พล.อ.ประวิตร เดินหน้าพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน-ผุด‘บ้านมั่นคงริมคลอง’

ถือเป็นภารกิจหลักของรัฐบาลในการดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งประเทศให้มั่นคงยั่งยืน

โดยปัจจัยหลักที่จะส่งเสริมให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้นได้ มีหลักประกันในการดำรงชีวิตให้กับตัวเองและครอบครัว ก็คือเรื่องที่อยู่อาศัย ยิ่งเป็นกลุ่มคนที่มีรายได้น้อย ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนในระบบได้ด้วยแล้ว การมีบ้านพักอาศัยที่มั่นคง ถือเป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญอย่างยิ่ง

ซึ่งรัฐบาลโดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบงานด้านสังคม ก็รับรู้ความสำคัญของเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างดี จึงเร่งผลักดันโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศ ให้มีบ้านที่มั่นคง มีระบบสุขาภิบาลที่ดี สาธารณูปโภคพื้นฐานที่เหมาะสม สะท้อนให้เห็นถึงความห่วงใยที่รัฐบาลมีต่อประชาชน ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งๆขึ้นไป

สำหรับโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อผู้มีรายได้น้อยที่สำคัญ ก็คือโครงการบ้านมั่นคงริมคลอง ซึ่งถือเป็นโครงการเพื่อผู้มีรายได้น้อยในพื้นที่ชุมชนเมือง ที่พล.อ.ประวิตร ผลักดันให้เกิดเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน ที่นอกจากได้ช่วยเหลือประชาชนได้มีบ้านพักอาศัยที่จับต้องได้เข้าถึง ยังสามารถแก้ปัญหาเรื่องการรุกล้ำที่ริมคลองสาธารณะ ในส่วนของคลองลาดพร้าว และคลองเปรมประชากรพัฒนาภูมิทัศน์ให้งดงามเหมาะสมกับการอยู่อาศัย และยังพัฒนาศักยภาพของคลองในกรุงเทพฯ ในเรื่องของการระบายน้ำ ไม่ให้ภาพความน่าหวาดวิตกเหมือนช่วงน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 กลับคืนมาอีกเท่ากับว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกถึงหลายตัว

โครงการบ้านมั่นคงริมคลองลาดพร้าว มีจุดเริ่มต้นที่มติครม.วันที่ 3 มี.ค. 2558 ที่เห็นชอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และสถาบันองค์กรพัฒนาชุมชน จัดทำแผนจัดหาที่อยู่ให้ผู้มีรายได้น้อย ที่บุกรุกริมคลองลาดพร้าว และคลองเปรมประชากร ที่ส่งผลกระทบต่อศักยภาพการระบายน้ำ ภูมิทัศน์โดยรวมและการใช้ประโยชน์ของประชาชนทั่วไป
จนได้ข้อสรุปแล้วว่าคลองลาดพร้าว ควรจะมีความกว้างที่เหมาะสมอยู่ที่ 38 เมตร จึงเริ่มแผนการปรับปรุงพื้นที่ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร พบมีชุมชนที่บุกรุกริมคลองลาดพร้าว 50 ชุมชน 7,069 ครัวเรือน

ทัศนียภาพคลองลาดพร้าว

รัฐบาลได้พยายามอย่างเต็มที่ในการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่รุกล้ำริมคลองทั้งหมด รับทราบความจำเป็นในการปรับปรุงแก้ไขโดยที่ดินทั้งหมดซึ่งเป็นที่ดินของราชพัสดุและถูกบุกรุกมายาวนาน ก็หาวิธีในการปรับปรุง ให้สิทธิประชาชนที่อยู่มาก่อนหน้านี้ได้อยู่อาศัยต่อไป ด้วยการทำสัญญาเช่ากับราชพัสดุให้เรียบร้อย มีอายุการเช่าที่ยาวนานเพียงพอที่จะเป็นหลักประกันของครอบครัวที่อยู่อาศัย

