“ฉันลืมหัวใจไว้กับเธอ อาร์เจนตินา”

ไปถึงบัวโนสไอเรสเมื่อต้นเดือนตุลาคม 2018 คืนแรกเปิดทีวีดู ทุกช่องเป็นภาษาสแปนิสทั้งหมด เจอรายการเรื่องเศรษฐกิจการเงิน เขาขึ้นตัวเลขให้ดูค่าเงินเฟ้อสูงสุดของประเทศต่างๆ ในโลกขณะนั้น

จำได้ว่าอันดับหนึ่งคือเวเนซุเอลา ค่าเงินเฟ้อ 2,500,000% (อ่านว่า สองล้านห้าแสนเปอร์เซ็นต์) เงินเฟ้อมากมายมหาศาลจนประมาณค่าไม่ได้ เป็นประเทศล่มสลายโดยแท้จริง

นักเศรษฐศาสตร์ยังทำนายไว้ว่า ค่าเงินเฟ้อของเวเนซุเอลาตอนปลายปี 2019 จะสูงถึง 10 ล้าน% มากมายจนเขียนตัวเลขใส่เลขศูนย์กันไม่ถูก

สงสารคนเวเนซุเอลา อดีตผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในอเมริกาใต้ จะมีชีวิตกันอย่างไร

ประเทศที่เงินเฟ้อมากเป็นที่สองของโลกคือ ซูดาน

อันดับสามของโลกคือ ตุรกี

อาร์เจนตินาครองตำแหน่งเงินเฟ้ออันดับสี่ของโลกที่ 45.5%

หมายความว่า ค่าใช้จ่ายและสินค้าต่างๆ ในอาร์เจนตินาที่คิดเป็นเงินเปโซนั้น เมื่อจ่ายด้วยเงินดอลลาร์จะจ่ายน้อยลงกว่าปีที่แล้ว 45.5% หรือเกือบครึ่งหนึ่ง

เช่น ค่าโรงแรมบวกอาหารเช้าคิดเป็นดอลลาร์วันละ 135 เหรียญที่ผมจ่ายเที่ยวนี้ ถ้ามาเมื่อปีที่แล้วต้องจ่ายราว 196 เหรียญ

ในส่วนของเจ้าของโรงแรมยังรับเงินเปโซปีนี้เท่ากับปีที่แล้ว ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่เราคนมาเที่ยวจ่ายด้วยดอลลาร์น้อยลง 45.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ดังนั้น ช่วงที่อยู่ในอาร์เจนตินา จึงได้เห็นค่าของเงินเปโซไหลลงทุกวัน วันแรกหนึ่งดอลลาร์แลกได้ 35 เปโซ พออีกสองวันแลกได้เพิ่มเป็น 36 เปโซ พอวันท้ายๆ ที่อยู่ที่นั่นแลกได้ 37 เปโซ

ค่าของเงินเปโซที่ลดลงเรื่อยๆ นี้ชักชวนให้คนมาเที่ยวอาร์เจนตินามากขึ้น ยิ่งค่าเงินเฟ้อมากขึ้นยิ่งน่ามาเที่ยว เพราะจ่ายด้วยดอลลาร์น้อยลงนั่นเอง

เพื่อนสาวชาวโคลอมเบียนย้ำว่า สิ่งที่ต้องไม่พลาดในอาร์เจนตินาคือ การลิ้มลองเนื้อสเต๊ก เพราะอาร์เจนตินาคือแหล่งเลี้ยงวัวพันธุ์ดีที่สุดในอเมริกาใต้

ดังนั้น ดินเนอร์มื้อที่สองในบัวโนสไอเรส เราจึงไปลิ้มชิมรสสเต๊กที่ร้าน London City ในย่านตลาด Florida ใกล้กับ Plaza de Mayo แค่เดินนิดเดียว

ร้าน London City ตั้งมาตั้งแต่ปี 1954 เป็นร้านระดับตำนานที่เคยเป็นที่ชุมนุมของศิลปินและนักการเมือง นักเขียนดังของอาร์เจนตินาชื่อ Julio Cortazar มาที่ร้านนี้ทุกวันในช่วงปี 1970 เพื่อเขียนนวนิยายชื่อ Los premios (The Winners) ที่ถือเป็นงานมาสเตอร์พีซของวรรณคดีอาร์เจนติเนียน

