65 ปี เบิร์ด ธงไชย จากเด็กสลัมบางแค สู่ซุปตาร์ตลอดกาล ทำไมยังยืนยงคงกระพัน ขวัญใจคนทุกยุค

8 ธันวาคม 2566 คือวันที่ พี่เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ อายุครบ 65 ปี บริบูรณ์ ถ้าเทียบกับ “ข้าราชการ” คือบุคคลเกษียณมาแล้ว 5 ปี ถ้าต่ออายุอีกปีนี้ คุณธงไชย เต็มโควต้าแล้ว

แต่สิ่งที่หลายคนมี “ฉันทามติ” ร่วมกัน คือกาลเวลาและอายุ ทำอะไรเขาคนนี้ไม่ได้ และคำว่า “ซูเปอร์สตาร์เมืองไทย” ก็ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย

เนื่องจากทุกคนต่างยอมรับในความสามารถตั้งแต่ก่อนเข้าวงการ เพลงพี่เบิร์ดเคยได้รับรางวัล “นักร้องดีเด่น” และรางวัลพิเศษจากคณะกรรมการอีก 2 รางวัล จากการเข้าร่วมประกวดร้องเพลงชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย สยามกลการ ก่อนจะออกอัลบั้มเต็มตัวมาถึง ยุคซิงเกิ้ลนี้

พี่เบิร์ดออกอัลบั้มมาแล้วกว่า 22 อัลบั้ม ยอดขายรวมกันทุกชุดมากกว่า 25 ล้านชุด คอนเสิร์ต-ภาพยนตร์-ละคร-โฆษณาอีกมหาศาล แต่ถึงกระนั้นหลายคนไม่ทราบมาก่อนว่าชีวิตของ “พี่เบิร์ด” ไม่ได้มีหนทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบมาตั้งแต่แรก

พี่เบิร์ดได้เคยให้สัมภาษณ์ผ่านในหลายรายการตลอดชีวิตที่ผ่านมาว่า ในวัยเด็กครอบครัวของเขาค่อนข้างยากจน และต้องทำงานหลายอย่าง เพื่อหารายได้ช่วยครอบครัว ซึ่งเขามีพี่น้องอีก 9 คน และอาชีพที่เขาทำก่อนมาเป็นนักร้องคือการทำงานที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาท่าพระ อยู่แผนกต่างประเทศ ควบคู่ไปกับการทำงานเสริมอื่น ๆ เช่น ถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา รวมถึงเป็น “พนักงานเปิดประตู”ในดิสโก้เธคชื่อดังเมื่อ 30 กว่าปีก่อนจนทำให้เจอกับผู้จัดละครชื่อดัง และเป็นอีกหนึ่งทางที่ทำให้ได้เข้ามาสู่วงการ

“คนมองหนัง” คอลัมน์ชื่อดังใน นิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ ได้ชี้จุดเปลี่ยนสำคัญในวงการเพลงทื่ทำให้พี่เบิร์ดเป็นซุปตาร์อันดับหนึ่งของวงการนี้ได้ มาจากช่วงผลงานชุด “บูมเมอแรง” (พ.ศ.2533) และ “พริกขี้หนู” (พ.ศ.2534) ซึ่งถือเป็น 2 ใน 3 “จุดเปลี่ยนสำคัญ” ของ “พี่เบิร์ด”

เจ้าตัวเคยยอมรับผ่านการให้สัมภาษณ์ในหลายรายการว่าเคยได้รับความกดดันจาก “เต๋อ เรวัต พุทธินันทน์ หัวเรือใหญ่แห่งแกรมมี่ ในช่วงเวลานั้น ว่าถ้าหากทำภารกิจนี้(การออกอัลบั้ม)ไม่ได้ประสบผลสำเร็จเท่าที่คาด ทางค่ายก็อาจจะตัดสินใจไม่ได้ไปต่อ? ซึ่งมองอีกมุมอาจจะเป็นกุศโลบายบางอย่างเพื่อดึงศักยภาพของ พี่เบิร์ด “ธงไชย” ออกมาให้สุด และให้ตรงใจคนที่สุด ผลสุดท้ายอัลบั้มนี้ล้านแตกและอีกหลายๆชุดต่อมาก็ทะลุล้านตลับอย่างไม่มีแผ่ว

คนมองหนังได้มองความหมายของคำว่า “บูมเมอแรง” แฝงนัยยะว่า “เบิร์ดนี่ความจริงเขายังไม่ไปไหนหรอก ยังไงเขาต้องอยู่ตรงนี้ แล้วก็จะยังอยู่อีกนาน” เหมือนกับบูมเมอแรง อัลบั้มที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อในฐานะนักร้องของ “พี่เบิร์ด” จนทำให้ประสบความสำเร็จต่อเนื่องมาอีกหลายต่อหลายอัลบั้ม

