เมนูข้อมูล

นายดาต้า

 

ความยิ่งใหญ่ที่ไร้สุข

 

ผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครศรีธรรมราชที่ “พรรคประชาธิปัตย์” พ่ายแพ้ “พรรคพลังประชารัฐ” สูญเสียความขลังของการเป็นเจ้าของพื้นที่ภาคใต้

ซึ่งความหมายต่อไปก็คือ เลือกตั้งครั้งหน้าจะเปลี่ยนไป

จากก่อนหน้านั้นพรรคการเมืองอื่นที่ไม่ใช่ “ประชาธิปัตย์” คิดกันว่าทุ่มไปก็เท่านั้น ยากจะชนะเจ้าของพื้นที่ได้

การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ทำให้ข้อสรุปนั้นเปลี่ยนไป ต่อไปนี้ “ปักษ์ใต้ไม่มีเจ้าของพื้นที่อีกแล้ว ใครก็ทุ่มสู้ได้”

“พลังประชารัฐ” ของ “พี่น้องบูรพาพยัคฆ์” ทำให้การเมืองเปลี่ยนไปแล้ว

เรื่องราวเช่นนี้หากเป็นก่อนหน้านั้น ไม่ว่าใครย่อมคาดเดาได้ว่า “ประชาธิปัตย์” จะต้องออกมาโวยวายถึง “ความไม่ชอบธรรม”

โดยเฉพาะข้อกล่าวหาว่า “ซื้อเสียง” ทำให้การเมืองกลายเป็น “ตลาดซื้อ-ขายคะแนน” เหมือนหลังความพ่ายแพ้ทุกครั้งที่ผ่านมา

แต่ครั้งนี้ไม่ใช่สำหรับ “พลังประชารัฐ”ซึ่งเป็นแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่มี “ประชาธิปัตย์”เกาะเก้าอี้อยู่แน่น ดูเหมือน “การยอมรับความพ่ายแพ้” เกิดขึ้นโดยดุษณี

ไม่มีเสียงตัดพ้อใดๆ จาก “ผู้นำประชาธิปัตย์” ยุคนี้

ทุกอย่างดำเนินไปในสภาวะที่ “บูรพาพยัคฆ์” จัดการได้อย่างยอดเยี่ยมยิ่งในทุกเรื่อง เช่นเดียวกับกระแสการเมืองทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์ที่รับรู้กันอยู่ว่าเริ่มถูกคอนโทรลอย่างหนักหน่วงโดยกองทัพไอโอที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยงบประมาณมหาศาล

เป็นกองทัพที่มีกลไกบุกทะลุทะลวงไม่เว้นแม้แต่การช่วงชิงเสียง ส.ส.จากฝ่ายค้านในโหวตสำคัญของสภาผู้แทนราษฎร ในนามเอกสิทธิ์ของ ส.ส.

ในทางการเมืองการวางเกมของ “บูรพาพยัคฆ์” ควบคุมทุกกลไก

แม้กระทั่งผลโพล

การสำรวจล่าสุดของ “ซูเปอร์โพล” ที่ “นพดล กรรณิกา” ถือเอาเป็น “อาชีพ” ล่าสุดเสนอเรื่อง “การเมือง อย่าสุมไฟ ม็อบ” สรุปว่าประเด็นที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ประชาชนร้อยละ 99.8 ระบุ นักการเมือง มุ่งแต่แย่งตำแหน่งรัฐมนตรี ไม่ดีต่อสถานการณ์บ้านเมือง ความขัดแย้งในหมู่ประชาชนตอนนี้

ร้อยละ 99.2 ผิดหวังนักการเมือง แย่งตำแหน่งรัฐมนตรี มุ่งถอนทุนคืน มากกว่าทำงานเพื่อแก้ความเดือดร้อนทุกข์ยากของประชาชน

และร้อยละ 98.7 เสื่อมศรัทธาต่อนักการเมือง แย่งตำแหน่งรัฐมนตรีกันในสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบันนี้

ความเลวร้ายทั้งหมดของผลโพลนี้ชี้ไปที่นักการเมือง

ขณะที่ร้อยละ 93.0 เชื่อมั่นต่อจิตวิญญาณทหารของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเด็ดขาดเลือกคนดีเป็นรัฐมนตรี แก้วิกฤตชาติและวิกฤตของประชาชน

ร้อยละ 64.2 เชื่อค่อนข้างมากถึงมากที่สุดว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเลือกข้างผลประโยชน์ชาติและของประชาชน มากกว่าผลประโยชน์ของนักการเมืองที่จะถอนทุนคืน

จิตวิญญาณของพี่น้องบูรพาพยัคฆ์ในผลของซูเปอร์โพลช่างสูงส่ง ไม่ต่างอะไรกับมุมคิดที่นำเสนอโดยไอโอที่แสดงพลังกันเข้มข้นทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์

 

ไม่ว่าจะทำใจได้หรือไม่ก็ตาม แต่ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่ากระแสการเมือง และผลของการจัดการช่วงชิงพื้นที่ทางการเมือง “บูรพาพยัคฆ์” เหนือชั้นอย่างยิ่ง

หลังใช้กำลังยึดอำนาจ แล้วเขียนรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบ วางกลไกรักษากฎหมายที่ “ดีไซน์มาเพื่อพวกเรา” แบบไม่ให้ใครกระดิกเป็นอื่นได้ การจัดโครงสร้างเพื่อควบคุมฐานคะแนน และกระแสการเมืองดำเนินไปอย่างเป็นระบบ จัดระเบียบให้ “นักการเมือง” ไปอยู่ในคอกที่มีภาพว่าเป็น “ผู้มีจิตสำนึกเลวร้าย”

“คุกคามผู้แข็งขืน แจกจ่ายผู้สยบยอม”

ขบวนการสืบทอดอำนาจทางการเมืองประสบความสำเร็จสูงยิ่ง

เพียงแต่ว่า การควบคุม “จิตสำนึก” ที่ก่อนหน้านั้นเคยทำผ่าน “การศึกษาในระบบ” ถึงวันนี้มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแล้ว

การควบคุมความรู้สึกนึกคิดของ “คนรุ่นที่เกิดมาใหม่” หากไม่เป็นด้วยการทำให้เห็น “ความหวังชีวิตในอนาคต” ที่การรับรู้ว่า “ชีวิตแบบไหนพัฒนาสู่ความดีงามแห่งอิสรภาพ” ย่อมยากเย็นที่จะควบคุมได้

การสืบทอดอำนาจต่อไป โดยสร้าง “ความหวังให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ไม่ได้” มีแต่จะถูกกดดันให้ต้องใช้อำนาจอย่างเคร่งเครียดไม่รู้จบ

สังคมแบบนั้น ไม่มีใครอยู่เป็นสุข ไม่เว้นแม้แต่ “ผู้มีอำนาจ”