ไทม์เอาต์/SearchSri / ‘โอเล่’ ไป แล้วไงต่อ?

(FILES) In this file photo taken on September 14, 2021 Manchester United's Norwegian manager Ole Gunnar Solskjaer gestures at the end of the UEFA Champions League Group F football match between Young Boys and Manchester United at Wankdorf stadium in Bern. - Manchester United ended Ole Gunnar Solskjaer's three-year reign as manager at Old Trafford on November 21, 2021, following a run of one win in seven Premier League games. "Manchester United announces that Ole Gunnar Solskjaer has left his role as Manager," the club said in a statement. "Ole will always be a legend at Manchester United and it is with regret that we have reached this difficult decision." (Photo by Fabrice COFFRINI / AFP)

ไทม์เอาต์/SearchSri

‘โอเล่’ ไป แล้วไงต่อ?

 

นับเป็นบทสรุปที่ไม่เกินความคาดหมายแต่อย่างใดสำหรับการตัดสินใจปลด โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ออกจากตำแหน่งกุนซือของสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

อันที่จริงต้องถือว่าจังหวะเวลาดูจะเก้ๆ กังๆ เกินไปเสียด้วยซ้ำ เพราะนักวิจารณ์และแฟนบอลหลายคนมองว่าควรจะมีจังหวะการปลดโค้ชที่เหมาะสมกว่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากพ่ายให้ ลิเวอร์พูล คาบ้าน 0-5 เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม หรือแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-2 แบบหมดทางสู้เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน

หากปลดโซลชาร์ช่วงนั้น โดยเฉพาะก่อนเบรกทีมชาติ อย่างน้อยก็ยังมีเวลา 1 สัปดาห์เศษช่วงพักทีมชาติในการเฟ้นหาโค้ชใหม่ และให้โค้ชใหม่ได้มีเวลาทำความรู้จักกับสโมสร ระบบการทำงาน ได้พบหน้านักเตะ (บางส่วน) และสื่อสารกับลูกทีมและสตาฟฟ์โค้ชเพื่อถ่ายทอดปรัชญาการทำทีมและวิสัยทัศน์

เท่านั้นไม่พอ ช่วงที่ยึกๆ ยักๆ ว่าจะปลดไม่ปลดอยู่นั้น หนึ่งในกุนซือเป้าหมายอันดับ 1 ของปีศาจแดงอย่างอันโตนิโอ คอนเต้ ก็มาโดนท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ที่ปลดนูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต ไปก่อนหน้านั้น ตัดหน้าเซ็นสัญญาไปเสียอีก

 

ข่าววงในบอกว่า จริงๆ คอนเต้อยากคุมแมนฯ ยูมากกว่า เพราะ “วัตถุดิบ” อย่างคุณภาพนักเตะโดยรวมนั้นเหนือกว่าสเปอร์ส น่าจะใช้เวลาไม่นานในการคุมทีมเพื่อลุ้นสร้างผลงาน ขณะที่การคุมสเปอร์สต้องเหนื่อยกว่าก่อนที่ทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทาง

อย่างไรก็ตาม ข่าวบอกว่า ผู้บริหารแมนฯ ยูไม่ได้วางตัวคอนเต้เป็นเป้าหมายที่ต้องการ และไม่ได้ติดต่อหาเขาจริงๆ จังๆ สุดท้ายอดีตกุนซือดังชาวอิตาเลียนเลยตอบรับงานคุมไก่เดือยทองแทน

สาเหตุที่ผู้บริหารผีไม่ค่อยอยากได้คอนเต้นั้น หลายคนวิเคราะห์ว่า สไตล์ของครอบครัวเกลเซอร์ เจ้าของทีม ไม่ชอบโค้ชที่แข็งข้อหรือคุมยาก ขณะที่คอนเต้ขึ้นชื่อเรื่องความหัวแข็ง ยอมหักไม่ยอมงออยู่แล้ว

และว่ากันว่าคุณสมบัติข้อนี้อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้โซลชาร์คุมทีมได้ยาวเกือบ 3 ปีเต็ม แม้ว่าในช่วงหลังผลงานจะวูบวาบแบบน่าใจหายก็ตาม

 

ข้อดีข้อหนึ่งของโซลชาร์คือความเป็นคนอารมณ์เย็น ไม่ค่อยมีปัญหากับใคร เขามักปกป้องลูกทีม ไม่เคยมีข่าวว่ามีปัญหาทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องงานเบื้องหลัง อีกทั้งยังมีสถานะเป็นตำนานสโมสรตั้งแต่สมัยเป็นนักเตะ จึงได้รับการนับถือและหนุนหลังจากคนในสโมสรหลายคนซึ่งรวมถึง เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือที่เป็นนายใหญ่ของโซลชาร์สมัยเป็นนักเตะ

