เขย่าสนาม / เมอร์คิวรี่ /บทพิสูจน์ทัพไทยตะลุยโตเกียว การต่อสู้ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19

เขย่าสนาม/เมอร์คิวรี่ [email protected]

บทพิสูจน์ทัพไทยตะลุยโตเกียว

การต่อสู้ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19

 

ทัพนักกีฬาทีมชาติไทยมีศึกใหญ่ในการเข้าร่วมมหกรรมกีฬาโอลิมปิก โตเกียว 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ช่วง 23 กรกฎาคม-8 สิงหาคมนี้ โดยภารกิจสำคัญคือ การไล่ล่าเหรียญทองที่แฟนกีฬาไทยต่างเฝ้ารอคอยมานานกว่า 5 ปีหลังเกิดสถานการณ์วิกฤตโควิด-19

สำหรับนักกีฬาไทยเข้าร่วมชิงชัย 41 คนจาก 14 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย เรือใบ-วินด์เซิร์ฟ, เรือพาย, ว่ายน้ำ, กรีฑา, เทควันโด, ยูโด, ยิงปืน, ยิงเป้าบิน, เทเบิลเทนนิส, มวยสากล, กอล์ฟ, แบดมินตัน, จักรยาน และขี่ม้า โดยที่ “เหลิม” ธิติสรรค์ ปั้นโหมด นักชกดาวรุ่งจำใจต้องถอนตัวจากอาการบาดเจ็บ

ย้อนกลับไปในโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่นครรีโอ เดจาเนโร ประเทศบราซิล ทัพไทยมีนักกีฬาเข้าร่วมมากถึง 54 คน พร้อมทำผลงานคว้า 2 เหรียญทองจากยกน้ำหนัก รุ่น 48 ก.ก.หญิง “แนน” โสภิตา ธนสาร และรุ่น 58 ก.ก.หญิง “ฝ้าย” สุกัญญา ศรีสุราช รวมทั้ง 1 เหรียญเงินจาก “แต้ว” พิมศิริ ศิริแก้ว รุ่น 58 ก.ก.หญิง และเหรียญทองแดงจาก “ดุ่ย” สินธุ์ เพชรกรวยทอง รุ่น 56 ก.ก.ชาย

นอกจากนี้ เทควันโดได้ 1 เหรียญเงิน จาก “เทม” เทวินทร์ หาญปราบ รุ่น 58 ก.ก.ชาย และ 1 เหรียญทองแดงจาก “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ รุ่น 49 ก.ก.หญิง ส่วนมวยสากลพลาดเหรียญเป็นครั้งแรกในรอบ 32 ปี ทำให้รวมทั้งสิ้น 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง

แต่ในโตเกียว 2020 ยกน้ำหนักที่เป็นกีฬาความหวังเหรียญทองของทัพไทยมาโดยตลอด เจอการลงโทษเกี่ยวกับสารต้องห้าม จนไม่ได้สิทธิเข้าร่วมชิงชัย

ทำให้กีฬาความหวังคว้าเหรียญทองให้ทีมไทยได้มากที่สุดในโอลิมปิก รวมทั้งสิ้น 5 เหรียญทอง หายไปในทันที

 

ความหวังสูงสุดของทัพไทยในโตเกียว 2020 จึงตกไปอยู่ที่กีฬาเทควันโด “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ*จอมเตะสาวเบอร์ 1 โลก รุ่น 49 ก.ก.หญิง ซึ่งกวาดทุกแชมป์ในโลกนี้มาได้หมดแล้ว แต่ขาดเพียงเหรียญทองโอลิมปิก ที่ต้องการกระชากมาคล้องคอหลังจากครั้งก่อนพลาดท่าได้แค่เหรียญทองแดง ทำให้ครั้งนี้เธอมีความมุ่งมั่นตั้งใจเป็นพิเศษ

ขณะที่กีฬาความหวังเหรียญทองชนิดอื่นก็ยังมีแบดมินตัน นำโดย “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ และ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ประเภทคู่ผสม ที่เพิ่งคว้าทริปเปิลแชมป์เวิลด์ทัวร์ เมื่อช่วงต้นปี และหวังยกระดับถึงเหรียญโอลิมปิก รวมทั้ง “เมย์” รัชนก อินทนนท์ นักตบลูกขนไก่สาวไทยที่ลุยโอลิมปิกสมัยที่ 3 พร้อมความหวังคว้าเหรียญสักที

ส่วนยิงเป้าบิน ก็เป็นอีกหนึ่งชนิดกีฬาที่แอบหวังอยู่ลึกๆ กับ “ณี” สุธิยา จิวเฉลิมมิตร นักแม่นปืนสาวที่ทุ่มแรงกาย แรงใจ แรงเงิน กว่า 10 ปี เพื่อล่าเหรียญโอลิมปิกเกมส์ให้ได้สำเร็จ หลังเคยขึ้นเป็นมืออันดับ 1 โลกประเภทสกีตหญิง รวมถึงแชมป์เวิลด์คัพ 2 สมัย และแชมป์เอเชียถึง 4 ครั้ง ซึ่งครั้งนี้ประสบการณ์ที่ผ่านมาจะช่วยให้เธอได้ก้าวไปสู่เป้าหมายสูงสุด

