ไก่งวงอร่อยจน “ฝันถึง” Thanksgiving Day วันขอบคุณพระเจ้า ที่อเมริกา หนึ่งเดียวในโลก

เทศกาล “วันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day)” ในอเมริกาผ่านไปแล้ว

เทศกาลนี้ใช้วันพฤหัสบดีที่สามของเดือนพฤศจิกายน เป็นวันทำพิธี ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 23 พฤศจิกายน

ประวัติของ “วันขอบคุณพระเจ้า” เริ่มต้นมาจากต้นศตวรรษที่17 หรือเมื่อเกือบ 400 ปีมาแล้ว เมื่อคณะจาริกแสวงบุญที่เรียกกันว่าพวก Pilgrims นิกายศาสนาบริสุทธิ์ หรือ Puritanism จำนวน 102 คน ออกเดินทางจากอังกฤษโดยเรือ Mayflower มาขึ้นบกและตั้งถิ่นฐานในบริเวณที่ปัจจุบันเป็นเมือง Plymouth รัฐ Massachusetts และตัดสินใจตั้งอาณานิคมพลิมัธ (Plymouth Colony) ขึ้น

ต่อมาในฤดูใบไม้ร่วงปีรุ่งขึ้น 1621 หลังจากที่รอดชีวิตจากความอดอยาก โรคภัยไข้เจ็บและอากาศหนาวเย็นในดินแดนใหม่ได้ครบหนึ่งปี หลังเก็บเกี่ยวพืชผลแล้ว พวกพิลกริมส์ได้จัดให้มีงานเลี้ยงขอบคุณพระเจ้า โดยได้เชิญอินเดียนแดงพื้นเมืองเผ่าแวมพาโน้ก (Wampa-naug) เข้าร่วมด้วย

เนื่องจากอินเดียนแดงเผ่านี้เป็นผู้สอนพวกพิลกริมส์ให้ล่าสัตว์ เพาะปลูกข้าวโพดและพืชผลพื้นเมืองอื่นๆ ไว้เป็นอาหารประทังชีวิต ทำให้มีชีวิตรอดมาได้ตลอดทั้งปี อีกทั้งยังทำเกษตรกรรมได้ผลดี มีอาหารสำรองตลอดฤดูหนาว

ชาวพิลกริมส์ที่รอดชีวิต 50 คนจึงเชิญอินเดียนแดงเผ่าแวมพาโน้ก 90 คน ที่ต่างก็รอดชีวิตจากการระบาดของกาฬโรคมาด้วยกัน มาร่วมงานฉลองครั้งใหญ่ที่จัดขึ้น 3 วัน 3 คืน

Wampa-naug เป็นภาษาพื้นเมืองหมายความว่า Eastern People หรือ People of the First Light หมายถึงคนตะวันออกที่เห็นดวงอาทิตย์ก่อน พวกนี้เป็นชนเผ่าพื้นเมืองที่ตั้งรกรากอยู่บริเวณรัฐแมสซาชูเซตส์ก่อนผู้อพยพหลายร้อยปี

อาหารในงานเลี้ยงครั้งนั้นประกอบไปด้วย ไก่งวงป่า เป็ด ห่าน ปลาค้อด กวาง กุ้งล็อบสเตอร์ หอยกาบ ขนมพายฟักทองและผลไม้แห้ง

ไก่งวงและพายฟักทองจึงกลายมาเป็นอาหารสัญลักษณ์ของวันขอบคุณพระเจ้าตั้งแต่บัดนั้น จวบจนทุกวันนี้

ในสมัยก่อนวันขอบคุณพระเจ้าไม่ใช่วันหยุดราชการ จนกระทั่งถึงสมัยประธานาธิบดี อับบราฮัม ลินคอล์น ปี 1863 จึงได้ประกาศให้วันขอบคุณพระเจ้าเป็นวันหยุดทั่วประเทศ รวมทั้งวันศุกร์ต่อมาที่เรียกว่าวัน Black Friday ก็ให้เป็นวันหยุดด้วยเช่นกัน ตราบจนทุกวันนี้

เทศกาล Thanksgiving Day วันพฤหัสบดีที่สามของเดือนพฤศจิกายนนี้ มีเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ที่แคนาดามี Thanksgiving Day เหมือนกันแต่จัดงานวันจันทร์ที่สองของเดือนตุลาคมรวมทั้งมีความหมายทางประวัติศาสตร์ที่แตกต่างจากอเมริกา

นอกจากนั้น ไม่เคยมีเทศกาล Thanksgiving Day ในยุโรป ในอเมริกาใต้ ในเอเชีย ในแอฟริกา หรือที่อื่นใดในโลก

วันขอบคุณพระเจ้าคือวันรวมญาติพี่น้องที่ไปหากินอยู่ต่างรัฐรวมทั้งลูกหลาน กลับมาพบปะร่วมกินอาหารด้วยกัน เป็นงานเลี้ยงมื้อใหญ่ รวมทั้งพบปะมิตรสหาย เพื่อนบ้าน เพื่อขอบคุณสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นและมอบให้แก่กันตลอดทั้งปี

