สิ้นมุรซีย์ผู้นำอียิปต์ แต่กระเทือนโลกมุสลิม

ด้วยพระนามของอัลลอฮ์ ผู้ทรงเมตตากรุณาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์ผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขจงมีแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีแด่ผู้อ่านทุกคน

ข่าวโลกมุสลิมทั่วโลกจะเต็มไปด้วยภาพและคลิปการพูดของ ดร.มุฮัมมัด มุรซีย์ อดีตประธานาธิบดีอียิปต์ที่ถูกรัฐประหารเพราะท่านเสียชีวิตเมื่อวันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน 2562 ในวัย 67 ปี ระหว่างนำตัวขึ้นศาล โดยมีการอาการหมดสติและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

มุรซีย์ดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 5 ของอียิปต์จากกลุ่มภราดรภาพมุสลิม (Muslim Brotherhood) เข้าสาบานตนในวันที่ 30 มิถุนายน ปี 2555 ในฐานะประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยของประเทศอียิปต์เป็นครั้งแรก

และถูก พล.อ.อับดุลฟัตตะฮฺ อัซซีซีย์ ประธานาธิบดีคนปัจจุบันทำรัฐประหารในเดือนกรกฎาคม ปี 2556 ในขณะนั้นอัซซีซีย์ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองทัพ

มุรซีย์ผู้นำอียิปต์ ถือเป็นขวัญใจผู้นำมุสลิมที่ได้รับความนิยมและต่อต้านในโลกมุสลิม

สำหรับในหมู่คนที่ยกย่องท่านนั้นจะมีการนำภาพท่าน และคลิปที่ท่านแสดงจุดยืนต่อต้านยิวไซออนิสต์และอเมริกามารำลึกถึง หลายครั้งเราเห็นภาพท่านนำละหมาด นำประชาชนทุกภาคส่วน (ข้าราชการ นักการศาสนา นักวิชาการ ประชาสังคม) ด้วยเสียงอัลกุรอานที่ไพเราะ

ดร.ฆอซาลี เบ็ญหมัด คณบดีคณะอิสลามศึกษา มหาวิทยาลัยฟาฏอนี กล่าวว่า

ประธานาธิบดีแอร์โดอานของตุรกี โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวทันทีหลังทราบข่าวการเสียชีวิตของประธานาธิบดีมุรซีย์ ว่า “รับทราบข่าวการเสียชีวิตของมุฮัมมัด มุรซีย์ พี่ชายของข้าพเจ้า ประธานาธิบดีจากการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยคนแรกของอียิปต์ ด้วยความรู้สึกโศกเศร้าเสียใจอย่างที่สุด ขอดุอาให้อัลลอฮ์เมตตาต่อชะฮีดมุฮัมมัด มุรซีย์ หนึ่งในนักสู้คนสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของระบอบประชาธิปไตย…เราเป็นของอัลลอฮ์ เราต้องกลับคืนสู่พระองค์ อดีตประธานาธิปดีมุฮัมหมัด มุรซีย์ คือหนึ่งในนั้น”

ในขณะเดียวกันผู้นำตุรกียังประกาศรณรงค์ให้ทุกมัสยิดรวมทั้งประชาชนร่วมละหมาดศพ (ฆออิบ) เหมือนกับมีการจัดกันทั่วโลกมุสลิม ไม่ว่าปาเลสไตน์ ยุโรป ตะวันตก อาเซียน แม้กระทั่งหลายมัสยิดชายแดนใต้

หลังจากการแสดงจุดยืนผู้นำตุรกีต่อท่าน มีหลายผู้นำมุสลิมหลายท่านไม่ว่า กาตาร์ มัลดีฟส์ บอสเนียและมาเลเซียมีจุดยืนเห็นคล้อยผู้นำตุรกี

ไม่เพียงเท่านั้น ยังเรียกร้องร่วมกับองค์กรสิทธิมนุษยชนสากลต่างๆ ผ่านคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ สอบสวนการตายของมุรซีย์ครั้งนี้และการละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรงในอียิปต์อย่างอิสระ เที่ยงตรง โปร่งใส

ในขณะที่ภาคประชาชนหลายประเทศโลกมุสลิม แม้แต่มุสลิมตะวันตกออกมาแสดงความเสียใจและประณามรัฐบาลทหารที่ยึดอำนาจจากมุรซีย์ คือนายพลซีซี ว่า เป็นต้นเหตุของการตายของมุรซีย์ครั้งนี้ กล่าวคือ มีการร้องเพลงนี้ซึ่งมีใจความว่า

“ไม่มีพระเจ้ายกเว้นอัลลอฮ์

มุฮัมมัดคือศาสนทูตของอัลลอฮ์

ซีซี ศัตรูอัลลอฮ์”

เพลงที่ผู้ประท้วงในโลกอาหรับใช้ร้องต่อต้านคณะรัฐประหารอียิปต์เริ่มจากแอลจีเรีย ลามถึงเมืองราบัต โมร็อกโก

