การศึกษา / วันเด็กแห่งชาติ ปี 2562 ‘เด็กไทยรู้คิด มีจิตอาสา’

การศึกษา

วันเด็กแห่งชาติ ปี 2562

‘เด็กไทยรู้คิด มีจิตอาสา’

วันเสาร์ที่ 12 มกราคม 2562 เป็นวันเด็กแห่งชาติ ถือเป็นปีที่ 64 ของการจัดกิจกรรมนี้

ปีนี้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราโชวาทเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2562 ความว่า “เด็กทุกคนควรหมั่นศึกษาหาความรู้ และประพฤติตนเป็นคนดี มีระเบียบวินัย เพราะว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้ จะช่วยให้แต่ละคนประสบความสุขความเจริญ และความสำเร็จในชีวิตได้ในวันข้างหน้า”

และ ศธ.ได้อัญเชิญพระราโชวาทดังกล่าว จัดพิมพ์ไว้ในหนังสือวันเด็กแห่งชาติ ปี 2562 ชื่อ “นอกหน้าต่างบานเล็ก”

 

ขณะที่ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้ประทานคติธรรมเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ว่า

“สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงสอนวิธีทำให้บุคคลได้ชื่อว่าเป็นคนฉลาดสามารถแก้ไขปัญหา และก้าวข้ามพ้นอุปสรรคทั้งหลายได้ด้วยปัญญา บุคคลใดมีปัญญาอย่างถูกต้องแล้ว ย่อมเอาชนะความทุกข์ได้ทุกกรณี แต่ความเป็นผู้มีปัญญาจะเกิดขึ้นอย่างเลื่อนลอยไร้เหตุผลไม่ได้ จะเกิดขึ้นจากการเรียกร้องขอจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรืออ้อนวอนขอจากบุคคลหนึ่งบุคคลใดก็ไม่ได้

ปัญญาจะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยเหตุที่ได้อบรมบ่มเพาะให้เจริญขึ้นด้วยในตนเอง คุณสมบัติแรกที่จะต้องมี เสมือนดั่งการก้าวข้ามธรณีประตูเข้าไปสู่กระบวนการอบรมให้ความรอบรู้บังเกิดมีในตน ต้องเริ่มที่การมี ‘ศรัทธา’ แปลว่า ความเชื่อในสิ่งที่ควรเชื่อ หมายถึง ความเชื่อในสิ่งที่ดีงาม ที่มีเหตุผล ไม่ใช่เชื่ออย่างงมงายโดยปราศจากการพิจารณาไตร่ตรองอย่างรอบคอบเบื้องต้นก่อน เด็กและเยาวชนเป็นกำลังสำคัญที่จะพาบ้านเมืองไทยให้รุ่งเรืองสืบไป จึงขอให้ผู้ใหญ่เร่งปลูกฝัง และสร้างสรรค์ให้เด็กและเยาวชนเป็นผู้หนักแน่นในคุณธรรมข้อศรัทธา โดยเฉพาะศรัทธาในเหตุผลที่ถูกต้อง ตรงทิศทางอันสร้างสรรค์

และขอให้เด็กๆ จงถือหลักเกณฑ์ตัดสินว่าสิ่งใดควรจะเชื่อ หรือสิ่งใดไม่ควรจะเชื่อไว้ 3 ประการ กล่าวคือ

  1. ให้พิจารณาด้วยสติปัญญาให้เห็นแจ้งประจักษ์ด้วยตนเองก่อน
  2. ให้อาศัยความเห็นของปราชญ์ผู้รู้ รวมทั้ง บิดามารดา ครูอาจารย์ เข้าประกอบด้วย

และ 3. ให้คำนึงถึงผลของการปฏิบัติว่าจะเกิดคุณหรือโทษ ถ้าเกิดผลไม่ดีก็ควรละเสีย ถ้าเกิดผลดีก็ควรปฏิบัติต่อไป ขอให้เด็กและเยาวชนทุกคนมีกำลังที่จะอบรมพัฒนาตนเอง ด้วยศรัทธาในคุณความดีนับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ขอจงรักษาคุณลักษณะความเป็นผู้มีเหตุผลที่ถูกต้องเพื่ออนาคตของตนเอง และสังคมไทยของเราทุกคน”

 

ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบคำขวัญวันเด็กว่า “เด็ก เยาวชน จิตอาสา ร่วมพัฒนาชาติ” และมีสารนายกฯ ส่งถึงเด็กๆ ว่า

“เด็กและเยาวชนเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่าของประเทศ การพัฒนาศักยภาพต้องเริ่มตั้งแต่ปฐมวัย ทั้งด้านการพัฒนาด้านสติปัญญา ด้านวิชาการ และด้านทักษะทางอารมณ์อย่างสมดุล พร้อมทั้งกระตุ้นให้เกิดความกล้าที่จะคิด และทำในสิ่งใหม่ๆ ที่เป็นคุณประโยชน์ต่อสังคม และประเทศชาติ เพื่อให้เติบโตเป็นคนดีคนเก่งของสังคม และมีความพร้อมสำหรับการดำรงชีวิตในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

