ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 6 มีนาคม 2568 |
---|---|
คอลัมน์ | หลักศิลากลางน้ำเชี่ยว |
ผู้เขียน | มุกดา สุวรรณชาติ |
เผยแพร่ |
หลักศิลากลางน้ำเชี่ยว | มุกดา สุวรรณชาติ
คดีทุจริต เลือก ส.ว.
คนทั้งประเทศรู้… DSI รู้…
แต่ กกต.ไม่รู้
การฟ้องร้องเรื่องทุจริตในการคัดเลือก ส.ว. ไม่ใช่เรื่องของความขัดแย้งการเมืองหรือการหาคะแนนเสียงของพรรคการเมือง แต่เป็นเรื่องที่ทุกกลุ่มต้องสำนึกว่า ส.ว.คือกลุ่มผู้ใช้อำนาจนิติบัญญัติ ซึ่งจะกำหนดกฎหมายของประเทศ และมีส่วนในการจัดตั้งกรรมการองค์กรอิสระชี้ถูกชี้ผิดสูงสุด ถ้าองค์กรนี้ยังไม่สามารถสร้างขึ้นมาโดยถูกต้องยุติธรรม แล้วจะไปสร้างความยุติธรรมให้ประชาชนได้อย่างไร?
เรื่องนี้ทำลายระบอบประชาธิปไตยและกระบวนการยุติธรรม พระบรมราโชวาทของในหลวงรัชกาลที่ 9 เตือนใจเราว่า
“…ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้คนทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้…”
เมื่อปลายเดือนมิถุนายน 2567 หลังการคัดเลือก ส.ว.ก็มีข่าวฮือฮากันว่า การคัดเลือกครั้งนี้ไม่สุจริตยุติธรรม มีการจัดฮั้วเป็นขบวนการใหญ่โต และมีผู้ร้องเรียนจำนวนมาก
ประชาชนหวังว่า กกต.และผู้เกี่ยวข้องจะเคลื่อนไหวอย่างรีบด่วนเพื่อแก้ไขปัญหานี้
แต่เวลาผ่านไปหลายเดือนกลับไม่มีปฏิกิริยาอะไร ดูราวกับว่าการทุจริตในการคัดเลือก ส.ว.ระดับประเทศเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่มีความสำคัญอะไร ทั้งๆ ที่มีการร้องเรียนมาตั้งแต่หลังการคัดเลือกเกินกว่า 500 เรื่อง
มีการร้องเรียนต่อ กกต.มานานแล้ว
หลังจากการเลือก ส.ว.สิ้นสุด ก็มีผู้มาร้องเรียนหลายราย เช่น พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ผู้สมัคร ส.ว.กลุ่ม 2 กลุ่มกฎหมายฯ ยื่นหนังสือและหลักฐานเพิ่มเติมต่อ กกต. เป็นครั้งที่ 4 เพื่อขอให้ดำเนินการตรวจสอบปัญหาการเลือก ส.ว. 2567 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะประเด็นการฮั้ว บล็อกโหวต และกรณีขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามลงสมัคร
กลุ่มนี้ได้ยื่นคำร้องต่อ กกต.ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบใดๆ จาก กกต. และไปยื่นคำร้องต่อศาลต่างๆ แต่ศาลก็ยกคำร้อง เพราะ กกต.ยังไม่มีการประกาศรับรองผล
ผู้ร้องเห็นว่า ถ้า กกต.ดำเนินการตามพยานหลักฐานที่ได้ยื่นไว้ จะเห็นว่าบัตรที่อยู่ในหีบรอบเลือกไขว้ มีการลงคะแนนตรงตามโพยจำนวนมาก
พล.ต.ท.คำรบ กล่าวอีกว่า หาก กกต.ไม่ดำเนินการตามที่ร้อง จะถือว่า กกต.หลีกเลี่ยงที่จะผดุงความสุจริตและเที่ยงธรรม ตามที่มาตรา 32 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.กำหนดไว้ ซึ่งจะมีโทษตามมาตรา 69 และอาจโดนไปถึงมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่อยากเห็น จึงขอวิงวอนให้ กกต.เปิดหีบบัตรลงคะแนนตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้ทุกอย่างกระจ่าง
แต่ผ่านมากว่าครึ่งปี กกต.ยังไม่จัดการเรื่อง ส.ว. แค่เปิดหีบบัตรลงคะแนนออกมาดู ทุกอย่างก็กระจ่างชัด ทำไมไม่ทำ?
