บทความในประเทศ

 

ขีปนาวุธ ‘วิถีโค้ง’

ปู-โทนี่

ตุ๊ก-ตุ๊ก POLITIC

 

แม้ดูจะเป็นเรื่องส่วนตั๊ว-ส่วนตัว

และเป็นเรื่องของ “ติ่ง” ที่ชื่นชอบ “ปู” น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นพิเศษ

ที่เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน เนื่องในวันเกิดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

กลุ่มแฟนคลับ ในนามแฟนเพจ Yingluck Shinawatra Forever ได้จัดทำโปรเจ็กต์วันเกิดให้กับอดีตนายกฯ ปู

โดยอิงแอบกับเทรนด์โปรเจ็กต์วันเกิดไอดอลของดารา นักร้องต่างๆ ที่คนรุ่นใหม่ชื่นชอบ

ด้วยการนำป้ายวันเกิด “ปู” ยิ่งลักษณ์ ขึ้นโฆษณาหลังรถตุ๊กตุ๊ก จอดโชว์หน้าหัวลำโพง

โดยมีข้อความว่า

“อยู่ไกลแต่ใจคิดถึง”

พร้อมกับระบุข้อความในเพจว่า

“พวกเราเป็นกำลังใจและอยู่เคียงข้างท่านเสมอนะคะ

ยังรอวันนั้นอย่างมีความหวังค่ะ

ปีนี้พวกเราขอเซอร์ไพรส์วันเกิดท่านนายกยิ่งลักษณ์กับรถตุ๊กๆ ณ สถานีรถไฟหัวลำโพง พร้อมติดป้ายอวยพรวันเกิดสุดพิเศษ

จึงนำภาพบรรยากาศมาฝากนายกยิ่งลักษณ์ผ่านเพจนี้ค่ะ

แม้เราจะอยู่ไกลกันแต่ใจก็ยังคิดถึงเสมอนะคะ

สุขสันต์วันเกิดค่ะนายกในดวงใจ”

 

อีกด้านเจ้าของวันเกิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กเช่นกันว่า

“มีของเซอร์ไพรส์วันเกิดล่วงหน้า 1 วัน เป็นสเปรย์แอลกอฮอล์แบบพกพาไว้ล้างมือเพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 จากพี่แจ๋น พวงเพ็ชร ชุนละเอียด ค่ะ

ที่ทำส่งมาให้พิเศษเนื่องในวันคล้ายวันเกิดปีนี้ กลิ่นโคโค่ชาแนล หอมสดชื่นมากค่ะ

ต้องขอขอบคุณพี่แจ๋นมาในโอกาสนี้ด้วยนะคะ ชอบมากๆ ค่ะ

จึงขอถือโอกาสนี้ส่งมอบความรัก และความห่วงใยในการดูแลสุขภาพของทุกท่าน และแฟนเพจยิ่งลักษณ์ให้สำหรับ 200 ท่านแรก ที่เข้ามาคอมเม้นต์ใต้โพสต์นี้นะคะ

สำหรับแฟนเพจทั้ง 4 ล้านไลค์ 5 ล้านไลค์ และ 6 ล้านไลค์ ที่ยังคงเหนียวแน่นเป็นแฟนเพจกันมาต่อเนื่องยาวนาน

ดิฉันได้ขอให้ทางทีมงานจัดส่งสเปรย์ไปให้ทุกท่านทางไปรษณีย์ เพื่อที่จะบอกว่า ยิ่งลักษณ์ ยังคิดถึง และห่วงใยทุกท่านเสมอค่ะ”

ขณะเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวอีกว่า

“ขอบคุณสำหรับทุกคำอวยพรที่ส่งมาเนื่องในวันคล้ายวันเกิดในปีนี้นะคะ

แม้จะมีเรื่องราวต่างๆ เข้ามามากมาย แต่ทุกท่านก็ยังคิดถึงและส่งใจมา บ้างก็ส่งของขวัญจากเมืองไทยมา บางท่านก็ทำบุญ ถวายสังฆทาน ปล่อยนกปล่อยปลาให้แทนดิฉัน