ทั้งนี้ เริ่มโครงการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2559 โดยพล.อ.ประวิตร ได้เดินทางเป็นประธานยกเสาเอก แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับโครงการดังกล่าว

ล่าสุด สามารถปรับปรุงพื้นที่แก้ไขปัญหาให้ประชาชน 35 ชุมชน 3,559 ครัวเรือน ได้มีที่อยู่อาศัยที่เหมาะสม

โดยในส่วนของบ้านมั่นคงริมคลองเปรมประชากร ได้เริ่มดำเนินการไปในช่วงเดือนม.ค. 2562 โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีลงเสาเอกบ้านมั่นคง เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2563 เพื่อช่วยเหลือหาที่อยู่อาศัยให้ประชาชนที่รุกล้ำคลอง 38 ชุมชน 6,386 ครัวเรือน ปัจจุบันช่วยเหลือแก้ไขปัญหาไปได้แล้ว 5 ชุมชน 668 ครัวเรือน คาดว่าจะใช้เวลาอีก 2 ปี จะจบโครงการและแม้จะได้รับเสียงคัดค้านจากประชาชนที่ไม่เข้าใจ และเสียผลประโยชน์ อย่างกรณีผู้ที่บุกรุกพื้นที่แล้วนำไปจัดสรรเช่าต่อ แต่รัฐบาลก็ต้องเดินหน้าแก้ไขปัญหาต่อไปเป็นรัฐบาลแรกที่สามารถแก้ปัญหาการรุกล้ำริมคลองสาธารณะได้สำเร็จ และสร้างที่อยู่ที่มั่นคงให้กับประชาชน

คลองเปรมประชากร ปทุมธานี

สำหรับโครงการบ้านมั่นคงนี้ มีจุดเริ่มต้นจากที่รัฐบาลมองเห็นปัญหาการเข้าไม่ถึงแหล่งทุนของผู้มีรายได้น้อย จึงคิดโครงการเพื่อให้ประชาชนในชุมชนได้รวมกลุ่มกันเพื่อมีโอกาสเข้าถึงแหล่งทุนในรูปแบบของสหกรณ์ ต่อมาได้เห็นถึงความสำคัญในเรื่องของที่อยู่อาศัย รัฐบาลจึงจัดงบประมาณสนับสนุนให้ได้เข้าถึงแหล่งที่อยู่ หรือบ้านมั่นคง

โดยรัฐบาลเข้าไปช่วยก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นที่ ช่วยเหลือเรื่องวางผังพื้นที่ จัดพื้นที่สาธารณะสำหรับการอยู่อาศัยร่วมกัน สมทบทุนลดดอกเบี้ยกู้ยืมเพื่อสร้างที่อยู่อาศัย และสนับสนุนเงินทุน โดยเริ่มเป็นโครงการนำร่องทั่วประเทศก่อนจะพัฒนามาเป็นโครงการบ้านเอื้ออาทร และบ้านมั่นคง

ไม่เพียงแค่ในกรุงเทพเท่านั้น รัฐบาลยังสานต่อแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20ปี (2560-2579)
พัฒนาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยในชุมชนแออัดและผู้มีรายได้น้อย หรือ บ้านมั่นคง 77 จังหวัด ประมาณ 7 แสนครัวเรือน และแผนพัฒนาผู้มีรายได้น้อยในชนบท หรือ บ้านพอเพียง ใน 76 จังหวัด รวม 3.5 แสนครัวเรือน อีกทั้งยังสนับสนุนการสร้างศูนย์พักคนไร้บ้านและพัฒนาศักยภาพการใช้ชีวิตในจังหวัดต่างๆ
มุ่งดูแลประชาชนทุกกลุ่มคน อย่างไม่เลือกปฏิบัติ เพื่อเป้าหมายสูงสุด คือคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชนทั่วประเทศ

บ้านริมคลองวิถีใหม่ คืนคลองน้ำใสให้คนเมือง