ในขณะที่ในสภาผู้แทนราษฎรตูนิเซียมีการขอพรแก่มุรซีย์

(แม้จะมีการประท้วงจาก ส.ส.หญิง 1 คน ว่าไม่ควรขอพรแก่มุรซีย์ โดยนางมองว่ามุรซีย์คือผู้ก่อการร้ายอยู่เบื้องหลังเหตุรุนแรงในอียิปต์จนประชาชนหลายร้อยชีวิตต้องเสียชีวิต)

ในประเทศไทยมีหลายมัสยิดละหมาดศพและขอพรให้ท่าน รวมทั้งมีเวทีถอดบทเรียน เสวนา (ทั้งเวทีและบนโลกโซเซียล) ถึงบทบาทของท่านด้านการเมืองในโลกมุสลิม

ดร.วิสุทธิ์ บินล่าเต๊ะ ผู้อำนวยการสำนักจุฬาราชมนตรีส่วนหน้า พูดถึงท่านว่า “อีกหนึ่งชีวิตที่ทอดร่างเป็นเนื้อดินให้ต้นไม้แห่งการญิฮาดได้เติบโตต่อไป ดร.มุฮัมมัด มุรซีย์ ประธานาธิบดีแห่งอียิปต์ ผู้ไม่เคยคิดสยบต่ออำนาจเถื่อนจากรถถังและกระบอกปืนของคนโฉดเขลา ผู้ที่ไม่เคยคิดจะขายตัวแก่เงินตราที่เหล่าผู้เสพสุขบนกองเงินกองทองนำมาซื้อจิตวิญญาณของท่าน ผู้ที่เหล่าสะละฟีย์ซึ่งตีบตันทางความคิดร่วมกับอุละมาอฺผู้ชั่วช้าพากันกล่าวหาว่าท่านเป็นผู้ก่อการร้าย เพียงเพราะไม่สมยอมกับผลประโยชน์ของอเมริกาและไซออนิสต์ ท่านจากไปเพื่อผ่านพ้นความเจ็บปวดจากน้ำมือทรราชสู่ความรื่นรมย์อันยั่งยืนภายใต้พระเมตตาแห่งอัลลอฮ์โดยแท้ ขออัลลอฮ์ทรงโปรดรับท่านได้อยู่ร่วมกับเหล่าศาสดา วีรชน ผู้ทรงสัตย์และผู้ทรงคุณงามความดีในสรวงสวรรค์อันสถาพร และขอทรงโปรดให้เราเป็นหนึ่งในนักต่อสู้เพื่อขจัดม่านหมอกแห่งความอธรรม ตามแนวทางแห่งศาสนทูตด้วยเทอญ”

อาจารย์มัซลาน มุฮัมมัด กล่าวถึงมุรซีย์ว่า “บางคนวันที่เขาเสียชีวิต ผู้คนร่ำไห้ไปทั่วโลก บางคนวันที่เขาเสียชีวิต ผู้คนดีใจไปทั่วโลก ปธน.มุรซีย์คือบุคคลประเภทแรก ท่านจากไปแล้วแต่แนวคิด จุดยืนและวิญญาณแห่งการญิฮาดของท่าน ไม่ได้ตายจาก สูเจ้าอย่าไปนึกว่าคนที่ถูกฆ่าในเส้นทางของอัลลอฮ์นั้น ได้ตายจากไป แท้จริงพวกเขามีชีวิต ณ พระเจ้าของพวกเขา และพวกเขาได้รับปัจจัยยังชีพ”

เนื่องจากการเสียชีวิต ท่านยังถูกจองจำในคุก ถูกตัดสินตลอดชีวิต

อย่างไรก็แล้วแต่ ธรรมดาของโลกการเมืองก็ย่อมมีคนไม่ชอบท่านมากมายโดยเฉพาะรัฐบาลอียิปต์ ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมทั้งนักการศาสนาฝ่ายรัฐ รวมทั้งมวลชนคนของรัฐดังกล่าว แม้แต่ในประเทศไทยก็มี

ดังนั้น มีไม่น้อยในโลกโซเซียลเหมือนกันที่ดีใจ สะใจ การจากไปของท่าน มีการนำคลิปในอดีตนักการศาสนาสำคัญๆ โดยเฉพาะจากมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร ประเทศอียิปต์ นำโดยอลี ญุมอะห์ อะหมัด ตอยยิบ กล่าวหาท่านเสียๆ หายๆ ว่าเป็นผู้ก่อการร้ายในคราบมุสลิม “ท่านมุรซีย์คือแกนนำก่อการร้าย มุสลิมสุดโต่งของกลุ่มภราดรภาพมุสลิม (Muslim Brotherhood)”

เป็นที่น่าสังเกตว่าประเทศที่โจมตีท่านมาจาก “ผู้นำประเทศอียิปต์ ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ซึ่งมีปัญหาด้านการเมืองกับกลุ่มภราดรภาพมุสลิม (Muslim Brotherhood)

ที่มีผลทางการเมืองหลังอาหรับสปริง