รวมถึงกลุ่มแฟนเพจก็ทำกิจกรรมดีๆ มากมายให้ ดิฉันรู้สึกสัมผัสได้ถึงความผูกพันที่เรามีต่อกันมาอย่างยาวนาน ขอให้พรที่ดิฉันได้รับในวันนี้โปรดส่งกลับไปให้พี่น้องประชาชนคนไทยทุกท่านพ้นทุกข์ ผ่านปัญหาอุปสรรค ทั้งทางเศรษฐกิจและโรคภัยไข้เจ็บ ให้ทุกท่านโชคดี มีสุขภาพแข็งแรง กิจการเจริญรุ่งเรืองนะคะ”

ถ้อยความและท่าที แม้ดูจะไม่มี “กลิ่นการเมืองโชย”

แต่กระนั้น แฟนเพจ Yingluck Shinawatra Forever ก็ตีฆ้องร้องเปล่าไปทั่วโลกโซเชียล

“…ด่วนค่ะ

เมื่อช่วงเย็น พี่คนขับรถตุ๊กตุ๊กโทร.มาแจ้งเราว่า

มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก ส.รฟ.นพวงศ์ ที่ดูแลบริเวณสถานีรถไฟหัวลำโพง เข้ามาขอความร่วมมือให้หันป้ายดังกล่าวเข้าในรถ หรือขอให้ไม่มาจอดในพื้นที่

ลุงคนขับตุ๊กตุ๊กหลายคันไม่สบายใจ เมื่อจอดรับผู้โดยสารไม่ได้ก็ต้องกลับบ้าน ขาดรายได้ไปอีกวัน จึงโทร.มาขออนุญาตจากเราว่าขอปลดออกก่อนได้ไหม เพื่อให้ลุงขับเข้าไปรับผู้โดยสารได้

ทางเราก็ยินดีเพื่อให้ลุงหารายได้ต่อไปในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้

งงว่า จ่ายเงินอย่างถูกต้องเท่ากันกับป้ายอื่น แต่ทำไมติดไม่ได้?

 

ประโยคคำถาม “ทำไมติดไม่ได้”

คงไม่ได้คำตอบ และฝ่ายถามก็คงมิได้หวังจะได้คำชี้แจง

เพราะต่างฝ่ายต่างทราบดี นี่ไม่ใช่เพียงเรื่องส่วนตั๊ว ส่วนตัว

การปรากฏขึ้นของภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์บนหลังรถตุ๊กตุ๊กในพื้นที่ย่านหัวลำโพงอันเป็นชุมชน

ทำให้หลายคนใจประหวัดไปถึงการแจก ‘ปฎิทิน’ เนื่องในเทศกาลส่งความสุขปีใหม่ ส่งท้ายปีเก่า

แจก ‘ขันแดง’ ในห้วงเทศกาลสงกรานต์ อันถือว่าเป็นปีใหม่ไทย

เพียงแต่ครั้งนี้ ไม่ได้มีเป้าหมายที่ลุง ป้า น้า อา ในชนบทหรือในหมู่บ้าน

หากแต่เป็นการติดภาพที่ท้ายรถตุ๊กตุ๊ก ในรูปแบบที่คนรุ่นใหม่แสดงออกต่อดารา-นักร้อง โดยเฉพาะดาวดังเกาหลี และมีการแชร์ผ่านโลกโซเชียลมีเดีย

เพื่อให้เป็นไวรัล ให้เป็นที่กล่าวถึงอย่างกว้างขวาง

เป็นการขับเคลื่อนเข้าไปอยู่ในความทรงจำ ผ่านกระบวนท่า ‘ซอฟต์เพาเวอร์’ ที่เห็นแต่เอื้อมมือไปไม่ถึง

ฝ่ายที่ไม่ชอบ ไม่อาจใช้วิธียึด ดังการยึดปฏิทิน หรือขันน้ำ

ทำได้แต่เพียงการขอร้องและบังคับทางอ้อม ให้หันป้ายรูปนายกฯ ปูเข้าในรถ หรือปลดป้ายลงเสีย