การร้องเรียน
ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)
ช่วงเวลามิถุนายน-กรกฎคม 2567 ก็ได้มีผู้มาร้องเรียนต่อ DSI เช่นกัน ซึ่งคนเหล่านี้ได้เข้าร่วมอยู่ในกระบวนการคัดเลือก ส.ว.และได้เห็นพฤติกรรมและสิ่งที่ผิดปกติซึ่งส่อในทางทุจริต เช่น
พล.ต.ต.อนุชา จารยะพันธุ์, นายภัทรพงศ์ ศุภักอักษร และนายทินกร จิตต์ไพบูลย์ ได้ร้องขอให้ DSI รับคดีความผิดทางอาญาเป็นคดีพิเศษ กรณีการคัดเลือกสมาชิกวุฒิสภาที่มีกระบวนการหรือพฤติการณ์ที่มิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม
โดย พล.ต.ต.อนุชา จารยะพันธุ์ ได้ยื่นคำร้อง ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2567 ร้องขอความเป็นธรรมจากการจัดการคัดเลือกวุฒิสมาชิกจังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2567 และต่อมาได้ยื่นคำร้อง ลงวันที่ 24 มิถุนายน 2567 กรณีพบเหตุอันควรสงสัยเกี่ยวกับการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงโดยสรุปว่าการเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม หรือเชื่อได้ว่าผู้สมัครผู้ใดกระทำการใดหรือรู้เห็นกับการกระทำใดของบุคคลอื่นหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย และมีเหตุอันควรสงสัยว่ารู้เห็นเป็นกลุ่มองค์กรและแบ่งหน้าที่กันทำ
นายภัทรพงศ์ ศุภักษร ได้ยื่นคำร้อง ลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2567 ขอให้ DSI ตรวจสอบการเลือกตั้ง ส.ว.ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ และพิจารณารับเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากมีเหตุสงสัยเกี่ยวกับการจัดตั้งเพื่อลงสมัครโดยกลุ่มผลประโยชน์ทางการเมือง และลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครที่ไม่ตรงตามกลุ่ม การจ้างคนมาสมัคร
มีผู้สมัครซึ่งไม่ลงคะแนนให้ตนเองที่มีเป็นจำนวนมาก และยังมีผู้สมัครจำนวนหนึ่งที่ได้คะแนนสูงผิดปกติ หรือมีผู้สมัครที่ใส่เสื้อเหมือนกัน
มีผลคะแนนออกมาเกาะกลุ่มกัน ซึ่งสอดคล้องกับโพยที่ตกหล่นอยู่ในห้องน้ำแล้วมีผู้สมัครเก็บได้ อีกทั้งมีคลิปภาพและเสียงที่หลุดออกมาจากห้องอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น
โดยมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคการเมืองหนึ่งเป็นผู้เกี่ยวข้องสำคัญ
DSI ดำเนินการสืบสวน
พบขบวนการฮั้วจริง
อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษพิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีดังกล่าวเป็นความผิดทางอาญาที่มีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน มีลักษณะเป็นการกระทำขององค์กรอาชญากรรม ที่มีความซับซ้อน จำเป็นต้องใช้วิธีการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเป็นพิเศษ และอาจมีผู้ทรงอิทธิพลที่สำคัญเป็นตัวการ ผู้ใช้ หรือผู้สนับสนุน
จึงมอบหมายให้กองกิจการอำนวยความยุติธรรม ทำการสืบสวนเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเบื้องต้นเพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการคดีพิเศษพิจารณา
จากพยานหลักฐานในชั้นนี้ ปรากฏข้อเท็จจริงเชื่อได้ว่า มีการจัดตั้งเครือข่ายขบวนการซึ่งปกปิดวิธีการ มีวัตถุประสงค์เพื่อฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ 2560 และ พ.ร.ป.สมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 โดยมีการวางแผนสลับซับซ้อน
หลังจากวันที่ 16 มิถุนายน 2567 ภายหลังผ่านการคัดเลือกระดับจังหวัด ได้มีการนัดหมายผู้ ส.ว.ระดับประเทศ ไปจัดทำโพยฮั้ว ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดนครนายก ในวันที่ 24 มิถุนายน 2567 เวลา 16.00 น. ซึ่งมีการจ่ายเงินสดเป็นมัดจำ ส่วนที่เหลือได้รับหลัง กกต.รับรองผลเลือกแล้ว
จากการสืบสวนพบว่า โพยฮั้ว มีหมายเลขจำนวน 2 ชุด กลุ่มละ 7 คน รวม 140 คน และในการเลือกระดับประเทศ พบว่ามีการจัดตั้งผู้สมัครเข้าร่วมขบวนการ จำนวนประมาณ 1,200 คน
ต่อมาเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2567 เวลา 05.00 น. ขบวนการได้แจกเสื้อสีเหลือง ให้กับผู้สมัครระดับประเทศ และจัดหารถตู้ส่งไปเมืองทองธานี ซึ่งเป็นที่เลือก ส.ว.ระดับประเทศ และผลการเลือกในรอบเช้า และรอบไขว้ เป็นไปตามโพยฮั้วสมาชิกวุฒิสภาทุกประการ สำหรับโพยฮั้ว ส.ว.จำนวน 2 ชุด กลุ่มละ 7 คนนั้น พบว่าเป็นผู้ได้รับเลือกเป็น ส.ว.มีจำนวน 138 คน และสำรอง 2 คน
บทสรุปขั้นต้น DSI พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำดังกล่าว อาจเข้าข่ายการกระทำผิดตาม พ.ร.ป.วุฒิสภา พ.ศ.2561 มาตรา 77(1) ความผิดอาญา มาตรา 209 (ความผิดฐานอั้งยี่) และความผิดฐานฟอกเงิน
ปัญหานี้กระทรวงยุติธรรมต้องรับผิดชอบ การให้ DSI ทำการสืบสวน ถือว่ามาถูกทาง
สังคมกำลังจับตาว่าผู้อยู่เบื้องหลังมีใครบ้าง และเราไม่ควรปล่อยให้พวกจัดฮั้วประมูลงานจนเคยชิน มาจัดฮั้วการคัดเลือก ส.ว.โดยไม่ทำอะไรเลย ถ้าปล่อยไป อำนาจแบบนี้จะขยายไปคลุมทุกระบบ และประเทศจะกลายเป็นสีเทา
(เขาโกงการคัดเลือก ส.ว.กันอย่างไร ใช้คนหลายพันคนจริงหรือไม่ จะนำมาเสนอตอนต่อไป)
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022