เปิดไทม์ไลน์ วัคซีนโควิด-วงการกีฬาไทย แผนเพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จในมหกรรมกีฬาโลก

เขย่าสนาม/เมอร์คิวรี่ [email protected]

วัคซีนโควิดผนึกกีฬาไทย

จุดประกายสู่ความสำเร็จ

 

วัคซีนโควิด-19 ล็อตแรกของ ซิโนแวค ไบโอเทค และ แอสตร้าเซนเนก้า กว่า 3 แสนโดสเดินทางมาถึงประเทศไทย และประเดิมฉีดเข็มแรกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้เริ่มคลายความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยอดติดเชื้อรายวันทยอยลดลงในแต่ละวัน…

ในส่วนวงการกีฬาไทยถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มแรกๆ โดยนักกีฬาทีมชาติไทยจะได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการทำภารกิจรับใช้ชาติ ที่จะเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันมหกรรมกีฬาต่างๆ ในต่างประเทศ เพื่อเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในวงการกีฬา

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นหน่วยงานภาครัฐ ได้นำเสนอเรื่องต่อทางคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาลที่จัดสรรวัคซีนโควิด-19 ให้กลุ่มนักกีฬาทีมชาติไทยและเจ้าหน้าที่

ซึ่งได้แบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม รวมกว่า 5,800 คน

 

การแบ่งกลุ่มได้ยึดไทม์ไลน์ช่วงการแข่งขันของแต่ละมหกรรมกีฬา

โดยกลุ่มที่ 1 คือ กลุ่มที่จะต้องเดินทางไปแข่งขันต่างประเทศ เพื่อเก็บคะแนนสะสม หรือควอลิฟายโควต้าเข้าร่วมมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์และพาราลิมปิกเกมส์ ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งกลุ่มนี้จัดเป็นกลุ่มเร่งด่วน และตั้งเป้าว่าจะได้รับวัคซีนในช่วงมีนาคม-เมษายนนี้

ขณะที่กลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มที่จะเดินทางไปทำการแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ และพาราลิมปิกเกมส์ในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายนนี้

ตามด้วยกลุ่มที่ 3 คือ กลุ่มที่จะเดินทางไปแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ในช่วงปลายปีนี้

กลุ่มที่ 4 คือ กลุ่มที่เข้าร่วมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ฤดูหนาว ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ช่วงต้นปี 2565

และกลุ่มที่ 5 คือ กลุ่มที่จะเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์และมาเชียลอาร์ตเกมส์ ในช่วงกลางปี 2565 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ

และกีฬาเอเชี่ยนบีชเกมส์ ที่เมืองไห่หยาง ประเทศจีน ซึ่งยังคงรอยืนยันวันจัดการแข่งขันจากทางสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ)

 

“บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท.ระบุว่า จำนวนยอดของเจ้าหน้าที่และนักกีฬาทั้ง 5 กลุ่มที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 อยู่ที่ราวๆ 5,800 คน หรืออาจจะน้อยกว่านั้น เพราะหากทำการตรวจสอบแล้วก็เชื่อว่านักกีฬาแต่ละรายอาจจะได้รับการจัดสรรการฉีดวัคซีนในโควต้าต่างๆ มาก่อนแล้ว

“นักกีฬากลุ่มแรกที่ต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เบื้องต้นจะได้รับการจัดสรรโควต้าการฉีดวัคซีนในล็อตแรก 200,000 โดสจากประเทศจีน ที่เพิ่งถูกส่งมาถึงไทยเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และได้ฉีดครั้งแรกแล้วเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา” ผู้ว่าการ กกท.กล่าว

ถือเป็นความหวังครั้งสำคัญของวงการกีฬาไทยกับการที่ได้มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในการขับเคลื่อนวงการกีฬาไทยในการเดินหน้าตามไทม์ไลน์ไปสู่มหกรรมกีฬาระดับนานาชาติในอนาคต ซึ่งที่ผ่านมาวงการกีฬาไทยถูกแช่แข็งมานานหลายเดือน

ทำให้หลายๆ กิจกรรม และการแข่งขันกีฬาต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไม่สามารถจัดการแข่งขันได้

 

จากสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อวงการกีฬาโลกและกีฬาไทย โดยเฉพาะในประเทศ ที่กิจกรรมและการแข่งขันกีฬาทั้งหมดต้องถูกเลื่อนหรือยกเลิกไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งทาง กกท.ได้ติดตามและประเมินความเสียหายด้านมูลค่าทางเศรษฐกิจที่สูญเงินไปกว่า 3 หมื่นล้านบาท!

แน่นอนว่ากิจกรรมการแข่งขันกีฬา ทั้งภายในประเทศและแมตช์นานาชาติของแต่ละสมาคมกีฬาและองค์กรกีฬาได้วางแผนเอาไว้ไม่สามารถจัดขึ้นได้ จนส่งผลกระทบต่อเม็ดเงินหมุนเวียนที่จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในด้านการกีฬาให้กับประเทศไทย แต่จากการได้รับวัคซีนโควิด-19 เกิดขึ้นในไทย ทำให้เป็นการจุดประกายครั้งสำคัญให้กับวงการกีฬาไทย

สำหรับสถานการณ์ในปีนี้ กกท.ได้คาดการณ์ว่าจะมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นผลพวงจากการมีวัคซีนโควิด-19 ทำให้วงการกีฬาไทยจะกลับมาขับเคลื่อนได้อีกครั้ง และจะเป็นอีกส่วนหนึ่งในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

โดยได้ประเมินว่าจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนในด้านการกีฬาตลอดรอบปีนี้อยู่ที่ประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท

 

หากสถานการณ์คลี่คลาย วงการกีฬาไทยจะสามารถกลับมาจัดกิจกรรม และการแข่งขันกีฬาต่างๆ ทั้งระดับในประเทศและต่างประเทศ จะทำให้มีผู้เดินทางมาเข้าร่วมภายใต้มาตรการเคร่งครัด และจะช่วยให้วงการกีฬาไทยช่วยสร้างเม็ดเงินให้ไหลเวียนเข้ามาสู่ประเทศได้

ดังนั้น วัคซีนโควิด-19 นับเป็นสัญญาณที่ดีกับประเทศไทยและวงการกีฬาไทย

ตามแผนงานของ กกท.และสมาคมกีฬาต่างๆ ได้วางแผนยุทธศาสตร์ในการดึงทัวร์นาเมนต์กีฬาระดับนานาชาติเข้ามาจัดการแข่งขันในประเทศ เพื่อยกระดับให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางกีฬาโลก ซึ่งจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศไทย รวมทั้งยังจะมีส่วนช่วยกระตุ้นด้านการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจไปได้ในตัวอีกด้วย

วัคซีนโควิด-19 ถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยป้องกันการแพร่กระจายโรค รวมทั้งยังเป็นส่วนช่วยให้วงการกีฬาไทยได้กลับมาเดินหน้าอีกครั้ง ทั้งการที่นักกีฬาไทยจะได้มีโอกาสเดินทางไปแข่งขันในต่างประเทศ การจัดกิจกรรม และการแข่งขันกีฬาต่างๆ ที่จะกลับมาช่วยสร้างความคึกคักได้อีกครั้ง

เชื่อว่าวัคซีนโควิด-19 จะช่วยทำให้วงการกีฬาไทยกลายเป็นอีกส่วนสำคัญในการสร้างเม็ดเงินทางเศรษฐกิจ สร้างสังคมให้มีความสุข รวมทั้งสร้างความสำเร็จ

และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในเวทีกีฬาระดับโลกในอนาคตได้อย่างแน่นอน…