ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 24 - 30 พฤษภาคม 2562 |
---|---|
คอลัมน์ | รายงานพิเศษ |
เผยแพร่ |
ถึงแม้ว่าจะผ่านความหนาวเย็นในช่วงคริสต์มาสและปีใหม่มาแล้ว แต่อุณหภูมิในช่วงต้นเดือนมีนาคมที่เมืองฟิลาเดลเฟียก็ยังหนาวเยือกในระดับ 0 ํC หรือติดลบ บางวันก็มีหิมะลงมาปกคลุมขาวโพลน
เช้าวันที่ 2 มีนาคม 2019 ผมขับรถจากบ้านที่เมืองเรดดิ้ง (Reading) ไปยังเมืองฟิลาเดลเฟีย (Philadelphia) ใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่งบนไฮเวย์ที่สองข้างทางปกคลุมด้วยหิมะ บางจังหวะมีหิมะโปรยปรายลงมาต้องใช้ที่ปัดน้ำฝนปัดออก
มุ่งตรงไปยัง Pennsylvania Convention Center ศูนย์ประชุมแห่งเพนซิลเวเนียที่อยู่ใจกลางเมือง
ศูนย์ประชุมแห่งนี้เป็นอาคารหินอ่อนขนาดใหญ่สง่างามมาก สร้างในยุคโคโลเนียนสมัยที่เมืองฟิลาเดลเฟียเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของอเมริกา
มุ่งมาที่นี่เพื่อชมงานแสดงพืชสวนและไม้ดอกของ PHS Pennsylvania Horticultural Society หรือสมาคมพืชสวนแห่งเพนซิลเวเนีย
ที่เป็นเจ้าภาพจัดงาน Philadelphia Flower Show ทุกปี เป็นงานแสดงพันธุ์ไม้ในร่มที่เก่าแก่ที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก จัดแสดงต่อเนื่องมา 190 ปีแล้ว
ธีมของงานปีนี้ใช้ชื่องานว่า
Flower Power
เพื่อรำลึกถึงวาระครบรอบ 50 ปีของเทศกาล Wood Stock งานจึงจัดในบรรยากาศ Pop Art ปี 1960
ในงานเลี้ยงดินเนอร์คืนก่อนเปิดงาน มีวงดนตรีเล่นเพลงของ The Beatles ให้เต้นรำ
งานนี้เป็นที่รวมของนักแต่งสวน นักแต่งดอกไม้ นัก Landscape ทั่วโลก
งานจัดแสดงระหว่างวันที่ 2-10 มีนาคม 2019 แต่ละปีมีผู้เข้าชมงานทั้งชาวอเมริกันและจากทุกมุมโลกมากมาย ปีที่ผ่านมามีแขกเข้าชมงานกว่า 250,000 คน และปีนี้หวังว่าจะมามากกว่านั้น
PHS คือหน่วยงานอิสระที่ดูแลชุมชนพืชสวนกว่า 250 ชุมชนในภูมิภาคฟิลาเดลเฟีย ด้วยการให้การศึกษาอบรม การมอบซัพพลายและส่งความช่วยเหลือด้านเทคนิเชี่ยนให้แก่สวนเกิดใหม่กว่า 150 สวนตลอดทุกฤดูกาล ความต้องการการช่วยเหลือจาก PHS นี้เพิ่มขึ้นมากทุกปีจนเกินกำลังที่ PHS จะรองรับได้
PHS อยู่ได้ด้วยรายได้จากการจัดงาน Flower Show และเงินบริจาคหักภาษีเงินได้
นอกจากนี้ PHS ยังสร้างงานให้ผู้อพยพที่ย้ายเข้ามาใหม่ได้มีอาชีพในการดูแลพืชสวนเพื่อสร้างชีวิตใหม่