หลังจากลองผิดลองถูกกับโค้ชอนาคตไกลอย่าง เดวิด มอยส์ รวมถึง 2 กุนซือมากประสบการณ์อย่าง หลุยส์ ฟาน กัล และ โชเซ่ มูรินโญ่ แล้ว แมนฯ ยูตัดสินใจเลือกโซลชาร์คุมทัพเพื่อ “ปลุกผี” จากคนที่มี “ดีเอ็นเอ” ของสโมสรโดยตรง

ผลลัพธ์ช่วงแรกถือว่าน่าพอใจ โซลชาร์พาทีมจบอันดับ 3 และ 2 ของตาราง รวมถึงเข้าชิงยูโรป้าลีกฤดูกาลก่อน

แต่ผ่านไปเกือบ 3 ปี นอกจากจะไม่มีแชมป์ติดมือแล้ว แมนฯ ยูยุคของเขายังโดนวิจารณ์เรื่องเล่นบอลไม่มีทรง สะเปะสะปะ กล้าๆ กลัวๆ ทั้งที่ถ้าวัดชื่อชั้นของนักเตะเป็นรายบุคคล ควรจะทำได้ดีกว่านี้

ในทางหนึ่งนั้น มีคนตั้งคำถามว่า ความใจเย็นประนีประนอมของเขาเป็นดาบสองคมหรือไม่?

จนถึงตอนนี้ยังมีคนสงสัยว่า การที่สโมสรดึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กลับสู่ถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ดอย่างฉุกละหุก นอกแผนซื้อ-ขายในตลาดซัมเมอร์ที่ผ่านมา ทำให้เขาต้องปรับระบบการเล่นอย่างกะทันหันเพื่อใช้งานโรนัลโด้ จนทุกอย่างรวนไปหมดหรือเปล่า?

 

สําหรับว่าที่กุนซือใหม่ของแมนฯ ยูนั้น ตอนนี้ข่าวยังมาหลายกระแส เต็งหนึ่งคือ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ อดีตกุนซือสเปอร์สที่ปัจจุบันคุม ปารีส แซงต์แชร์แมง

“พอช” คือคนที่เฟอร์กี้อยากได้ตัวไปสืบทอดตำแหน่งสูสีมากับมอยส์ในยุคหนึ่ง และตัวเขาเองก็อยากร่วมงานกับปีศาจแดงเช่นกัน แถมรู้จักบอลอังกฤษเป็นอย่างดี มีผลงานสร้างทีมระดับกลางอย่างสเปอร์สขึ้นมาถึงขั้นลุ้นแชมป์ลีกและแชมป์ยุโรปได้

แต่กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ยังไม่เคยมีแชมป์ใดๆ มาเป็นเครื่องการันตี แถมผลงานการคุมเปแอสเชตอนนี้ก็น่ากังขา

ส่วนชอยส์อื่นตอนนี้ไม่มีใครอยากมารับเผือกร้อนสักเท่าไร ทั้ง ซีเนอดีน ซีดาน และ หลุยส์ เอ็นริเก้ ที่ต่างไม่คุ้นเคยกับพรีเมียร์ลีก ขณะที่ โลร็องต์ บล็องก์ อดีตกองหลังผีอยากลองชิมลางในฐานะกุนซือขัดตาทัพดูก่อน

อีกชื่อที่เป็นข่าวคือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส อดีตโค้ชลิเวอร์พูลที่คุมเลสเตอร์ ซิตี้ เวลานี้ แต่ติดตรงจิ้งจอกสยามยังไม่อยากปล่อย และแฟนๆ เองก็ยังไม่เชื่อฝีมือนัก

เรียกว่าจังหวะเวลาต่างๆ ของแมนฯ ยูช่างไม่เป็นใจเอาเสียเลย สาเหตุหนึ่งก็คงเพราะผู้บริหารปล่อยให้สถานการณ์ย่ำแย่ยืดเยื้อจนปัญหาเริ่มสุมเป็นกองใหญ่ จะหาใครมาช่วยแก้ไขก็ยากขึ้น

เหมือนทำงานกันแบบไม่ได้วางแผนล่วงหน้าจนสภาพเละเทะอย่างที่เห็น