เมื่อ ‘ไทเกอร์’ คัมแบ๊ก (อีกครั้ง) / Technical Timeout : SearchSri

Technical Timeout

SearchSri

 

เมื่อ ‘ไทเกอร์’ คัมแบ๊ก (อีกครั้ง)

 

การตัดสินใจเข้าร่วมแข่งขันกอล์ฟเมเจอร์แรกของปี เดอะ มาสเตอร์ส ของ ไทเกอร์ วู้ดส์ อดีตโปรกอล์ฟหมายเลข 1 ของโลกชาวอเมริกัน กลายเป็นเหตุการณ์สำคัญที่สื่อและแฟนกีฬาทั่วโลกจับตาดู

เพราะนี่เป็นครั้งแรกในรอบ 14 เดือนที่ไทเกอร์ลงแข่งขันรายการปกตินับตั้งแต่ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำที่ลอสแองเจลิสเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว

จากคำบอกเล่าจากปากของเจ้าตัวเอง การคัมแบ๊กครั้งนี้เหลือเชื่อกว่าที่หลายคนคิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ได้เห็นสภาพของเขาหลังประสบอุบัติเหตุ

ขณะเกิดเหตุนั้น สื่อบรรยายว่า รถของไทเกอร์พลิกหลายตลบจากถนนไถลไปข้างทาง ตัวของเขาติดอยู่ในรถ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องตัดถ่างช่วยดึงออกมา โดยอดีตโปรมือ 1 โลก ได้รับบาดเจ็บหนักที่ขาขวาตั้งแต่เข่าลงไป ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า ช่วงรักษาตัวแรกๆ นั้น อย่าว่าแต่กลับมาเล่นกอล์ฟเลย เขาไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าจะยังสามารถยืนด้วยขาทั้ง 2 ข้างของตัวเองได้หรือไม่ เพราะสภาพบาดแผลแย่เสียจนหวั่นว่าแพทย์จะตัดขาทิ้งเสียด้วยซ้ำ!

ในช่วงการฟื้นฟู ไทเกอร์ต้องผ่านการรักษาด้วยความเย็นเพื่อรักษาสภาพขาให้กลับมาเป็นปกติ ซึ่งเจ้าตัวปรารภว่าบางครั้งก็เย็นเฉียบจนแทบแข็งตาย พอเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติจึงเริ่มฝึกใช้งาน ทำกายภาพบำบัดเพื่อให้กลับมาเดินได้อีกครั้ง

แต่ละขั้นตอนล้วนเป็นไปอย่างยากลำบากและบั่นทอนจิตใจ แต่เพราะความทุ่มเทของทีมแพทย์ กำลังใจจากครอบครัว และความมุ่งมั่นตั้งใจของเจ้าตัวเอง

ในที่สุดไทเกอร์ก็เรียกเสียงฮือฮาด้วยการลงแข่งขันกอล์ฟรายการพิเศษ พีเอ็นซี แชมเปี้ยนชิพ พร้อมกับ ชาร์ลี ลูกชาย และคว้าอันดับ 2 มาครองได้อย่างน่าทึ่ง

 

อย่างไรก็ตาม โปรวัย 46 ปี ออกตัวเมื่อต้นปีนี้ว่า โอกาสจะกลับมาแข่งขันพีจีเอทัวร์ทันรายการเดอะ มาสเตอร์ส ที่ตัวเองเป็นอดีตแชมป์ 5 สมัยนั้นเป็นไปได้ยาก เพราะยังไม่รู้ว่าสภาพร่างกายจะพร้อมสำหรับการเดินลุย 18 หลุมตลอด 4 วันหรือไม่

แต่แล้วไทเกอร์ก็ทำเซอร์ไพรส์ด้วยการไปซ้อมที่สนามออกัสต้า สังเวียนแข่งขันเดอะ มาสเตอร์ส เพื่อประเมินว่าจะร่วมแข่งได้หรือไม่ ก่อนตัดสินใจเข้าร่วมในที่สุด

การกลับมาของไทเกอร์ในครั้งนี้ เพื่อนนักกอล์ฟต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ถ้าใครสักคนจะกลับมาแข่งขันได้หลังประสบอุบัติเหตุหนักขนาดนั้น ก็คงจะเป็นไทเกอร์ วู้ดส์ คนนี้

