างความสุขให้กับคนไทยในโอลิมปิกเกมส์ ที่ประเทศญี่ปุ่น ที่ผ่านมาอย่าง เทควันโด แม้ว่า “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จะคว้าทองโอลิมปิกเกมส์มาแล้ว แต่เจ้าตัวก็มาแข่งขันในซีเกมส์ด้วยเช่นกัน และลงในรุ่นถนัดอย่าง 49 ก.ก. เพราะเจ้าภาพไม่ให้เปลี่ยนรุ่นการแข่งขัน

รวมถึงยังมีอดีตเหรียญเงิน “รีโอเกมส์” อย่าง เทวินทร์ หาญปราบ ที่หายจากบาดเจ็บและกลับมามีชื่อติดทีมชาติไทยอีกครั้ง ก็น่าจะเป็นความหวังให้ทัพไทยได้ โดยทางสมาคมตั้งเป้าเอาไว้ที่อย่างน้อย 3 เหรียญทองด้วยกัน

อีกหนึ่งกีฬาขวัญใจชาวไทยอย่างวอลเลย์บอล โดยเฉพาะทีมตบสาวไทยที่กำลังอยู่ในช่วงผลัดใบจากชุด 7 เซียน แต่ทางสมาคมก็เชื่อว่าเซียนรุ่นใหม่นั้นดีพอไม่แพ้รุ่นเก่าแน่นอน พร้อมเชื่อมั่นว่าจะสามารถป้องกันแชมป์สมัยที่ 15 เอาไว้ได้อีกครั้ง รวมถึงวอลเลย์บอลชายหาดหญิงเองก็เป็นนักกีฬาระดับเอเชีย ที่มีลุ้นคว้าอีกหนึ่งเหรียญทองได้เช่นกัน

 

สรุปการแถลงข่าวความพร้อมมีทเดอะเพรส กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ความคาดหวังของทัพนักกีฬาไทย มีดังนี้ มวยสากล 5 ทอง, แบดมินตัน 2 ทอง, ยิมนาสติก 1 ทอง, คูราช 3 ทอง, ยูยิตสู 2 ทอง, ยูโด 2 ทอง, มวยปล้ำ 2 ทอง, ฟุตบอล-ฟุตซอล 4 ทอง, กีฬาทางน้ำ (ว่ายน้ำ-กระโดดน้ำ-ว่ายน้ำตีนกบ) 3 ทอง, ยิงธนู 2 ทอง, บาสเกตบอล 3 ทอง, ฟันดาบ 2 ทอง, ปันจักสีลัต 1 ทอง, เปตอง 3 ทอง

วอลเลย์บอล (ชายหาด-ในร่ม) 2 ทอง, เซปักตะกร้อ 5 ทอง, มวย 5 ทอง, เพาะกาย 3 ทอง, โบว์ลิ่ง 1 ทอง, แฮนด์บอล 2 ทอง, จักรยาน 2 ทอง, ยกน้ำหนัก 1 ทอง, เทเบิลเทนนิส 2 ทอง, บิลเลียด 1 ทอง, อีสปอร์ต 3 ทอง, เทควันโด 3 ทอง, คาราเต้ 2 ทอง, วูซู 1 ทอง, กรีฑา 12 ทอง, เทนนิส 2 ทอง, ลีลาศ 3 ทอง, กอล์ฟ 4 ทอง, ยิงปืน 6 ทอง, ยิงเป้าบิน 4 ทอง, เรือพาย กรรเชียง 4 ทอง คยัค-แคนู 4 ทอง, หมากรุกเซี่ยงฉี 1 ทอง, คิกบ็อกซิ่ง 4 ทอง และโววีนั่ม 3 ทอง รวมทั้งหมด 40 ชนิดกีฬา ทัพไทยตั้งความหวังไว้ทั้งสิ้น 116 เหรียญทอง

ย้อนกลับไปดูผลงาน 10 ครั้งหลังสุดของทัพนักกีฬาไทย*กัวลาลัมเปอร์ 2001 (อันดับ 2 / 103 ทอง 86 เงิน 89 ทองแดง) ฮานอย-โฮจิมินห์ ซิตี้ 2003 (อันดับ 2 / 90 ทอง 93 เงิน 98 ทองแดง) มะนิลา 2005 (อันดับ 2 / 87 ทอง 78 เงิน 118 ทองแดง) นครราชสีมา 2007 (อันดับ 1 / 183 ทอง 123 เงิน 103 ทองแดง) เวียงจันทน์ 2009 (อันดับ 1 / 86 ทอง 83 เงิน 97 ทองแดง)

จาการ์ตา-ปาเล็มบัง 2011 (อันดับ 2 / 109 ทอง 100 เงิน 120 ทองแดง) เนปิดอว์ 2013 (อันดับ 1 / 107 ทอง / 94 เงิน 81 ทองแดง) สิงคโปร์ 2015 (อันดับ 1 / 95 ทอง 83 เงิน 69 ทองแดง) กัวลาลัมเปอร์ 2017 (อันดับ 2 / 72 ทอง 86 เงิน 88 ทองแดง) มะนิลา 2019 (อันดับ 3 / 92 ทอง 103 เงิน 123 ทองแดง)

มารอให้กำลังใจทัพนักกีฬาไทยกัน 12-23 พฤษภาคมนี้ ว่าจะสามารถกวาดเหรียญทองมาได้ตรงตามเป้าหมายหรือไม่ •