ย้อนวาทะการันตี GT200 อภิสิทธิ์-พรทิพย์-สรรเสริญ หลังบทสรุปศาลอังกฤษสั่งยึดทรัพย์ผู้ผลิต

(Photo by AFP / AFP)

สิ้นเสียงศาลอังกฤษออกคำสั่งเพิ่มเติมให้นำทรัพย์สินที่ยึดมาของ “เจมส์ แมคคอร์มิค” ผู้ผลิตและขาย เครื่องตรวจระเบิดปลอมจีที 200 ออก ชดเชยความเสียหายให้แก่ประเทศต่างๆ ที่เป็นผู้ซื้อ อันนําสู่การฟ้องร้องดําเนินคดีของเหล่าทัพและกรมราชองครักษ์ กับผู้ขายเครื่องเจ้ากรรมดังกล่าว

สายตาสังคมพลันจับจ้องไปยังบาง คนที่เคยเรียงกันมาเป็นขบวนการ “รับประกันคุณภาพ” คุณภาพเครื่องปลอมที่ประเทศไทย ชื้อมาด้วยเงินภาษีแผ่นดินทั้งสิ้นจํานวนเกือบ 1,400 ล้านบาท โดยหน่วย งานของรัฐ 13 แห่ง รวมทั้ง 3 เหล่าทัพ และกรมราชองครักษ์ ซื้อหาไว้รวม 1,358 เครื่อง ในช่วงระหว่างปี 2550-2553

พ.ศ.2556 เจมส์ เมคคอร์มิค ผู้ผลิต และขายเครื่องมือดังกล่าว ถูกศาลอังกฤษตัดสินจำคุก 10 ปี ในข้อหาขาย เครื่องตรวจระเบิดปลอม และสั่งยึดทรัพย์สินมูลค่า 395 ล้านบาท

หมอพรทิพย์ ยันไม่ได้เข้ามายุ่งคดีเอง คุณแม่แตงโมเป็นคนเรียกผ่านสื่อ วอนอย่าเสี้ยม - มติชนสุดสัปดาห์

เครื่องตรวจวัตถุระเบิดปลอมที่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ เคยออกตัวแรงตอบโต้ดุเดือดใส่ทุกคน ที่ออกมาชี้ความไม่มีคุณภาพของมัน ทั้งกล่าวว่าการจะกล่าวหาอะไรก็ขอให้นึกถึงขวัญและกําลังใจของผู้ปฏิบัติ งานและชาวบ้านในพื้นที่ 3 จังหวัด ชายแดนภาคใต้บ้าง ท่านองว่าอย่านั่งอยู่บนหอคอยงาช้างแล้วคอยจับผิดคนทํางาน

การันตีหนักแน่น ว่าเครื่องมือชนิดนี้ มีความแม่นยําาสูงมาก โอกาสผิดพลาดมาจาก 2 ปัจจัยคือ 1.ผู้ใช้มีความเหนื่อยล้า กับ 2.ใส่การ์ดผิดชนิด

สาธกไว้ด้วย “เนื่องจากจีที 200 ใช้ พลังสนามแม่เหล็กจากตัวคนใช้เพื่อ ค้นหาสนามแม่เหล็กของสสารที่ ต้องการตรวจจับ ด้วยเหตุนี้คนใช้งาน ต้องมีร่างกายพร้อม ถ้าเหนื่อยล้าอดนอน หรือไปดื่มเหล้ามา จะใช้ไม่ได้ผลเลย”

รวมถึงที่เขียนไว้ในหนังสือของตัวเอง “จีที 200 คือเครื่องตรวจหาสารวัตถุ ระเบิดที่ผลิตในต่างประเทศมีความ สามารถในการค้นหาสารวัตถุระเบิดได้อย่างดีเยี่ยม เป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยใช้หลักการค้นหาสนามแม่เหล็ก ซึ่งจะสามารถตรวจจับสารวัตถุระเบิดได้ทั้งในอากาศ บนดิน ใต้ดิน หรือกระทั่งได้นํ้า”

แต่วันนี้ปฏิเสธว่าไม่ได้พูดเช่นนั้น โดยระบุ “ไม่เคยบอก ไม่เคยเชื่อว่าจีที 200 ใช้งานได้” และ “ไม่ได้ปกป้องว่า เครื่องนี้ดี แต่คนในสังคมเชื่อง่าย เสพ ข้อมูลจากสื่อที่ใส่สีโดยไม่ฟังความจริงใดๆ

