Technical Timeout

SearchSri

 

นับหนึ่งแชมป์แรก

กับก้าวที่มั่นคงของ ‘โปรจีน’

 

แชมป์แอลพีจีเอทัวร์หนแรกในชีวิตของ “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล จากศึก เจทีบีซี คลาสสิค ปลายเดือนมีนาคม ไม่ถือว่าเหนือความคาดหมายสำหรับสื่อกอล์ฟระดับโลกแต่อย่างใด

เพราะว่ากันตามจริง ก่อนฤดูกาลกอล์ฟหญิงปีนี้จะเปิดฉาก กูรูหลายคนก็คาดการณ์ไว้แล้วว่า โปรจีนจะคว้าแชมป์ได้ อยู่ที่ว่าจะช้าหรือเร็วเท่านั้น

วงการกอล์ฟโลกเห็นฝีไม้ลายมือของสาวไทยจาก จ.ราชบุรี มาตั้งแต่สมัยเป็นมือสมัครเล่น กับสถิตินักกอล์ฟอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์กอล์ฟอาชีพไม่ว่าชายหรือหญิง หลังจากคว้าชัยในศึกเลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ทัวร์ (LET) รายการ เลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ ที่ไทย เมื่อปี 2017 ขณะอายุ 14 ปี 4 เดือน 19 วัน ซึ่งสถิติดังกล่าวยังยืนยงมาถึงปัจจุบัน

สาวน้อยมหัศจรรย์จากไทยยังคว้าแชมป์รายการเดิมได้เมื่อปี 2019 ขณะยังเป็นมือสมัครเล่นเช่นกัน

จากนั้นปีถัดมาจึงเทิร์นโปรและเข้าร่วม LET (เนื่องจากอายุยังไม่ถึงเล่นในแอลพีจีเอ) แต่ติดสถานการณ์ โควิด จึงปักหลักเล่นในไทย ก่อนออกทัวร์ LET เต็มตัวเมื่อปีที่แล้ว

โปรจีนโชว์ฟอร์มร้อนแรงเขย่าวงการกอล์ฟหญิงยุโรปเมื่อคว้า 2 แชมป์ และติดท็อป 10 ถึง 14 รายการ จบปีด้วยการกวาดรางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยม, นักกอล์ฟหน้าใหม่ยอดเยี่ยม และ “เรซ ทู คอสตา เดล โซล” สำหรับนักกอล์ฟที่ทำเงินรางวัลสูงสุดของทัวร์

พอจบปี โปรจีนลงแข่งขัน “คิว ซีรีส์” ซึ่งเป็นรายการคัดเลือกของแอลพีจีเอทัวร์ และคว้าอันดับ 3 มาครอง พร้อมสิทธิเมมเบอร์เต็มตัว

ก่อนฤดูกาลกอล์ฟหญิงปีนี้จะเปิดฉาก สื่อกอล์ฟระดับโลกหลายเจ้ายกให้โปรจีนเป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะคว้ารางวัล “รุกกี้ ออฟ เดอะ เยียร์” สำหรับนักกอล์ฟปีแรกที่ทำผลงานดีที่สุด

บางเจ้า อาทิ กอล์ฟ แชนเนล ถึงขั้นใส่ชื่อโปรจีนเป็นหนึ่งในนักกอล์ฟลุ้นแชมป์ระดับเมเจอร์ 2 รายการในยุโรปอย่าง วีเมนส์ บริติช โอเพ่น และ ดิ เอวิยอง แชมเปี้ยนชิพ ด้วยซ้ำ

ส่วนแชมป์แรกในทัวร์สูงสุดของนักกอล์ฟหญิงนั้น ด้วยดีกรีและผลงานที่ผ่านๆ มา บรรดาสื่อกอล์ฟพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า โปรจีนจะทำได้แน่นอน แต่ไม่คิดว่าจะทำได้เร็วขนาดนี้ เพราะเจทีบีซี คลาสสิค เพิ่งเป็นรายการที่ 5 ของโปรจีนหลังได้ทัวร์การ์ดเต็มตัว และเป็นรายการที่ 19 นับตั้งแต่เข้าร่วมมาจากอดีตถึงปัจจุบัน

ด้วยวัย 19 ปี 1 เดือนเศษ โปรจีนเป็นแชมป์แอลพีจีเอทัวร์อายุน้อยสุดนับตั้งแต่ บรู๊ก เฮนเดอร์สัน โปรแคนาเดียนทำได้เมื่อปี 2016 และผลงานที่ร้อนแรงต่อเนื่องก็ทำให้โปรจีนก้าวกระโดดจากอันดับ 14 ขึ้นไปเป็นอันดับ 5 ของโลก

และเป็นนักกอล์ฟไทยที่อันดับโลกสูงสุดเวลานี้

 

หนึ่งในสิ่งที่โปรจีนได้รับคำชื่นชมอย่างมากจากกูรูและนักวิจารณ์คือ การก้าวไปข้างหน้าทีละสเต็ปอย่างมีลำดับขั้นตอน ไม่รีบร้อนหรือข้ามขั้น

ช่วงเทิร์นโปรใหม่ๆ เมื่ออายุยังไม่ถึงแข่งแอลพีจีเอทัวร์ ก็ไปเก็บประสบการณ์จากเลดี้ส์ ยูโรเปี้ยนทัวร์ (LET) พอฤดูกาลแรกใน LET เจออุปสรรคโควิด ก็เลือกปักหลักที่ไทย ไม่เดินทางไปๆ มาๆ กับยุโรป และกวาดแชมป์มากมายในไทยเป็นการ “อุ่นเครื่อง”

ฤดูกาลแรกเต็มตัวใน LET เมื่อปีที่แล้ว โปรจีนหวุดหวิดจะได้แชมป์รายการของแอลพีจีเอทัวร์ ในศึก ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ซึ่งถ้าทำได้ก็จะได้ทัวร์การ์ดอัตโนมัติทันที แต่สุดท้ายโปรจีนได้อันดับ 2 โดยพ่ายให้ “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล โปรสาวรุ่นพี่ ดีกรีอดีตมือ 1 ของโลก

มาปีนี้ เริ่มต้นปี โปรจีนใช้เวลาในการปรับตัวหลังเปลี่ยนไม้ โดยย้ำเสมอว่า ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป ต้องเล่นอย่างอดทน รักษาโมเมนตัม และในช่วงที่เฉี่ยวไปเฉี่ยวมา เกือบจะคว้าแชมป์หลายครั้ง โปรจีนก็บอกว่า อาจจะเสียดาย แต่ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน เพราะตัวเองอายุยังน้อย ยังมีเวลาอีกมากมาย และอยากจะเล่นไปอีกยาวๆ มากกว่า

เรียกว่าเตรียมตัวเตรียมใจมาแล้วอย่างดี แถมพรสวรรค์ก็เป็นที่ยอมรับ ตอนนี้หลังจากคว้าแชมป์แรกได้อย่างรวดเร็วแล้ว นิตยสารดังอย่าง กอล์ฟ ไดเจสต์ บอกว่า การนับหนึ่งนี้เป็นแค่ “พรีวิว” ของอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่จะตามมา

รอติดตามกันได้เลย! •