อยู่อเมริกามาหลายปี เราก็ร่วมฉลองวันขอบคุณพระเจ้ากับอเมริกันเขาด้วย โดยที่บ้านจะมีการทำไก่งวงอบยัดไส้ (Roast turkey with stuffing) แต่กินกับข้าวเหนียวแบบไทย

ส่วนไส้ถ้าใช้แบบจีนก็เป็นบ๊ะจ่างที่ซื้อมาจากร้านจีน บางปีก็ทำเป็นไก่งวงกับน้ำพริกลงเรือ พร้อมด้วยซุปหางวัว แถมลูกสาวยังตำส้มตำครกอร่อยเข้ามาเสริมอีก ทำให้อร่อยไปใหญ่ ถูกปากคนในบ้านและแขกรับเชิญคือหมอรีแฮปไทยที่โรงพยาบาลเรดดิ้งและเพื่อนสาวชาวอเมริกันโคลอมเบียน

คำว่า “ยัดไส้” ไม่ได้หมายความว่า เอาเครื่องปรุงอย่างที่เล่ายัดลงไปในท้องไก่ แต่หมายความว่าเอามาแต่งเป็นเครื่องเคียงวางบนจานไก่งวง

บางปีได้ไก่งวงตัวโต หลังเสร็จงานต้องทำเป็นแซนด์วิชไก่งวง ข้าวต้มไก่งวง เตอร์กีแร็ป ยำไก่งวง กินกันต่อเป็นอาทิตย์

มาเมื่อปีที่แล้ว ครอบครัวเราได้รับเชิญไปงานเลี้ยง Thanksgiving Day กับครอบครัวเพื่อนรุ่นน้องชาวอเมริกันที่เราเคยให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลบางอย่าง พ่อแม่ของคนเป็นภรรยามาร่วมงานด้วย และชื่นชมที่เราเคยให้ความช่วยเหลือลูกสาวเขาเป็นอย่างมาก

วันนั้นหิมะตกหนักพอสมควร ไปถึงบ้านงานเลี้ยงตอนสิบโมงเช้า เอาไวน์อย่างดีไปร่วมงานด้วย 2 ขวด ทุกอย่างในบ้านแต่งไว้สวยงาม ทั้งผ้าม่าน ผ้าปูโต๊ะอาหาร จานกินข้าว ช้อน ส้อมอย่างดี สวยงามมาก

งานเลี้ยงเริ่มอย่างเป็นกันเองที่โต๊ะอาหารในห้องครัว เสิร์ฟ Shrimp Cocktail และหอยนางรมจิ้มกินกับซอส เนื้อหวานอร่อยทีเดียว เด็กสามคนในบ้านป้วนเปี้ยนวนเวียนอยู่แถวนี้

ตามมาด้วย Scallop พันด้วยหมูเบคอน

ต่อด้วย Bruschetta ขนมปังที่เอามะเขือเทศสับวางบนหน้า สไตล์อิตาเลียน

Devil eggs ไข่ต้มแข็งหั่นครึ่ง เอาไข่แดงออกมาผสมกับเกลือ พริกไทยและมายองเนส แล้วยัดกลับเข้าไปในหลุมไข่แดงอีกครั้ง

ตบท้ายด้วยพิซซ่าหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ

ออเดิร์ฟทั้งหมดนี้กินกลั้วกับไวน์อร่อยลิ้นนัก

อาหารหลักคือไก่งวงตัวโตในตู้อบ ที่ในท้องอัดแน่นด้วยแอปเปิ้ลหั่นชิ้นเล็กๆ มีหมุดเทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิปักไว้ที่ตัวไก่ เพื่อคอยตรวจสอบว่าไก่งวงสุกได้ที่หรือยัง

ต้องอบไก่งวงอย่างน้อย 5 ช.ม. จึงจะได้ที่ ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวไก่ ถ้าตัวโตก็ต้องอบนานขึ้น

ความอร่อยนั้นต้องปรุงแต่งด้วยน้ำ Gravy ที่ทำจากตับไก่ เครื่องในไก่และคอไก่ บดเข้ากันให้ละเอียด ผสมกับน้ำไก่ที่ไหลออกมาตอนอบ เคล้าให้เข้ากันจะช่วยให้เลิศรสยิ่งนัก เสิร์ฟมาพร้อมด้วยเครื่องเคียงเป็นผักบร็อกเคอลี่ มันฝรั่งบด และสตัฟฟิ่งเป็นขนมปังหั่นชิ้นเล็กๆ ผสมกับเครื่องเทศ

