บุศรินทร์ ปัทมาคม | ความรู้เรื่อง “นวางค์จักร”

นวางค์จักร คืออะไร?

นวางค์จักร์ คือส่วนขยายอธิบายระดับวาสนาของดาวพระเคราะห์แต่ละดวงที่ปรากฏอยู่ในดวงราศีจักร ส่วนขยายนี้มีความสำคัญช่วยให้โหรเข้าใจระดับวาสนา ชะตาชีวิตของแต่ละคนได้อย่างละเอียด ช่วยให้โหรตีความดวงเดิมให้แตกได้ง่ายขึ้น

คำว่า “ตีความดวงเดิมให้แตก” นั้น เป็นความจำเป็นที่โหรจะต้องใช้อ่าน “ดวงเดิม” และการทำนาย “อนาคต”

ในการทำนายอนาคต เหตุการณ์จะเกิดขึ้นหนักหรือเบา รุนแรงหรือไม่จะต้องเป็นปฏิภาค (ผกผัน) ตามพื้นดวงเดิม ที่โหรจะสามารถทำนายได้ โดยต้องอาศัยการอ่านจาก “นวางค์จักร” เป็นสำคัญเสมอ

ด้วยเหตุผลดังกล่าว การใช้นวางค์จักรเป็นความจำเป็น เป็นส่วนสำคัญในการทำนาย (อ่านดวงชะตา) จึงไม่ได้ทำในแบบ “เล่นนวางค์”

ตรงนี้แหละที่ผมอยากจะเขียนอธิบายให้ท่านผู้อ่านที่สนใจวิชาโหราศาสตร์ได้เข้าใจและเห็นประโยชน์ในการใช้นวางค์จักร เพื่อขยายความดวงราศีจักร

การทำนายโดยใช้แต่เพียงดวงราศีจักร หรืออาจเรียกว่า ดวง “อีแปะ” นั้นเป็นการอ่านจากดวงเชิงเดี่ยว ซึ่งมีหลายอาจารย์หรือหลายตำราก็ใช้อ่านกันได้เพียงเท่านั้น ท่านบรรดาโหรเหล่านั้นจึงมองเห็นว่า นวางค์จักรเป็นส่วนเกิน หรือไม่จำเป็น โดยไม่ได้มองว่า นวางค์จักรเป็นส่วนขยายความวาสนา

สรุปว่าถ้าใช้นวางค์จักรจนชำนาญ มีความจำเป็นต้องใช้ในการอ่านดวงชะตา และนวางค์จักร

การทำนวางค์ เกิดจากอะไร?

ในแต่ละวัน ดาวพระเคราะห์ทุกดวงจะเคลื่อนที่ไปในแต่ละราศี โดยมีการโคจรได้องศาและลิปดาไม่เท่ากัน ซึ่งจะปรากฏการคำนวณดูได้จากตาราง คำนวณทางดาราศาสตร์ ที่ตรงนี้แหละที่โหรจะสามารถอ่านระดับวาสนาชะตาชีวิตของเจ้าชะตาแต่ละคน ที่เกิดมาในวันนั้นได้

สรุปว่า นวางค์จักรเกิดจากการคำนวณองศาลิปดาในวันที่เกิด

องศาลิปดาในวันที่เกิดจะบอกให้โหรรู้ถึงระดับวาสนา หรือขีดความสามารถของดาวพระเคราะห์ของแต่ละคน ระดับวาสนาดังกล่าวทำให้โหรเข้าใจเป็นอย่างดีในแบบตีความดวงเดิมให้แตก ซึ่งจะทำนายหรืออ่านแต่เพียงดวงราศีจักร หรือดวงอีแปะอย่างเดียวไม่ได้ เพราะดาวพระเคราะห์บางดวงอาจจะหลอก

จึงจำเป็นต้องมี “นวางค์จักร” ไว้คอยกำกับหรือขยายความดวงเดิมเอาไว้ โหรจะต้องระมัดระวังในการอ่านหรือทำนายดวงชะตา โดยจะต้องคอยตรวจสอบคุณภาพของดาวพระเคราะห์แต่ละดวงในวันที่เกิดเสมอ

สรุปว่า นวางค์จักรเป็นความจำเป็นที่ต้องใช้ในการพิจารณาก่อนอ่านดวงเดิม หรือก่อนออกทำคำทำนายดวงเดิม และการทำนายอนาคตเสมอ กระบวนการใช้นวางค์จักรจึงเป็นความจำเป็นที่ต้องทำและต้องใช้ พูดง่ายๆ ก็คือ นวางค์จักรช่วยให้โหรอ่านได้ถูกต้องละเอียดและแม่นยำกว่าการใช้แต่เพียงดวงอีแปีะ หรือดวงราศีจักรแต่เพียงอย่างเดียว

ตัวอย่างดวงชะตาที่อ่านแต่เพียงดวงราศีจักรแต่เพียงอย่างเดียว แล้วโหรจะต้องทำนายผิดเพราะดาวพระเคราะห์หลอก อย่างตรงกันข้ามทีเดียว