เหนืออื่นใด ปรัชญาของ PHS คือการสร้างชุมชนผู้ฝักใฝ่ในการทำสวนเพื่อสร้างสีเขียวของอาหารมาแบ่งปันเสริมสร้างมิตรภาพ
ดอกไม้และพืชพันธุ์มีคุณภาพเป็นยารักษาได้หลายโรค เช่น เบาหวาน อัลไซเมอร์ และอาการคลุ้มคลั่ง
นี่ขนาดที่ “กัญชา” ยังไม่ยอมรับเป็นสิ่งถูกกฎหมายในเพนซิลเวเนียเลยนะ
ดอกไม้ยังเป็นพลังเสริมสร้างเศรษฐกิจ เช่น การปลูกพันธุ์ไม้ในบางพื้นที่ของอเมริกาใต้ แอฟริกา และเนเธอร์แลนด์ ล้วนช่วยสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจทั้งนั้น
ที่จอดรถของงาน Flower Power เป็นที่จอดรถเอกชน ต้องเดินฝ่าลมหนาวมาไกลพอประมาณ จัดประตูเข้างานไว้ 2 ประตู เพิ่งจะ 10 โมงเช้า แต่คิวเข้าชมงานที่จะเปิดให้ชมตอนเที่ยงก็เริ่มยาวสะสมแล้ว
ทุกปีผมจะเข้าคิวรอเข้าชมเช่นนี้นานกว่า 2 ชั่วโมง แต่ปีนี้เปลี่ยนใจให้เพื่อนที่เป็นสมาชิก PHS เชิญผมเข้าเป็นสมาชิกเสียค่าบำรุงปีละ $ 60 แล้วจ่ายค่าบัตรผ่านประตูอีก $ 30 รวมจ่าย $ 90
แต่มีข้อดีคือ ไม่ต้องยืนเข้าคิวรอประตูเปิด 2 ชั่วโมง ได้เข้าชมงานก่อนในฐานะแขก VIP แถมได้รับบริการอาหารเช้าแบบฝรั่งเสิร์ฟพร้อมแชมเปญ
บริเวณหน้างานด้านนอกหอประชุมจะมีบูธร้านค้าเรียงรายสองฟากยาวตลอดความยาวของตัวอาคารที่ทอดเลี้ยวหักข้อศอก บูธร้านค้ามีเป็นร้อยร้าน เสนอขายพวกอุปกรณ์ทำสวน เมล็ดพันธุ์พืชหลากหลาย ดอกไม้งามหลากพันธุ์ รีสอร์ตสวยงามด้วยไม้ประดับก็มีนำมาเสนอขาย
รถซูบารุสปอนเซอร์หลักของงาน Flower Power เขียนลายดอกไม้หลากสีสดสวยงามจอดโชว์หน้างาน
ซูบารุเป็นรถขายดีในรัฐนี้ มีชื่อมานานปี เพราะเป็นรถ AW ใช้ตะกุยหิมะได้ดี แถมราคามิตรภาพ
เดินเข้าประตูมา ต้องตื่นตาตื่นใจกับซุ้มดอกไม้ซุ้มแรกต้อนรับที่ประดับประดาดอกไม้หลากสีถึง 18,000 ดอกรวมพันธุ์ไม้ห้อยตกแต่ง ในรูปทรง Pop Art ปี 1960 เพื่อเป็นที่ระลึกครบรอบ 50 ปีของเทศกาล Woodstock อันเป็นที่มาของบรรยากาศงานใน Theme
Flower Power
ซุ้มต่อมากว่ายี่สิบซุ้มเป็นซุ้มแข่งขันจัดดอกไม้จากนักจัดดอกไม้ทั่วโลก มีมาจากรัสเซีย ฝรั่งเศส อิตาลี เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ สวีเดน อังกฤษ ฮ่องกง เกาหลี จีน เม็กซิโก บราซิล ฯลฯ คนจัดดอกไม้ยืนจัดอยู่คนเดียวบนเวที แต่งประดิดประดอยให้สวยงามที่สุด ดูป้ายชื่อและประวัติผลงานแต่ละคนล้วนแต่เป็นมือหนึ่งที่ส่งมาจากแต่ละประเทศ รวม 23 คน 23 ประเทศ