ขณะที่สื่อและแฟนๆ ตื่นเต้นยินดีกับการคัมแบ๊กของเขาอย่างมาก เพราะโหยหา “สตาร์ เพาเวอร์” ที่ขาดหายไปในวงการตั้งแต่เขาไม่ได้ลงแข่งขันสม่ำเสมอเหมือนเดิม

ไทเกอร์ในช่วงพีกถือเป็นแชมป์ระดับไร้เทียมทาน ลงแข่งขันรายการไหนก็ได้ลุ้นรายการนั้น ฝีมือเหนือชั้นกว่าคนอื่นๆ ไป 1-2 ขั้น และมีออร่าความเป็นสตาร์แบบ “เหนือมนุษย์” ที่ทำให้แฟนๆ และสื่อพากันยกเขาอยู่เหนือคนอื่นๆ

กระทั่งไทเกอร์ประสบปัญหาส่วนตัวในปี 2009 ต่อเนื่องด้วยอาการบาดเจ็บเรื้อรัง โดยเฉพาะที่หลัง ทำให้ผลงานในสนามของเขาวูบวาบ และหายหน้าจากวงการเป็นระยะๆ

แต่ไทเกอร์ก็ยังเป็นไทเกอร์ เขาเริ่มกลับมาคว้าแชมป์ได้ในปี 2012-2013 พร้อมกับแคแร็กเตอร์ที่ต่างจากเดิม ด้วยบุคลิกที่มีความเป็นมนุษย์จับต้องได้ ยิ้มเก่งขึ้น คุยเก่งขึ้น แสดงความรู้สึกออกมาอย่างตรงไปตรงมามากขึ้น จนเอาชนะใจแฟนๆ กับสื่อได้อีกครั้ง

 

หลังจากนั้นเมื่อปัญหาบาดเจ็บรุมเร้าอีกระลอก ขณะที่ใครๆ คิดว่ายอดโปรผู้ไร้เทียมทานจะจบแค่นี้ เขาก็เรียกเสียงฮือฮาด้วยการคว้าแชมป์มาสเตอร์สในปี 2019 เป็นแชมป์เมเจอร์แรกในรอบ 11 ปี เป็นแชมป์เมเจอร์หนที่ 15 ห่างจากสถิติสูงสุดของ แจ๊ก นิคลอส ตำนานวงสะวิงชาวอเมริกันเพียง 3 รายการ ก่อนมาคว้าแชมป์ โซโซ แชมเปี้ยนชิพ ในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน ทำสถิติครองแชมป์พีจีเอทัวร์ 82 รายการ เทียบเท่าสถิติสูงสุดของ แซม สนีด ตำนานผู้ล่วงลับ

หลายครั้งที่โดนมองข้าม ไทเกอร์มักจะกลับมาเรียกเสียงฮือฮาด้วยผลงานสำคัญๆ จึงไม่น่าแปลกใจที่ใครๆ ต่างเฝ้ารอด้วยความคาดหวังว่าเขาจะก้าวข้ามอุปสรรคกลับมาได้อีกครั้ง

แค่ความเป็นสตาร์ของเขาคนเดียวก็ทำให้วงการกอล์ฟโลกกลับมาคึกคักได้อย่างง่ายดาย แฟนๆ เฝ้าติดตาม สื่อเกาะสถานการณ์ สปอนเซอร์ก็พร้อมให้การสนับสนุน เรียกว่าวิน-วินกันทุกฝ่าย

เพื่อนนักกอล์ฟด้วยกันก็ชอบใจ เพราะนอกจากจะเอาใจช่วยให้ตำนานมีชีวิตคนนี้สร้างปรากฏการณ์ได้อีกครั้งแล้ว การที่ทุกคนพุ่งความสนใจไปที่ไทเกอร์ ยังช่วยลดแรงกดดันของนักกอล์ฟคนอื่นๆ ได้มาก

 

และแน่นอนว่าสำหรับตัวไทเกอร์ วู้ดส์ เอง การกลับมาครั้งนี้ย่อมมีความหมายอย่างที่สุด

ไม่สำคัญว่าผลลัพธ์ที่ออกมาจะเป็นอย่างไร

เพราะแค่ได้กลับมายืนด้วยขาทั้ง 2 ข้าง และทำสิ่งที่รักที่สุดต่อไปได้

นั่นก็ถือเป็นของขวัญล้ำค่าอย่างยิ่งแล้ว •