อนึ่ง พญ.คุณหญิงพรทิพย์ เคยดำรงตำแหน่ง สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เคยเป็น ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ทั้งเคยเป็นกรรมการศูนย์อํานวยการ แก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ควบคุมการชุมนุมคนเสื้อแดง

เสียงเดียวกับ “นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นายกรัฐมนตรียุคนั้นที่แถลงไว้ “เฉพาะจีทีจะมีลูกค้าอยู่เป็น 10 ประเทศ มีการซื้อกันค่อนข้างแพร่หลายพอควร ทั้งที่เป็นจีทีและยี่ห้ออื่นๆ ของไทยมียี่ห้อ ทีกับอัลฟ่า-6 บอกอีกว่า เครื่องจีทีซื้อมาตั้งแต่ปี 2549 ต่อเนื่องถึงปี 2553 ราคาแตกต่างกัน เพราะแต่ละหน่วยงานจะใช้ของไม่ตรงกัน

รวมทั้งหมดประมาณ 700 เครื่อง ราคาจัดซื้อ อัลฟ่า-4 ใหม่ เครื่องละประมาณ 3 แสนบาท สูงสุดจัดซื้อเครื่องละ 1.2 ล้านบาท ทั้งเคยชี้แจงกลางวงประชุมสภาผู้แทนราษฎร อ้างถึงทุกรัฐบาลก่อนหน้าว่ามีการสั่งซื้อมาตามลําดับ ส่วนรัฐบาลของตน มีส.ส.มาบอกว่า อยาก ให้ซื้อเครื่องนี้มากขึ้นเพราะเจ้าหน้าที่
ร้องขอมา

ที่สุดสั่งเลิกซื้อ เมื่อรู้แล้วว่าเป็น เครื่องปลอม หรือเรียกตามสํานวนนักวิชาการวิทยาศาสตร์ เจษฎา เด่นดวง บริพันธ์ว่า “ไม้ล้างป่าช้า” หรือ “ไม้ชี้ผี”

และหลังจากความสูญเสียจากการผิด พลาดในการตรวจหาวัตถุระเบิด ที่ทําให้เจ้าหน้าที่และประชาชนบาดเจ็บล้มตายจํานวนมาก

อนึ่ง นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ศิษย์เก่าอ๊อกซฟอร์ด เป็นส.ส.และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

อย่าได้ลืมเสียง พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาลยุคครองยศพันเอก ที่เคยกล่าวถึงคุณสมบัติและวิธีการทํางานของจีที 200 ไว้

“ผมอยากขยายความหลักการทํางาน สสารทุกอย่างในโลกมนุษย์จะมีสนามแม่เหล็กของมัน ซึ่งจะแตกต่างกัน หลักการของการใช้เครื่องจีที 200 ก็คือ เราจะตรวจหาอะไร เราก็เอาสาร ชนิดนั้นมาทำเป็นเซ็นเซอร์การ์ดแล้วใส่เข้าไปในนี้ ซึ่งก็จะมีสนามแม่เหล็กเกิดขึ้น สมมติว่าเราใส่เรื่องของยาเสพติด ยาไอซ์เข้าไป เมื่อเครื่องทํางานก็จะไป ตรงกับยาไอซ์ ซึ่งอยู่ในภูมิประเทศที่เรา กําลังหาเนื่องจากมีสนามแม่เหล็กที่ตรงกัน ตัวเสาสัญญาณจะเบนไปหา”

อนึ่ง พล.ท.สรรเสริญ เป็นอดีตโฆษกรัฐบาล คสช. อดีตโฆษกกองทัพบก อดีตโฆษกศูนย์อําานวยการรักษาความสงบ เรียบร้อย (ศอ.รส.) และอดีตโฆษก ศอฉ. ระหว่างการชุมนุมของกลุ่ม นปช. 2553

การกลับมาของคดีเครื่องตรวจระเบิดปลอม จึงมาพร้อมการปรากฏของทบทวนอดีต โลกทุกวันนี้รื้อฟื้นความจําได้ง่ายๆ เพียงแค่ปลายนิ้วคลิก