อย่างไรก็ตามอีกหนึ่งจุดสูงสุดของ “พี่เบิร์ด” นั่นคือ ผลงานชุดรับแขกที่มีเพลงดังอย่าง “แฟนจ๋า” ก็ยิ่งตอกย้ำความสำเร็จของซุปตาร์ค้างฟ้าคนนี้ที่มีโจอี้ บอย มาช่วยแต่ง โดยมีการอาศัยการผสมผสานวัฒนธรรมไทยในแต่ละภาค พร้อมดึง นัท มีเรีย จินตรา พูลลาภ และ แคทารียา อิงลิช เติมเต็มความเป็นสาวใต้ สาวอีสาน และ สาวเหนือจนทำให้กลายเป็นว่าอัลบั้มนี้ประสบความสำเร็จพุ่งทะยานสูงสุดยอดขายพุ่ง ไปเกินกว่า5 ล้านตลับ ทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศจำนวนมากและมีอัลบั้มพิเศษตามมาอีก

อย่างไรก็ดีความสำเร็จของ “พี่เบิร์ด” ไม่ได้เกิดจากคนใดคนหนึ่งแต่นั่นหมายถึงทีม ที่มีความครีเอทีฟ สำคัญคือ “การปรับตัว” อยู่ตลอดเวลาทำให้พี่เบิร์ดสามารถไปแจมกับส่วนต่างๆ อย่างลงตัว สมดุล เหนือกาลเวลาทำให้ความนิยมของเขา ได้ขยายฐานไปสู่สิ่งใหม่ๆ กลุ่มคนใหม่ๆ ในขณะที่คนเก่าๆก็ยังอยู่ ความสำเร็จเหล่านี้ไม่ใช่ดวง ไม่ใช่โชคแต่คือความคิดที่มี ทีมเบื้องหลัง “ทดลอง” และ “ลงมือ” กับศิลปินที่ใจพร้อมและมีวินัยสูงสุดคนหนึ่ง

ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้ที่มีส่วนสำคัญอย่างมากของ พี่เบิร์ด นั้นคือ “พี่เล็ก บุษบา ดาวเรือง” หัวเรือใหญ่อีกคนของแกรมมี่ที่ทำหน้าที่คู่คิดกับพี่เบิร์ดเสมอมาทั้งอัลบั้ม งานคอนเสิร์ต และวิธีการที่ทำให้ “พี่เบิร์ด” ยังคง “ขลัง” และน่าติดตาม เติมความสดใหม่ เติมไอเดียที่บางครั้งอาจจะไม่ได้ประสบความสำเร็จในแง่ยอดขายแบบในอดีตมาก แต่ในแง่คุณภาพคือยังคงยืนหนึ่ง

จุดนี้เองเราจะเห็นได้ว่า “ธงไชย” ในวัยหลัง “แซยิด” มักมีการปรับตัวจอยและแจมกับนักร้องรุ่นน้องจำนวนมากที่ส่งเสริมเกื้อกูลและขยายฐานซึ่งกันและกัน ไปจนถึงจุดสำคัญที่การออกรายการในยุคสมัยนี้มิได้จำกัดแค่ “จอทีวี” ช่องมากสีน้อยสีแบบในอดีต

“พี่เบิร์ด” ขยับมาไลฟ์ มา “คลับเฮ้าส์” ไปออกรายการน้าเน็ก ออกรายการหนุ่มกรรชัย และอีกหลายรายการซึ่งเป็น “พื้นที่ใหม่ๆ” ทำให้ “มีความเชื่อมโยง” ประสานกับเจเนเรชั่น ที่อาจจะมองว่า “ซุปตาร์รุ่นเดอะ” เช่นนี้ เป็นสิ่งที่ขลังและน่าเกรงขามเข้าถึงได้ยาก จนกลายเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ “ความนิยม” ของชายผู้นี้ ไม่มีวันหมดมนต์

ไม่ว่าอย่างไร สิ่งที่ขาดไม่ได้คือการที่พี่เบิร์ดยังคงมีวินัย เรียนร้องเพลงเสมอ ออกกำลังกายตลอด ซ้อมเต้นต่อเนื่องแม้ไม่ใช่ช่วงคอนเสิร์ต ทำให้แต่ละครั้งที่มีคอนเสิร์ตหรือมีแบบเบิร์ดเบิร์ด “คุณธงไชย” ไม่เคยแผ่วสามารถครองเวที ครองใจแรงไม่แผ่วนาน 3-4 ชั่วโมง และเล่นอย่างต่ำๆ 4รอบการแสดงได้อย่างที่คนวัยเดียวกันทำไม่ได้ง่ายๆ ล่าสุดได้ขึ้นหิ้งเป็น “ศิลปินแห่งชาติ” อย่างที่ไม่มีใครคัดค้านได้ เจ้านายหลายพระองค์ รวมไปถึงในหลวงยังเสด็จมาชมต่อเนื่อง พ่อแม่ก็ลูกพาหลานมาชื่นชมมารับความสุขจาก “เบิร์ด ธงไชย” ที่ได้เข้าไปอยู่ในหัวใจ และกลายเป็นสมบัติที่ล้ำค่า ของชาติ ขนาดที่ตัวเขาเองยังพูดบนเวทีคอนเสิร์ตล่าสุดว่า “ธงไชยขอสัญญา จะดูแลเบิร์ดคนนี้ของทุกๆคนให้ดี ที่สุด” และหวังอย่างยิ่งว่าจะมีอีกหลายโชว์ หลายเพลง หลายโอกาสที่ “พี่เบิร์ด”จะส่งมอบความสุข รอยยิ้มให้ประชาชนไปอีกนานแสนนาน

 

อ้างอิง
https://www.matichonweekly.com/column/article_223304
https://atime.live/