วันเด็กแห่งชาติปีนี้ ผมได้มอบคำขวัญว่า ‘เด็ก เยาวชน จิตอาสา ร่วมพัฒนาชาติ’ โดยมุ่งหวังให้เด็กและเยาวชนไทยทุกคนน้อมนำแนวทางจิตอาสาพระราชทานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาสืบสานต่อพระราชปณิธานของพระองค์ในการเป็นผู้ให้ มีจิตใจโอบอ้อมอารี และอุทิศตนเพื่อส่วนรวม รวมทั้ง ตระหนักในบทบาทหน้าที่ของตนเองด้วยใจที่รัก และยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และตั้งใจศึกษาเล่าเรียน หมั่นพัฒนาตนเองให้เป็นผู้มีความรู้ความสามารถอยู่เสมอ

ดังนั้น เมื่อเด็กและเยาวชนมีจิตอันเป็นสาธารณะประกอบกับความรู้ความสามารถแล้ว ก็จะสามารถปฏิบัติตนให้เกิดประโยชน์ ทั้งแก่ตนเอง และประเทศชาติต่อไป”

 

หนังสือวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2562 ใช้ชื่อว่า “นอกหน้าต่างบานเล็ก” จัดทำขึ้นเพื่อเป็นหนังสือที่ระลึก ในวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2562 และเผยแพร่คำขวัญวันเด็ก “เด็ก เยาวชน จิตอาสา ร่วมพัฒนาชาติ” โดยเนื้อหาประกอบด้วยผลงานของนักเรียนทั่วประเทศ พร้อมบทสัมภาษณ์ และบทความพิเศษจากนักเขียนรับเชิญ อาทิ “กระดาษวาดฝัน” บทกลอน แด่นักวาดฝัน จาก “กุดจี่” พรชัย แสนยะมูล นักเขียนรางวัลจากการประกวดหนังสือดีเด่น ประจำปี 2561, “น้องแพร” เจ้าของเพจ “น้องแพรพาเพลิน” สาวน้อยนักฝันมุ่งมั่นสู่การเป็นช่างแต่งหน้าระดับโลก เป็นต้น โดยในปีนี้ได้จัดพิมพ์หนังสือวันเด็ก จำนวน 3,000 เล่ม เพื่อมอบให้กับเด็กๆ ที่มาร่วมงานในวันเด็กแห่งชาติ ที่ ศธ.

ปีนี้กิจกรรมวันเด็ก จัดขึ้นที่บริเวณกระทรวงศึกษาฯ เวลา 07.00-17.00 น. ภายใต้แนวคิด “เด็กไทยรู้คิด มีจิตอาสา Voluntee KIDs”

เปิดให้น้องๆ เข้าร่วมฟรีตลอดงาน โดยนายกฯ จะเป็นประธานเปิดงาน

และวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา ศธ.ได้นำเด็กและเยาวชนดีเด่น และนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ จำนวน 890 คน เข้าเยี่ยมคารวะ รับโล่รางวัลและรับโอวาทจากนายกฯ ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

 

นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการ ศธ. ระบุว่า การจัดงานวันเด็กปีนี้ เพื่อเสริมสร้างให้เด็กและเยาวชนเป็น “คนเก่ง คนดี มีสุขและมีทักษะอาชีพ” และได้แสดงออกถึงพลังความสามารถทั้งจากความคิด สติปัญญา และการลงมือทำ ซึ่ง ศธ.จัดกิจกรรม แบ่งเป็น 4 โซน ได้แก่

โซนที่ 1 KIDS THINK (เด็กเก่ง) เพื่อให้เด็กๆ รู้จัดคิดวิเคราะห์ มีความรู้ด้านเทคโนโลยี ผ่านกิจกรรมต่างๆ

โซนที่ 2 KIDS DO (เด็กดี) เพื่อให้เด็กๆ ปฏิบัติตนตามคุณธรรมอันดีงามและมีจิตอาสาช่วยเหลือสังคมส่วนรวม พร้อมทั้งมีทักษะในการทำงานอาชีพต่างๆ

โซนที่ 3 HAPPY KIDS (เด็กมีความสุข) เพื่อให้เด็กได้รับความสุขสนุกสนาน โดยผ่านกิจกรรมต่างๆ

และโซนที่ 4 KIDS STAGE (เด็กเป็นแบบอย่าง) เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กได้แสดงออกในทางที่ดี

แต่เนื่องจากในช่วงการจัดกิจกรรมวันเด็ก ตรงกับงานอุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ ซึ่งในบางช่วงได้มีการปิดเส้นทางการจราจร เพราะฉะนั้น อาจจะไม่สะดวกที่ผู้ปกครองจะนำรถเข้ามาในพื้นที่ ทาง พ.ต.อ.สรเสริญ ใช้สถิตย์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 จึงแนะนำให้ผู้ปกครองนำรถไปจอดที่บริเวณสนามม้านางเลิ้งที่สามารถจอดรถได้ถึง 2,000 คัน

และนั่งรถบริการของ ขสมก.ที่ให้บริการฟรีมาส่งยังบริเวณข้าง ศธ.ถนนพิษณุโลก เช่นเดียวกับรถบัส อนุญาตให้ส่งผู้โดยสารที่จุดดังกล่าวเท่านั้น

          ทั้งนี้ ช่วงดังกล่าวมีผู้คนมาร่วมงานค่อนข้างมาก ครูและผู้ปกครองที่นำเด็กมาร่วมงาน จึงควรทำป้ายคล้องคอเด็กพร้อมเขียนเบอร์โทรศัพท์ไว้ หากเกิดการพลัดหลง จะได้ติดตามตัวได้