งานประกวดแต่งซุ้มต้นไม้เป็นงานยิ่งใหญ่ FTD World Cup ไม่ได้จัดประกวดทุกปี จัดกัน 4-6 ปีต่อครั้ง คราวที่แล้วประกวดในเยอรมนี ปี 2015 คราวนี้จัดประกวดครั้งแรกในอเมริกา
ผู้เข้าประกวดมีเวลาจัดแต่งดอกไม้ 2 ชั่วโมง มีคณะกรรมการเทคนิคนานาชาติตรวจให้คะแนนว่าการจัดแต่งทำถูกต้องตามกติกา แล้วมีผู้เชี่ยวชาญอีก 6 คนเป็นกรรมการตัดสินขั้นสุดท้าย
แชมป์จัดดอกไม้ FTD World Cup ถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
ด้านต่อไปเป็นมุมจัดดอกไม้โชว์มีหลายสิบซุ้มล้วนสวยงาม เช่น แต่งเป็นดอกไม้ประดับบ้านโบราณ มีกังหันวิดน้ำหน้าบ้าน จัดเป็นลานสวนดอกไม้สมัยกรีก แต่งดอกไม้รอบลานน้ำพุสวยงาม ลานดอกไม้สมัยฮิปปี้ 1960 มีตราสัญลักษณ์สันติภาพอันใหญ่แต่งด้วยดอกไม้งดงาม ฯลฯ
เป็นที่สุดของการจัดซุ้มดอกไม้โชว์แห่งโลก
นักจัดดอกไม้และนักแลนด์สเคปต่างโชว์ฝีมือกันอย่างเต็มที่ละลานตายิ่งนัก
แน่นอนว่าการจัดดอกไม้แบบญี่ปุ่นย่อมต้องปรากฏในงานนี้ มีซุ้มจัดดอกไม้แบบ “อิเคบานะ” หลายซุ้ม ตกแต่งได้วิจิตรพิสดารงดงามเป็นที่สุด
การจัด “สวนญี่ปุ่น” ก็มีหลายซุ้ม ปรัชญาการจัดสวนญี่ปุ่นไม่ใช่แค่การจัดสวนแบบธรรมดา แต่คือสัจธรรมแห่งชีวิตที่เข้าถึงด้วยวิถีแห่งเซน
“บอนไซ” เป็นการสร้างต้นไม้แคระในสไตล์ญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งงานศิลป์สวนญี่ปุ่นที่นำมาแสดงหลายบูธ
มีการจัดสอน Work Shop จัดดอกไม้บนเวทีด้านนี้ มีผู้ชมเข้ารับการฝึกสอนแน่นเต็มที่นั่งและยืนฟังจนล้น
เดินไปอีกด้านเป็นลานแสดงดอกไม้ประเภทต่างๆ กล้วยไม้ รวมทั้งพวกกระเช้าแขวนที่ชนะการแข่งขัน จัดโชว์ตั้งแต่กระถางที่ได้รางวัลที่ 1 ถึงที่ 4 และรางวัลชมเชย
ดอกไม้ติดรางวัลนี้ล้วนสวยงามเป็นที่สุด
มีการประกวดที่น่าทึ่งอีกอย่าง คือการแข่งขันประดิษฐ์เมล็ดพืชเป็นงานศิลป์ ที่ชนะติดรางวัล เช่น การแต่งเป็นรูปนก เป็นลวดลายศิลปะแบบพรมปูพื้น
ขาใหญ่ของสวนพฤกษศาสตร์โลกในรัฐนี้อย่าง Longwoods Garden ย่อมต้องมีบูธโชว์ความงามของพันธุ์ไม้อันละลานตา ถือเป็นหน้าตาของชาวเพนซิลเวเนีย
และเมื่อมาชมงานแล้วถ้าจะซื้อดอกไม้ติดมือกลับไปก็มีขายในงานหลายบูธ ที่เห็นคนซื้อกันมากคือกุหลาบแสนสวยราคาโหลละ $ 10 ถือว่าไม่แพงสำหรับที่นี่
และนี่คืองานที่กระตุ้นผู้ชมได้รับรู้ถึง Power of Flowers ที่มีอยู่ในตัวเราทุกคน