จึงเป็นไก่งวงวันขอบคุณพระเจ้าที่อร่อยจนต้องฝันถึง

นอกจากนั้น บนโต๊ะอาหารยังมีซุปบัตเตอร์นัต สคอว์ช ขนมปังข้าวโพด (Corn Bread) ซอสแครนเบอร์รี่ (Cranberry sauce) มันเทศอบ และพายฟักทอง (Pumpkin Pie)

เสร็จจากอาหารมื้อใหญ่ เป็นการนั่งจิบไวน์ดูทีวีถ่ายทอดสดขบวนพาเหรดจากนครนิวยอร์กในงานเมซีส์เดย์ (Macy”s Day) เป็นขบวนพาเหรดวันขอบคุณพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่ของนิวยอร์ก สปอนเซอร์โดยห้างเมซีส์ทุกปี

จบแล้วต่อด้วยการดูถ่ายทอดสดอเมริกันฟุตบอล

เคยถามเพื่อนอเมริกันให้เปรียบเทียบความสำคัญของวัน Thanksgiving Day กับวัน Christmas Day เขาตอบว่า

วัน Thanksgiving Day สำคัญกว่าเพราะเป็นวันที่ลูกๆ ที่ออกไปหากินต่างเมือง ต่างรัฐจะกลับมารวมกันพร้อมหน้าพ่อแม่ลูก รวมทั้งพาหลานปู่ หลานย่า หลานตา หลานยาย มากันครบหน้า

ส่วนวัน Christmas Day จะเป็นการฉลองกันในครอบครัว พ่อ แม่ ลูก ไม่มี Grand Papa และ Grand Mom มาร่วมด้วย

ดังนั้น ในวันพุธก่อนถึงวันพฤหัสบดีของ Thanksgiving Day ทุกปี

การจราจรบนทุกเส้นทาง Highways จากรัฐสู่รัฐ จึงเนืองแน่นจนถึงขั้นติดขัดในบางเส้นทาง ทุกเที่ยวบินจนถึง Last minute จึงเต็มทุกเก้าอี้

เป็นการเดินทางที่เกิดขึ้นพร้อมกันทุกหนแห่งในอเมริกา

แล้วก็ถึงวันศุกร์ Black Friday วันหยุดต่อเนื่องของเทศกาล Thanksgiving Day ที่ผู้คนจะให้ความสำคัญกับการช้อปปิ้งสินค้าราคาถูกตามห้างใหญ่ๆ ของอเมริกาทุกห้าง เช่น Giant, Wise, Walmart, Boscov”s ฯลฯ ที่จะลดกระหน่ำประเภทเหลือคิดเงินแค่ 10-20% หรือบางอย่างก็ลดจนแทบเหมือนแจกฟรี

สมัยก่อนเป็นการลดราคาที่คนจะมายืนตากหิมะหรือบางคนมากางแคมปิ้งเข้าคิวรอตั้งแต่ก่อนมืด เพื่อรอห้างเปิดตอนเที่ยงคืนรับวันใหม่ Black Friday แล้ววิ่งแย่งกันเข้าไคว่คว้าสินค้าถาโถมกระหน่ำแบบทุ่มสุดตัว แย่งชิงข้าวของมาให้ได้

บางครั้งเกิดการแย่งชิงสินค้า ตบตีกันในหมู่ผู้ซื้อ ทุกมอลล์จึงต้องมีตำรวจเอารถมาเฝ้า ตอนเข้าไปห้าม บางครั้งตำรวจก็พลอยโดนตบไปด้วย

แต่สองปีหลังนี้ ทุกห้างเห็นใจคนที่ยืนตากหิมะกางแคมป์เข้าคิวรอก่อนหัวค่ำ จึงหันมาเปิดห้างให้เข้าช้อปปิ้งได้ตั้งแต่สองทุ่มของคืนวันพฤหัสบดี คิวคนเข้าช้อปปิ้งยิ่งยาวเหยียดกว่าเดิม รถจอดแน่นเต็มลานจอดรถ ไม่มีที่ว่างเหลือให้ใคร

ผมเคยเข้าไปลองสำรวจดูการช้อปปิ้ง Black Friday แต่ทำได้แค่ขับรถเวียนเข้าไปเท่านั้น

หมดสิทธิ์จอดรถโดยสิ้นเชิง

หลังเที่ยงคืนวัน Thanksgiving Day เริ่มเข้าสู่วันใหม่ สถานีวิทยุทุกแห่งจะเริ่มเปิดเพลง Christmas บางสถานีเปิดเพลงเหล่านี้ตั้งแต่บ่ายสี่โมงเย็น และเปิดต่อเนื่องจนถึงเทศกาล Christmas ตอนสิ้นปี

บ้านเรือนหลายหลังเริ่มประดับไฟรับวัน Christmas ตั้งแต่คืน Thanksgiving Day ที่บ้านก็เริ่มแต่งไฟแล้ว

เป็นช่วงการฉลองเทศกาลแห่งความสุขยาวนานของอเมริกันชน