มวยสากล เป็นชนิดกีฬาอันดับ 2 ที่ทัพไทยคว้าเหรียญโอลิมปิกได้ต่อเนื่องในครั้งที่ผ่านๆ มา รวม 4 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน และ 6 เหรียญทอง

แต่โตเกียวเกมส์ครั้งนี้คงเป็นงานหนักของ 4 ขุนพลกำปั้นไทยที่นำโดย “สด” ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี จอมเก๋าวัย 36 ปี รุ่น 57 ก.ก.ชาย, “เฟี้ยว” จุฑามาศ จิตรพงศ์ รุ่น 51 ก.ก.หญิง, “แต้ว” สุดาพร สีสอนดี รุ่น 60 ก.ก.หญิง และ “ครีม” ใบสน มณีก้อน รุ่น 69 ก.ก.หญิง แต่ยังลุ้นว่าจะมีเซอร์ไพรส์

ด้านกอล์ฟ ถูกบรรจุชิงชัยในโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งทัพสะวิงไทยก็มีโอกาสลุ้นติดเหรียญทั้งจาก “โปรเหมียว” ปภังกร ธวัชธนกิจ สาววัย 21 ปีที่เพิ่งคว้าแชมป์เมเจอร์แรกได้เมื่อช่วงต้นปี รวมทั้ง “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล ที่เพิ่งผนึกกำลังกับพี่สาว “โปรโม” โมรียา จุฑานุกาล คว้าแชมป์แอลพีจีเอทัวร์ ประเภททีม ก่อนตบเท้าร่วมดวลสะวิงโอลิมปิก 2020

นอกจากนี้ ยังมีนักกีฬาอีกหลายคนที่ยังมีโอกาสลุ้นเหรียญทั้งเหรียญเงิน หรือเหรียญทองแดง ไม่ว่าจะเป็นคีริน ตันติเวทย์ นักกรีฑาลูกครึ่งไทย-อเมริกัน วิ่ง 10,000 เมตร, “จูเนียร์” รามณรงค์ เสวกวิหารี นักกีฬาเทควันโดรุ่น 58 ก.ก.ชาย, “ดาว” ศิริพร แก้วดวงงาม นักกีฬาวินด์เซิร์ฟ ประเภทอาร์เอสเอ็กซ์หญิง และ “โอ๊ต” ณัฐพงษ์ โพธิ์นพรัตน์ นักกีฬาวินด์เซิร์ฟ ประเภทอาร์เอสเอ็กซ์ชาย และ “ครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ นักแบดมินตันประเภทหญิงเดี่ยว

 

“บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาเเห่งประเทศไทย (กกท.) ระบุว่า นักกีฬาไทยต่างเก็บตัวฝึกซ้อมต่อเนื่องมาตลอดแบบไม่มีพัก แม้โอลิมปิกจะถูกเลื่อนออกไปจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่ง กกท.ก็ได้ให้การสนับสนุน ส่งเสริม และอำนวยความสะดวกให้นักกีฬาไทยทุกคนทุกชนิดกีฬาที่อยู่ในโครงการอย่างเต็มที่ เพื่อให้มีความพร้อมที่สุด

“โอลิมปิกเกมส์ 2020 จัดขึ้นท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 ระบาดในกรุงโตเกียว จนมีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในช่วงแข่งขัน ผมมองว่าจะไม่ส่งผลกระทบกับการจัด โดยนักกีฬา เจ้าหน้าที่ไทยของเราได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 พร้อมทั้งทำประกันภัยโควิด-19 ให้แล้ว ส่วนทางเจ้าภาพญี่ปุ่นจะมีการตรวจเชื้อทุกวัน ก็เชื่อมั่นได้เลยในระดับสูงเลยว่า การแข่งขันจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดีจนจบเกมการแข่งขันได้” บิ๊กก้องกล่าว

“โอลิมปิก นิวนอร์มอล” ในศึกโตเกียว 2020 จะเป็นบทพิสูจน์สำคัญของทัพนักกีฬาไทยในการต่อสู้ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จคว้าเหรียญรางวัลให้ได้

ขณะเดียวกันมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติครั้งนี้ก็จะเป็นบทพิสูจน์สำคัญของวงการกีฬาระดับโลกในการต่อสู้ฝ่าฟันกับวิกฤตโรคอุบัติใหม่ เพื่อก้าวผ่านอุปสรรคครั้งใหญ่นี้ไปด้วยกัน