อันเท่ากับมีการประเมินว่า การอวยพรวันเกิดหลังตุ๊กตุ๊ก และการแจกสเปรย์แอลกอฮอล์กลิ่นโคโค่ชาแนล เกี่ยวพันกับการเมือง

 

แน่นอนว่า ในระยะหลังๆ การปรากฏตัวของ 2 พี่น้องแห่งตระกูลชินวัตร ไม่ว่าปู ยิ่งลักษณ์ หรือโทนี่ วู้ดซัม-ทักษิณ ชินวัตร มีบ่อยครั้งและต่อเนื่อง

ทั้งการโพสต์ข้อความและภาพผ่านเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม

ทั้งการปรากฏตัวผ่านคลับเฮาส์

น.ส.ยิ่งลักษณ์ แรกๆก็เพียงออกมาปรากฏตัวในท้ายรายการ ทักทายแฟนานุแฟนนิ่มๆ

เช่นเดียวกับนายทักษิณ ในระยะต้นจะมุ่งเน้นการแสดงวิสัยทัศน์

หากแต่ในระยะหลัง ท่าทีของโทนี่ วู้ดซัม ดุดันเข้มข้น และย่างบาทเข้าสู่ปริมณฑลการเมืองมากยิ่งขึ้น

เช่นเดียวกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จากที่เป็นเพียงแบล๊กกราวด์ให้พี่ชาย ก็เริ่มออกมายืนข้างหน้า และพร้อมตอบโต้ประเด็นที่ถูกพาดพิงถึง

ทั้งหมดนี้มิได้มีเป้าหมายเพื่อมิให้คนไม่ลืมอย่างธรรมดาปกติ

หากแต่มีเป้าหมายที่พุ่งตรงไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐบาลชัดเจน

 

ยิ่งเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกระทบพาดพิงมาถึงก็จะตอบโต้ทันที

อย่างกรณีเรื่องหนี้สาธารณะ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจงต่อสภา ว่าที่เพิ่มเพราะมีหนี้จำนำข้าว

น.ส.ยิ่งลักษณ์ตอบโต้ว่า “คุณประยุทธ์กล่าวเท็จในสภา”

เพราะยอดหนี้สาธารณะของโครงการไม่ถึง 5 แสนล้านบาท และมีสต๊อกข้าวสารหลายแสนล้านบาท

แต่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ปล่อยปละให้มีการทุจริตนำข้าวดีๆ ไปขายในราคาต่ำไปเป็นอาหารสัตว์บ้าง เป็นพลังงานบ้าง ซึ่งถ้าขายข้าวกันอย่างสุจริต ภาระคงค้างที่เกิดขึ้นย่อมจะไม่มาก คุ้มค่าต่อภารกิจ และเศรษฐกิจโดยรวม

“เอาแต่โทษโครงการรับจำนำข้าว วันนี้ดิฉันไม่ได้บริหารประเทศมา 7 ปีแล้ว คุณประยุทธ์หัดโทษตัวบ้างเถอะค่ะ อย่าโทษแต่ดิฉันเลย ดิฉันฟังมา 7 ปีแล้ว สุภาพบุรุษ ชายชาติทหารเขาไม่ทำกันแบบนี้หรอกค่ะ”

เช่นเดียวกับโทนี่ วู้ดซัม ร่วมวงคลับเฮาส์ วิพากษ์ พล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง

ทั้งการจัดการวัคซีนแก้วิกฤตโควิด-19 การแก้ไขรัฐธรรมนูญ แนวทางแก้เศรษฐกิจ

นอกจากนี้ ยังแซะไปถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่กำลังจัดขุนพลทางการเมือง โดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นเลขาธิการพรรคคู่ใจ โดยระบุว่า เพราะดูโหงวเฮ้งไม่เป็น หากฝึกดูโหงวเฮ้งหน่อย วันนั้นก็คงไม่ตั้งเป็น ผบ.ทบ.

