‘ความสุข’ เคล็ด(ไม่)ลับความสำเร็จ กีฬาฤดูหนาวของชาวนอร์เวย์ / Technical Timeout : จริงตนาการ

Technical Timeout

จริงตนาการ

[email protected]

 

‘ความสุข’ เคล็ด(ไม่)ลับความสำเร็จ

กีฬาฤดูหนาวของชาวนอร์เวย์

 

กีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2022 ฤดูหนาว ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ได้สิ้นสุดลงแล้ว นอร์เวย์ ชาติที่มีประชากรประมาณ 5.4 ล้านคน คว้าเจ้าเหรียญทองไปด้วยผลงาน 16 เหรียญทอง เป็นแชมป์ 2 สมัยติดต่อกัน และเป็นแชมป์สมัยที่ 9

น่าสนใจมากว่า ทำไมนอร์เวย์ที่มีประชากรไม่มาก ถึงครองแชมป์ในหลายต่อหลายครั้ง เหนือชาติที่มีศักยภาพทางกีฬาสูง แม้แต่จีน, รัสเซีย, สหรัฐอเมริกา, เยอรมนี ก็ยังเทียบไม่ได้

เหตุผลที่ว่านอร์เวย์มีภูมิประเทศที่เอื้อกับการเล่นกีฬาฤดูหนาว ก็ฟังขึ้น

แต่ประเทศอย่างสวีเดน, ออสเตรีย, สวิตเซอร์แลนด์ ที่มีภูมิประเทศในลักษณะใกล้เคียงกัน แถมยังมีประชากรมากกว่า ทำไมถึงไม่สามารถทำผลงานได้แบบเดียวกับที่นอร์เวย์ทำ

มีการแซวกันแบบขำๆ ว่า คนนอร์เวย์เกิดมาก็มีสกีติดเท้าออกมาด้วยเลย

แต่ถ้าพิจารณาจากกีฬายอดนิยมในประเทศ ก็คงต้องบอกว่าสกีครอสคันทรี และไบแอธลอน เป็นที่นิยมมากในนอร์เวย์ มีการถ่ายทอดสดการแข่งขันอย่างจริงจัง มีสโมสรระดับท้องถิ่นกว่า 10,000 แห่ง

ผลสำรวจเมื่อปี 2018 พบว่า เด็กๆ นอร์เวย์มากถึง 93 เปอร์เซ็นต์ เล่นกีฬาฤดูหนาว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศแห่งดินแดนสแกนดิเนเวียมีทรัพยากรทางกีฬาที่แข็งแกร่ง ทดแทนกันได้ตลอด

เด็กหลายคนมีฝันที่จะก้าวขึ้นไปเป็นนักกีฬาทีมชาติที่จะไปประสบความสำเร็จในโอลิมปิก

 

มอนส์ รอสลันด์ นักกีฬาสโนว์บอร์ดทีมชาตินอร์เวย์ เจ้าของเหรียญเงินในปักกิ่ง 2022 กล่าวว่า ถึงแม้ว่าประเทศของพวกเขาจะมีประชากรไม่มาก แต่กลับมีนักกีฬาจำนวนมาก ซึ่งนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จต่างก็เป็นแรงบันดาลใจชั้นดีในการส่งเสริมให้คนอื่นๆ พยายามก้าวขึ้นมาประสบความสำเร็จแบบพวกเขา

กีฬาฤดูหนาวที่นอร์เวย์คว้าแชมป์อย่างเป็นกอบเป็นกำมาเสมอ คือ สกีและไบแอธลอน (สกีครอสคันทรีและยิงปืนไรเฟิล) 16 เหรียญทองในปักกิ่ง 2022 มาจากกีฬาประเภทสกีต่างๆ และไบแอธลอน 15 เหรียญ อีกเหรียญทองมาจากสปีด สเก็ตติ้ง

คู่แข่งในชาติอื่นๆ ต่างรู้ดีว่านอร์เวย์มีของดีที่สกีและไบแอธลอน ทำให้มีการส่งนักกีฬาไปฝึกซ้อมในนอร์เวย์เพื่อดูดเทคนิคและยกระดับตัวเองให้เทียบชั้นกับนักกีฬาขั้นเทพของดินแดนพระอาทิตย์เที่ยงคืนให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษหรือสหรัฐอเมริกา

ลุก โบเดนสไตเนอร์ ผู้อำนวยการกีฬาของสมาคมสกีและสโนว์บอร์ด สหรัฐอเมริกา กล่าวว่า หลังจากที่ได้เห็นผลงานของนักกีฬานอร์เวย์ในพยองชาง 2018 ก็ได้บอกกับทีมงานว่าจะต้องไปดูให้เห็นกับตาว่าพวกเขาทำได้ดีขนาดนี้ได้อย่างไร

โบเดนสไตเนอร์พบว่า นอร์เวย์มีการทดลองซ้ำๆ กับเทคนิคต่างๆ ของนักกีฬาด้วยวิทยาศาสตร์การกีฬาอย่างเข้มข้น ไม่ใช่แค่กีฬาฤดูหนาว แต่กีฬาในโอลิมปิกเกมส์ ฤดูร้อน พวกเขาก็จริงจังมากเช่นกัน

ซึ่งเห็นผลได้ชัดเจนจากการที่มีนักกรีฑาคว้าเหรียญทอง วิ่งข้าวรั้ว 400 เมตรชาย และ 1,500 เมตรชาย ในโตเกียว 2020 มาครองได้นั่นเอง

 

เรื่องของวัฒนธรรมก็เป็นส่วนสำคัญในการรักษาความยอดเยี่ยมของกีฬาประจำชาติเอาไว้ได้ นอร์เวย์มีเทศกาลสกีโฮลเคนโคลเลน ที่มีมาตั้งแต่ปี 1982 เป็นการแข่งขันสกีสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น แต่ก็อนุญาตให้เด็กๆ ไปร่วมแข่งขันได้ ซึ่งไม่มีการนับเวลาของเด็ก

อัตเล่ แม็กกรัธ นักสกีชาวนอร์เวย์ ลูกชายของ เฟลิกซ์ แม็กกรัธ นักสกีที่เคยแข่งขันในวินเตอร์ โอลิมปิก 1988 มาก่อน บอกว่า ไม่ว่าคุณจะเล่นสกีเก่งหรือไม่ แต่การได้แข่งในโฮลเคนโคลเลน ถือเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด

อีกเรื่องที่น่าสนใจของการปั้นนักกีฬานอร์เวย์ คือ การสร้างสมดุลในเรื่องของชีวิตกับกีฬา

เด็กๆ นอร์เวย์จะไม่ถูกกดดันให้จริงจังกับกีฬาที่ชอบตั้งแต่อายุยังน้อย พวกเขาจะมีเวลาในการวิ่งเล่น ทดลองสนุกกับหลายๆ อย่างจนเจอสิ่งที่ตัวเองรัก เพราะการดูแลประชากรของนอร์เวย์ต้องการให้ทุกคนมีความสุข ใช้ชีวิตแบบรักษาสุขภาพ

แต่ถ้ารู้สึกว่ารักกีฬานั้นอย่างจริงจัง เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ก็จะสามารถเข้าไปสู่โปรแกรมพัฒนาอย่างจริงจังได้

เรียกง่ายๆ ว่า นอร์เวย์ใช้ความสุขเป็นตัวตั้งในทุกๆ เรื่อง เพราะเมื่อมีความสุขกับอะไรแล้ว ก็จะทำมันได้ดี

นี่คือเคล็ดไม่ลับที่ทำตามไม่ง่ายของนักกีฬานอร์เวย์