ร้านตกแต่งไว้สวยงามคลาสสิค ข้างนอกร้านด้านหน้ามีโต๊ะให้นั่งดื่มกินริมฟุตปาธ ผมสั่งชาอาร์เจนติเนียนและคนข้างกายสั่งกาแฟอาร์เจนติเนียน ทั้งชาและกาแฟหอมละมุนละไมด้วยเป็นของพื้นเมืองแท้

แล้วสั่งสเต๊กหนึ่งจานมาแบ่งกันเพราะมาเป็นชิ้นใหญ่มาก ปะหน้าบนสเต๊กด้วยไข่ดาวและเครื่องเคียงเป็น New Potato มันทอดชิ้นเล็กๆ สั่งสเต๊กชิ้นนั้นให้ทำมาแบบ medium rare สุกปานกลาง ทอดมาหอมกรุ่นได้ที่

อร่อยจนต้องฝันถึง

ปิดท้ายด้วยพายแสนอร่อยอีกชิ้น มื้อนั้นรวมแล้วราว $40 ถือว่าถูกมาก จ่ายด้วยบัตรเครดิตได้ แต่ทิป 10% ต้องเป็นเงินเปโซ

ในร้านอีกด้านเป็นมุมขนมอร่อยหลากหลายรวมทั้งครัวซองต์เลิศรส ทำใหม่ๆ ใส่ตู้โชว์ แอบซื้อติดมือกลับไปโรงแรมตั้งแต่วันแรกแล้ว เป็นขนมที่อร่อยจริงๆ วันที่สองจึงต้องซื้อซ้ำอีก

ร้าน London City เป็น Landmark Cafe ระดับ 5 ดาวที่คนพื้นเมืองอุดหนุนเนืองแน่น และนักท่องเที่ยวต้องไม่พลาด

ในกรุงเทพฯ มีร้านที่นำเข้าเนื้อวัวจากอาร์เจนตินามาทำสเต๊ก ร้านนี้อยู่แถวสุขุมวิท เป็นสิ่งที่คุณต้องลอง

อีกหนึ่งเมนูประทับใจอยู่ที่ร้าน Aqva หรือ Aqua (ภาษาสแปนิสแปลว่าน้ำ) ที่เมือง Puerto Iguazu ทางเหนือ ร้านนี้เป็นร้านอร่อยระดับ 5 ดาวเช่นกัน

สั่งอาหารปลาจานชื่อ Surubim Grelhado หรือ Grilled Surubi (Surubi เป็นชื่อปลา Local River Fish ที่นี่) ปลาตัวนี้แล่ถอดก้างแล้วย่างมาทั้งตัวราดด้วยน้ำซอส Guacamole สีเขียวเพราะทำจาก Avocado มีผักโขมเป็นเครื่องเคียง

อร่อยจนต้องฝันถึงอีกจาน

อีกร้านอยู่ใกล้ๆ กับ Aqva ประทับใจ Pink Selmon ย่าง (Salmon Rosado Grelhado หรือ Grilled Pink Salmon) เป็นแซลมอนที่จับจากทะเล สด และอร่อยมาก

อีกอย่างที่ต้องบันทึกไว้ คือไวน์อาร์เจนติเนียนที่อร่อยสุดสุด ได้ลิ้มชิมรสตั้งแต่อยู่บนเครื่อง Aerolineas Argentina ตอนบินมา คู่สามีภรรยาอาร์เจนติเนียนเมื่อดินเนอร์จะต้องสั่งไวน์หนึ่งขวดเสมอ ราว 900 เปโซ ประมาณ 700 บาท

ถ่ายรูปไวน์อาร์เจนติเนียนบนเครื่องบินลงในไลน์กลุ่มเพื่อน OSK80 เพื่อนที่เป็นผู้จัดการบริษัทนำเข้าไวน์ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยรีบออเดอร์นำเข้าทันที เป็นครั้งแรกที่ไวน์อาร์เจนติเนียนปรากฏโฉมในเมืองไทย แต่ก่อนเมืองไทยรู้จักไวน์อเมริกาใต้จากชิเล่ (ชิลี แต่ออกเสียงแบบอเมริกันเป็นชิเล่) อย่างเดียว