และยังกล่าวถึงเลือกตั้งว่า “ครั้งหน้าซื้อเสียงอย่างหนัก ช่วงนี้รายได้ดี ตอนนี้คิดจะซื้อ ส.ส.ฝ่ายค้านมาร่วม อยู่ไกลแต่ได้ข่าว การเมืองมันกลับมาเน่าเหมือนเดิม”

 

นั่นคือท่าทีต่อการเมืองที่นายทักษิณแสดงออกอย่างชัดเจน ไม่มีการอ้อมค้อม

เป็นความไม่อ้อมค้อมในบรรยากาศการเมืองที่เพิ่มความไม่แน่นอนขึ้นเป็นตามลำดับ

ทั้งนี้ จับจากท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ที่สั่งให้รัฐมนตรีรีบโชว์ผลงานให้เป็นรูปธรรมภายใน 1 ปี

และยังประกาศพร้อมจะเปิดประเทศภายใน 120 วัน ซึ่งก็ตกอยู่ในช่วงปลายปีพอดี

จึงเสมือนเป็นการเร่งเกมการเมืองไปสู่การยุบสภาในช่วงปีหน้า

ประกอบกับพรรค พปชร.ที่เดินหน้าจัดศูนย์อำนาจใหม่ ด้วยการให้ ร.อ.ธรรมนัสขึ้นมาคุมเลขาธิการพรรค

อันสะท้อนให้เห็นว่า พปชร.เร่งเดินหน้าการเมืองเต็มที่อย่างแน่นอน มีการพูดถึงการ “ดูด” นักการเมืองจากพรรคอื่นมาร่วม

ลุยแก้รัฐธรรมนูญ เปลี่ยนกลับไปใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ซึ่งหมายถึงความตั้งใจที่จะกวาด ส.ส.เขต และ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เพื่อเป็นพรรคเสียงข้างมากเด็ดขาด โดยมีกลไกภาคราชการ และทุนเกื้อหนุน

 

แน่นอนเป้าหมายที่ พปชร.จะมุ่งเข้าไปทะลวงย่อมไม่พ้นพรรคเพื่อไทย ทั้งภาคเหนือ และอีสาน

ซึ่งมีข่าวแว่วออกมาเป็นระยะๆ ว่า มี ส.ส.ที่จะแปรพักตร์ไม่น้อย

ดังนั้น ที่นายทักษิณดักคอว่า “ครั้งหน้าซื้อเสียงอย่างหนัก ช่วงนี้รายได้ดี ตอนนี้คิดจะซื้อ ส.ส.ฝ่ายค้านมาร่วม” จึงไม่ได้เป็นการพูดอย่างลอยๆ

แต่ผู้มีประสบการณ์การเมืองมากอย่างนายทักษิณมองออก

จึงต้องรีบสกัด

เราจึงเห็นการเคลื่อนไหวของนายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ในระยะหลังออกมาอย่างต่อเนื่อง

เพื่อรักษาพรรคเพื่อไทย

และเพื่อสื่อสารไปถึงทั้งฐานเสียงเดิม ว่าทักษิณและปูยังอยู่

พร้อมกันนั้น ยังขยายไปถึงคนรุ่นใหม่

ที่ต้องการวิชั่นใหม่ๆ และในหลายช่องทาง

ไม่เว้นแม้กระทั่งท้ายรถตุ๊กตุ๊ก ที่แฟนคลับดำเนินการให้ ซึ่งนายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ย่อมไม่ขัดข้องและขานรับอย่างยินดี

ด้วยเป็นดั่งขีปนาวุธวิถีโค้งในทางการเมือง ที่มีประสิทธิภาพ แม้จะอยู่ไกลถึงดูไบ

แต่ก็สามารถหาช่องเข้าไปอยู่ในเทรนด์ของคนรุ่นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

และทำให้วันเกิดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์มีประเด็นและความหมาย พร้อมยืนยันถึงการดำรงอยู่ของพี่โทนี่และน้องปู

ซึ่งพร้อมจะต่อกรกับรัฐบาลที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ และพรรค พปชร.ที่นำโดย พล.อ.ประวิตร และ ร.อ.ธรรมนัส ที่มุ่งมั่นเช่นกันว่าจะสยายอำนาจคุมการเมืองไทยและสกัดกั้น 2 พี่น้องชินวัตรในทุกวิถีทางเช่นกัน