ตัวอย่างคนวาสนาน้อย เรียนจบแล้วอยู่เฉยๆ มา 10 ปี หางานทำยาก ดาวเสาร์ (7) ในนวางค์จักร ได้มาตรฐานต่ำทราม (ประเกษตร)

ในดวงราศีจักร-ดาวพฤหัสฯ (5) ได้มาตรฐานเกษตร และดาวเสาร์ (7) ได้มาตรฐานมหาจักร

แต่ธาตุแท้คุณภาพของดาวพฤหัสฯ (5) ได้มาตรฐานประเกษตร และดาวเสาร์ (7) ได้มาตรฐานประเกษตรในนวางค์จักรทั้งสองดวง จึงทำนายว่าเจ้าชะตาวาสนาน้อย

โดยธาตุแท้อ่านจากนวางค์จักร เจ้าชะตาเป็นคนวาสนาน้อย เจ้าชะตาเล่าว่า หลังจากเรียนจบแล้วไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครยอมรับ ว่างงานติดต่อกันมาร่วม 10 ปี เจ้าชะตาเขียนมาเล่าให้ผู้เขียนทราบว่า แม้แต่งานประเภทใช้แรงงาน เช่น ทำความสะอาด ล้างจาน อาจารย์เชื่อไหมว่าเขายังไม่รับผมเลย

ผมเคยรู้สึกอยากตายเพราะรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า แต่ก็ไม่คิดฆ่าตัวตายเพราะเห็นเป็นบาป

ดาวชะตาคนวาสนาน้อย เพราะดาวพระเคราะห์ดวงใหญ่ หรือดาวพระเคราะห์หลักหลอกว่า ดีมาก คือ ดาวพฤหัสฯ (5) หลอก และดาวเสาร์ (7) หลอก

ดวงชะตานี้เป็นดวงประเภท “หลอกพิเศษ” หมอดูที่ทำนายเฉพาะดวงราศีจักรก็ต้องเชื่อว่าเจ้าชะตาเป็นคนวาสนาดี วาสนาสูงเพราะดูจากดวงราศีจักร ดาวพระเคราะห์หลักได้คุณภาพสูงมากทั้งสองดวง นั่นคือ ดาวเสาร์ (7) ที่กุมลัคนา (ลั) ได้มาตรฐานอุจ และดาวพฤหัสฯ (5) ที่อยู่ในเรือนกัมมะก็ได้มาตรฐานอุจด้วยกันทั้งสองดวง ถ้าอ่านจากดวงราศีจักรแต่เพียงอย่างเดียว ต้องอ่านหรือทำนายว่าวาสนาสูงมาก

แต่เมื่อทำเป็นดวงนวางค์แล้ว ดาวทั้งสองดวงกลับมีคุณภาพอ่อนที่สุดแบบตรงกันข้าม กล่าวคือ ดาวเสาร์ (7) กลับได้มาตรฐานนิจ (อ่อนที่สุด) และดาวพฤหัสฯ (5) กลับได้มาตรฐานประเกษตร (ต่ำทรามที่สุด)

จึงสรุปว่า เจ้าชะตาเป็นคนวาสนาน้อย อย่างตรงกันข้ามกับที่ปรากฏในดวงราศีจักร

ดวงตัวอย่าง ดาวเสาร์ (7) หลอก ดวงแม่ยายหมดตัว

ดวงนี้ดาวเสาร์ (7) ที่ปรากฏในเรือนกดุมภะของดวงราศีจักรได้มาตรฐานเกษตร เรียกว่ามีฐานะการเงิน ต้องทำนายว่า เจ้าชะตาจะต้องรวยมาก แต่ในดวงนวางค์จักร ดาวเสาร์ (7) กลับได้คุณภาพต่ำ มาตรฐานที่ต่ำอย่างมาก อย่างตรงกันข้ามกับปรากฏในดวงราศีจักร

นั่นคือดาวเสาร์ (7) ได้มาตรฐานนิจ ซึ่งหมายความว่า ดาวเสาร์ (7) อ่อนที่สุด ต้องทำนายว่าเจ้าชะตามีทรัพย์น้อย หรือต้องทำนายว่าแท้จริงแล้วเจ้าชะตาเกิดมายากจน แต่โดยที่ดวงราศีจักร ดาวเสาร์ (7) หลอก โหรที่ดูดวงราศีจักรหรือดวงอีแปะแต่เพียงอย่างเดียว จึงเหมือนถูกหลอกโดยไม่รู้ตัว เฉพาะเรื่องฐานะต้องทำนายว่าเจ้าชะตาจะต้องรวยหรือมีฐานะดี

นอกจากเรื่องฐานะแล้ว ยังต้องทำนายเรื่องเจ้าชะตาเป็นคนอดทนน้อย หรือไม่ค่อยอดทนด้วย แต่ถ้าทำนายจากดวงราศีจักรแต่เพียงอย่างเดียว ต้องอ่านหรือทำนายว่าเจ้าชะตาเป็นคนอดทนมาก

ทั้งๆ ที่แท้จริงแล้วต้องทำนายว่าเจ้าชะตาอดทนน้อยที่สุด เพราะดาวเสาร์ (7) ในนวางค์จักรได้มาตรฐานนิจ (อ่อนมาก)