ได้ช่วยส่งเสริมการตลาดให้ไวน์อาร์เจนติเนียนด้วยแล้ว

เล่าถึงรถยนต์ในอาร์เจนตินา ขอบอกว่าบัวโนสไอเรสทั้งเมืองขึ้นไปจนถึงอิกัวซูทางเหนือมีแต่รถยุโรปเกือบล้วนๆ

เปอโยต์ท็อปฮิตที่สุด 406 รุ่นใหม่สวยระยับ ตามมาด้วยซีตรอง ได้เห็นรถเอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุดของซีตรองสวยมาก โฟล์กมีทุกรุ่น รวมทั้งรถกระบะโฟล์กก็ได้เห็นที่นี่

นอกนั้นเป็น BMW Volvo Mercedes-Benz มีเชฟโรเลตของอเมริกามาแจมบ้าง

วนรถญี่ปุ่นเห็นโตโยต้า นิสสัน ซูซูกิอย่างละคัน แถมฮุนไดของเกาหลีอีกคัน ทั้งหมดนี้ไม่เห็นคันที่สอง

นึกถึงภาพชาวเมืองบัวโนสไอเรสยืนต่อแถวรอรถเมล์ที่ขาดตอนไปในเย็นวันหนึ่งแถวตลาด Florida เพราะการเดินขบวนที่ Plaza de Mayo คิวรอรถเมล์เลื้อยยาวเลี้ยวไปตามมุมสี่แยก ท่ามกลางสายลมหนาวพัดกระโชกแรง บ่งบอกถึงวัฒนธรรมของผู้คนในบ้านเมืองนี้

นั่งแท็กซี่จากท่าเรือมาเอากระเป๋าที่โรงแรม แวะเข้าห้องน้ำแล้ววิ่งไปสนามบิน เปิดมิเตอร์ตลอดเวลา ทั้งหมดจ่ายไป 700 เปโซรวมค่าทางด่วนด้วยแล้ว ถูกกว่าราคาเหมาจ่ายที่ 900 เปโซ

ช่วงที่รถเริ่มวิ่งออกนอกเมือง สองฟากฝั่งมีสนามหญ้าตลอดแนวกว้างราว 70-80 เมตร เห็นครอบครัวอาร์เจนติเนียนมาจอดรถปิกนิกเป็นกลุ่มๆ ทุกกลุ่มนอกจากนั่งล้อมวงกินอาหารแล้ว จะมีเด็กวิ่งไล่เตะลูกฟุตบอลอยู่ ทุกวงดู น.ส.พ.รายวันเห็นลงข่าวเมสซี่ และมีรูปนักฟุตบอลอาร์เจนติเนียนในฮอลแลนด์ถ่ายคู่กับกังหันลม

ฟุตบอลจึงเป็นกีฬาในดวงใจอาร์เจนติเนียนทุกดวง

ได้อาบน้ำเรียกความสดชื่นที่สนามบิน EZE ก่อนจะขึ้นเครื่องกลับ ซื้อของฝากที่ Duty Free เป็นช็อกโกแลตอาร์เจนติเนียนแสนอร่อย และ Turron หรือ “ตังเม” หนึ่งในสองสิ่งที่มาร์โคโปโลนำไปจากเมืองจีน ควบคู่กับเส้นก๋วยเตี๋ยวที่คนยูโรเปียนนำไปพัฒนาเป็นพาสต้า

ยังรำลึกถึงเธอเสมอ

บัวโนสไอเรส ปารีสแห่งอเมริกาใต้

อาร์เจนตินา ดินแดนฟ้าขาวที่ผู้คนหน้าตาฮิสพานิก ผมหลากสีแต่ไม่ดำ บ่งบอกความเป็นเผ่าพันธุ์ยูโรเปียน เปี่ยมล้นด้วยวัฒนธรรมเลิศล้ำ

Gracias